Share on
×

Share

แดรี่ควีน บลิซซาร์ดโอวันตินภูเขาไฟ 1 เดือน ขายกว่า 1 ล้านถ้วย เดินปรับโฉมแบรนด์ครั้งใหม่

แดรี่ควีน (Dairy Queen) เผยภาพรวมผลการดำเนินธุรกิจ ปี 2564 – 2566 เติบโตต่อเนื่องอยู่ที่ 30% จากปัจจัยด้านกลยุทธ์ที่แข็งแกร่ง ทั้งการขยายสาขา การพัฒนาเมนูใหม่ ๆ รวมถึงการส่งเสริมกิจกรรมการตลาดทั้งออฟไลน์และออนไลน์ ที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายโดยเฉพาะคนไทย ประกาศเดินหน้าสู่การเป็น “The playground for a sweet pause” ในปี 2567 ผ่านกลยุทธ์ที่เข้มข้นกว่าเดิม เตรียมเร่งเครื่องปรับโฉมร้าน เพิ่มคอนเซ็ปต์อัพดีกรีความโมเดิร์น เจาะกลุ่มนิวเจนที่รักความสนุก ผ่านการให้บริการในรูปแบบที่แตกต่างและมีความวาไรตี้มากขึ้น ตลอดจนยังคงเดินหน้าขยายสาขา ตอกย้ำภาพผู้นำไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟอันดับ 1 ในไทย

ธนกฤต กิตติพนาชนม์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไมเนอร์ ดีคิว จำกัด บริษัทในเครือ ไมเนอร์ กรุ๊ป ผู้ดำเนินธุรกิจร้านไอศกรีม แดรี่ควีน เปิดเผยว่า สำหรับการดำเนินงานของแดรี่ควีนในปี 2566 ที่ผ่านมา ภาพรวมมีการเติบโตอยู่ที่ 70% เมื่อเทียบกับปี 2564 ที่ฟื้นจากวิกฤตการระบาดของโควิด-19 ซึ่งเป็นการเติบโตเกินกว่าเป้าหมายที่วางไว้

ในขณะที่ตั้งแต่ปี 2564-2566 ภาพรวมมีการเติบโตขึ้นกว่า 30% ซึ่งเป็นผลจากการดำเนินกลยุทธ์ที่เน้นการตอบโจทย์ผู้บริโภคด้วยเมนูแปลกใหม่ และรสชาติที่โดนใจกลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็น เมนูบลิซซาร์ดข้าวเหนียวมะม่วงน้ำกะทิ รสชาติเข้มข้นสร้างการจดจำ เมนูบลิซซาร์ดโอวันตินภูเขาไฟ ที่สร้างยอดขายในประเทศไทยได้มากกว่า 1 ล้านถ้วยภายในระยะเวลาเพียง 1 เดือน และเมนูบลิซซาร์ดปังกรอบชาไทย ที่ได้รับกระแสตอบรับแบบถล่มทลายจนสามารถทำยอดขายนิวไฮ นำไปสู่กระแสเรียกร้องจากผู้บริโภคให้นำกลับมาวางจำหน่ายอีกครั้ง รวมถึงการออกโปรโมชันส่งเสริมการขายเพื่อขยายฐานกลุ่มผู้บริโภคหน้าใหม่เพิ่มขึ้น พร้อมกับการขยายสาขาให้ครอบคลุมทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปัจจุบันแดรี่ควีนมีจำนวนสาขาครอบคลุมกว่า 520 สาขาทั่วประเทศ พร้อมตั้งเป้าขยายให้ได้ 1,000 สาขา

ขณะที่ทิศทางการดำเนินธุรกิจปี 2567 แดรี่ควีนตั้งเป้ามุ่งสู่การเป็น “The playground for a sweet pause” หรือ ที่ที่ให้คุณได้แวะพัก เติมพลังให้กับชีวิต ผ่านการปรับโฉมแบรนด์ครั้งใหม่ ภายใต้คาแรกเตอร์ ทันสมัย รักสนุก และมีพลัง (Modern, fun-loving, energetic) ควบคู่กับการดำเนินกลยุทธ์ทางการตลาดที่หลากหลาย อาทิ การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายยิ่งขึ้น การเพิ่มช่องทางการเข้าถึงแบรนด์ด้วยการสั่งเมนูผ่าน QR code พร้อมชำระเงินผ่านระบบออนไลน์ เพื่อความสะดวกเพิ่มเติมสำหรับผู้บริโภคยุคใหม่ การให้บริการในรูปแบบ EV truck อีกหนึ่งบริการความอร่อยเคลื่อนที่ พร้อมให้บริการในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งนอกจากจะใช้รถไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังช่วยให้แบรนด์และสินค้าเข้าถึงผู้บริโภคในพื้นที่เป้าหมายได้มากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ แดรี่ควีน ยังได้วางกลยุทธ์เพิ่มมูลค่าให้กับแบรนด์และเมนูต่าง ๆ เพื่อสร้างประสบการณ์ความอร่อยและเป็นพื้นที่ให้ผู้บริโภคได้แวะพักและเติมพลัง ด้วยการเปิดตัว “DQ Lounge” ร้านในคอนเซ็ปต์ใหม่ ที่มาในบรรยากาศสุดโมเดิร์นพร้อมพื้นที่รองรับการให้บริการที่มากขึ้น มาพร้อมเมนูพิเศษที่มีจำหน่ายเฉพาะที่ DQ Lounge เท่านั้น อาทิ เบเกอรี่ และ พาร์เฟต์ โดยได้เปิดให้บริการแล้วที่ร้านแดรี่ควีน ชั้น 1 เซ็นทรัลเวสต์เกต

พร้อมกันนี้ แดรี่ควีนยังมีแผนขยายสาขาเข้าไปยังอาคารสำนักงาน มหาวิทยาลัย และร้านขายส่งเพิ่มเติมเพื่อสร้างการเข้าถึงและใกล้ชิดกลุ่มผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น ควบคู่กับการเพิ่มศักยภาพการบริการในด้านต่าง ๆ เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับผู้บริโภค

ทั้งนี้ จากการดำเนินกลยุทธ์ข้างต้น แดรี่ควีนเชื่อมั่นว่าจะช่วยผลักดันการเติบโตของธุรกิจและทำให้ภาพรวมการดำเนินงานของธุรกิจในปี 2567 เติบโตเป็นไปตามเป้าหมาย ตอกย้ำการเป็นเจ้าตลาดและเป็นแบรนด์ขนมหวาน พรีเมียมที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคทุกสไตล์ อร่อยได้ในทุกโอกาสและทุกเทศกาลความสุขของคนไทย” ธนกฤต กล่าวทิ้งท้าย

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

TikTok ชูแนวคิด “TikTok For All” สร้างโอกาสครีเอเตอร์ ธุรกิจ และคอมมูนิตี้ไทย

กรุงศรี ออโต้ เผย อีเวนต์ยานยนต์ทั่วไทยปี 66 ดันยอดสินเชื่อใหม่กว่า 4,900 ล้านบาท

×

Share

ผู้เขียน