Share on
×

Share

Lessons in Chemistry [Book Review]

ขอรีวิวเล่มนี้เนื่องในวันสตรีสากล (International Women’s Day) ที่สตรีทั่วโลกร่วมเฉลิมฉลองความเสมอภาค และความเท่าเทียมกันในสังคมในเดือนมีนาคมของทุกปี 

Lessons in Chemistry ตีพิมพ์ในปี 2022 ได้รับการแปลเป็นภาษาไทยเรียบร้อยแล้วในชื่อ ‘บทเรียนเคมี’ แต่วันนี้จะขอให้ชื่อภาษาไทยใหม่ว่า ‘เคมีแห่งชีวิต’

พล็อตเรื่องเป็นเรื่องราวของของสองสิ่งหรือมากกว่าที่ผูกพันกันและสร้างสิ่งใหม่ขึ้น เหมือนที่น้ำประกอบไปด้วยไฮโดรเจน + ออกซิเจน แต่ลึก ๆ คือ การต่อสู้ของผู้หญิงที่กว่าจะได้ความเสมอภาคมานั้นต้องเผชิญกับความกดดันมากมายจากสังคม

เรื่องราวของ อลิซาเบธ ซ็อทท์ (Elizabeth Zott) และ คาลวิน อีแวนส์ (Calvin Evans) 
สองนักเคมีผู้มุ่งมั่นในการค้นหาคำตอบด้วยศาสตร์แห่งเคมี ในทศวรรษ 1950s ที่สังคมวางบทบาทผู้หญิงให้เป็นแค่แม่บ้านและแม่ของลูก 

อลิซาเบธเป็นผู้หญิงสวย มาจากครอบครัวนักต้มตุ๋นที่ต้องตระเวณสร้างความมหัศจรรย์เพื่อหลอกขายเครื่องราง เธอและพี่ชายไม่เคยไปโรงเรียน แต่หาความรู้เอาเองจากห้องสมุดสาธารณะในเมืองที่ไป เธอสนใจวิชาเคมี พยายามจนได้เข้ามหาวิทยาลัย แต่เรียนไม่จบเพราะถูกอาจารย์ที่ปรึกษาปลุกปล้ำ แต่มหาวิทยาลัยจบเรื่องด้วยการแนะนำเธอให้กับสถาบันวิจัยเฮสติ้งส์ที่เธอได้พบกับคาลวิน

เบื้องหลังคาลวินก็เศร้าไม่แพ้กัน เขาเป็นเด็กกำพร้า พ่อแม่ที่รับเลี้ยงเสียชีวิตในอุบัติเหตุรถยนต์ ป้าที่เลี้ยงต่อก็เสียชีวิต เขาต้องกลับเข้าไปอยู่ในบ้านเด็กกำพร้า ที่คิดว่าพ่อจริง ๆ ยังอยู่ แต่อายที่จะมารับเขา เขามุ่งมั่นอ่านหนังสือและการพายเรือจนได้ทุนเรียนเคมีที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์และมีผลงานวิจัยที่โด่งดัง เขาเลือกมาทำงานที่เฮสติ้งส์เพราะเชื่อที่เพื่อนทางจดหมายบอกว่าเมืองนี้อากาศดีที่สุดในสหรัฐ เหมาะกับการพายเรือ 

ทุกคนคิดว่าอลิซาเบธใช้คาลวินเป็นสะพานหาชื่อเสียง และคาลวินชอบในความสวยของเธอ แต่เคมีของทั้งคู่ลึกซึ้งกว่านั้น จนคาลวินอยากแต่งงานสร้างครอบครัว จากจุดนี้เองที่ผู้เขียน Bonnie Garmus ทำให้ความเป็น feminist ของอลิซาเบธชัดเจนขึ้นและมากขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงตอนจบ 

อลิซาเบธไม่ยอมแต่งงาน เพราะไม่อยากใช้นามสกุลของสามี เธออยากสร้างชื่อเสียงด้วยตัวเอง ไม่ใช่ในนามคุณนายของใคร 

เธอไม่เข้าใจว่าทำไมพวกผู้ชายถึงปฏิบัติกับเธอแบบมนุษย์ เพื่อนร่วมงาน เพื่อน หรือคนที่เราควรเคารพคนหนึ่งไม่ได้ สำหรับเธอ หญิงและชายคือมนุษย์ที่โตมาแตกต่างกันได้เพราะการเลี้ยงดู ระบบการศึกษา และพฤติกรรมที่เราเลือกที่จะทำ ในทางชีววิทยาแล้ว เราไม่สามารถลดคุณค่าของผู้หญิงให้ต่ำกว่าผู้ชาย หรือยกให้ผู้ชายสูงส่งกว่าผู้หญิง ทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องของสังคม 

ทั้งคู่ไม่อยากมีลูก แต่ในวันที่คาลวินตายด้วยอุบัติเหตุในระหว่างพาหมาไปวิ่ง อลิซาเบธกลับพบว่าเธอตั้งท้อง และถูกไล่ออกจากงานเพราะหัวหน้าสถาบันไม่ชอบที่เธอเก่งเกินหญิง ไม่ยอมลงให้ใคร 

ในระหว่างที่ท้อง เธอก็ยังอยากเป็นนักเคมี จนยอมทุบครัวเพื่อสร้างห้องทดลองที่บ้าน

เธอหาเงินได้นิดหน่อยจากการรับให้คำปรึกษางานวิจัยกับเพื่อนร่วมงานเก่า จนลูกอายุได้สี่ขวบเข้าโรงเรียน และทำให้ครูและเพื่อนหมั่นไส้เพราะฉลาดเกินเด็ก เมื่ออาหารกลางวันของลูกที่เธอทำให้โดยอิงกับวิชาเคมีเพื่อให้ได้ทั้งหน้าตา รสชาติ รสสัมผัสดึงดูดเพื่อนอีกคนที่มีพ่อเป็นโปรดิวเซอร์รายการโทรทัศน์

ในวันที่อลิซาเบธไปโวยพ่อของเพื่อนลูก เขาเห็นแววในตัวเธอและตื๊อให้เธอมาเป็นพิธีกรรายการทำอาหาร เธอยอมเพราะอยากได้เงิน แต่ก็สร้างข้อแม้ตลอด เริ่มจากชุดที่ต้องใส่ที่รัดติ้ว ของประดับในห้องส่ง ไปจนถึงวัตถุดิบที่สปอนเซอร์จัดมาให้ แต่ Supper at Six กลับโด่งดังไปทั่วประเทศ เพราะการทำอาหารแนวใหม่และแนวความคิดแบบ feminist ที่เธอสอดแทรกเข้าไปในรายการ

แนวการเขียนและการดำเนินเรื่องเป็นไปแบบกวน ๆ ทำให้หนังสือน่าอ่านตั้งแต่หน้าแรกจนถึงหน้าสุดท้าย จนไม่อยากเชื่อว่าเป็นหนังสือเล่มแรกของ Bonnie Garmus 

คนอ่านน่าจะขำสิ่งที่อลิซาเบธพูดระหว่างทำอาหาร เพราะเอาวิชาเคมีมาอธิบายว่าทำยังไงอาหารถึงจะออกมาดูดีและอร่อย 

เช่นตอนสอนทำสเต็ก เธอบอกผู้ชมให้โรยโซเดียมคลอไรด์ (เกลือ) และพิเพอรีน (พริกไทย) ทั้งสองด้านของเนื้อ เมื่อเนยบนกระทะกำลังขึ้นฟอง ให้วางเนื้อลงไป ฟองโฟมของเนยบ่งบอกว่าตอนนี้น้ำในเนยกำลังระเหย ซึ่งสำคัญมากเพราะคราวนี้ เนื้อจะถูกทำให้สุกได้ด้วยลิปิด (กรดไขมัน) และไม่ดูดซับ H2O (น้ำ) 

เหมือนที่ผู้เขียนสรุปไว้ตอนหนึ่งว่ารายการทำอาหารของเธอพูดเยอะเรื่องกรดและด่าง และไอออนไฮโดรเจน การแตกตัวทางเคมีที่เมื่อมีการเหนี่ยวนำโดยส่วนผสมและความร้อนแบบจำเพาะ จะทำให้เกิดปฏิกิริยาของเอนไซม์ที่จะทำให้อาหารอร่อย ระหว่างที่พูดหน้าตาเธอดูจริงจังและบอกคนดูตลอดว่ามันไม่ง่ายแต่ก็เชื่อว่าทุกคนทำได้ รายการไม่ชวนให้สนุก แต่ยากเหมือนการปีนเขา จะรู้สึกดีได้ก็ต่อเมื่อรายการจบลง 

Lessons in Chemistry ได้รับคำชมมากมายว่าเป็นหนังสือที่กระตุ้นความคิด (thought-provoking – Guardian) เป็นหนังสือที่เหมาะกับผู้อ่านทั้งหญิงและชายที่เปิดใจว่าเราไม่ควรจำกัดขีดความสามารถของทุกคนบนโลกนี้ หรือถ้าไม่อยากอ่านก็ต้องไปหาซีรีส์ใน Apple TV ดู 

เหมือนที่นิตยสาร Hello ว่าไว้ ‘We guarantee you will love this charming debut.’ รับประกันเลยว่าคุณจะต้องชอบนิยายเปิดตัวที่แสนจะมีเสน่ห์เล่มนี้

รีวิวเล่มอื่น ๆ

Dishonestly Yours เป็นของคุณอย่างไม่จริงใจ [Book Review]

Close to Death – ใกล้ความตาย [Book Review]

The Storied Life of A.J. Fikry [Book Review]

×

Share

แท็กที่เกี่ยวข้อง

ผู้เขียน