เคยสงสัยไหมว่า อะไรคือแรงขับเคลื่อนเบื้องหลังความสำเร็จของ “ดิษทัต ปันยารชุน” อดีตซีอีโอแห่ง OR? คำตอบนั้นง่ายมาก เขาคือคนที่กล้า “ก้าวออกจาก Comfort Zone”
ก้าวแรกเริ่มต้นอย่างไร
พี่บอย-ดิษทัต ปันยารชุน อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร OR เล่าย้อนกลับไปเมื่อปี 2534 เริ่มต้นเส้นทางอาชีพของเขาในธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ ถือเป็นธุรกิจที่ไม่เหมือนใครซึ่งเป็นธุรกิจเดียวในประเทศไทยที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จระดับชาติ (Behind the Scene)
สิ่งที่ทำให้แตกต่าง คือ ความชอบในความท้าทายและการพัฒนาความสามารถของตัวเอง เขาเชื่อว่าการอยู่ในองค์กรขนาดใหญ่โดยไม่เปลี่ยนแปลงตัวเอง และไม่มีจุดเด่น ยากที่จะเติบโต เขานำความแตกต่างของตัวเองมาใช้ พร้อมทั้งกล้าที่จะเผชิญความเสี่ยงในธุรกิจน้ำมันที่มีการแข่งขันสูง เขายอมรับว่าหากไม่เปลี่ยนแปลง เขาคงไม่สามารถมายืน ณ จุดนี้ได้ นี่คือคาแรคเตอร์ที่แตกต่าง จากความสามารถที่โดดเด่นระยะเวลาที่อยู่กับปตท. ทำให้เขาได้รับรางวัลเกียรติยศมากมาย โดยเฉพาะการได้รับรางวัลพนักงานดีเด่นภายใน 4 ปี ของการเข้าทำงาน
อะไรที่เป็นความท้าทายกลับยิ่งชอบ
ดิษทัต เล่าถึงตัวตนของเขาว่าเป็นคนที่ชอบเจอคน ชอบพูดภาษาอังกฤษ และชอบเรียนรู้ในสิ่งใหม่ ๆ ย้อนกลับไปเมื่อเกือบ 30 ปีที่แล้ว เป็นช่วงเวลาที่เริ่มมีการซื้อขายน้ำมันล่วงหน้าในประเทศไทย ซึ่งเขามองว่าเป็นโอกาสสำคัญที่จะสร้างความแตกต่างให้ตัวเอง “ในช่วงนั้นคนในองค์กรปตท. ยังไม่ค่อยมีใครเข้าใจเรื่องการซื้อขายน้ำมันล่วงหน้าหรือการประกาศราคาน้ำมันเบรนท์ ดูไบ ยอมรับว่าในช่วงเวลานั้นคนใน มีคนที่เก่งเรื่องนี้ไม่ถึง 5 คน ผมติดอันดับที่ 3 ในปตท. ที่เรียนรู้การซื้อขายน้ำมันในประเทศอังกฤษ เมื่อเวลาผ่านไป ผมเริ่มเติบโตในธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ ผมคิดตลอดว่าจะทำอย่างไรให้ปตท.เจริญรุ่งเรืองเป็น “Global Journey”
เมื่อเขาตัดสินใจมาบริหารงานที่ OR มีคนตั้งคำถามถึงความมั่นใจของเขา เพราะ OR ถือว่าเป็นองค์กรที่ไม่ธรรมดา และหลายคนมองว่าเขาอาจไม่ประสบความสำเร็จใน OR หรอก และเมื่อ “ยิ่งมีคนดูถูกว่าไม่สำเร็จ ผมกลับยิ่งชอบ” เพราะอะไรที่เป็นความท้าทาย กลับยิ่งชอบ
ตลอดระยะเวลาที่ทำงานใน OR สิ่งที่ต้องทำคือ เมื่อต้องออกไปงาน ภายในไม่ถึง 3 ชั่วโมง หลังจากจบภารกิจแม้จะพูดบนเวทีสัมมนาต่าง ๆ หรือออกไปพบปะพาร์ทเนอร์ธุรกิจ จะสรุปสิ่งที่ได้ทำเพื่อให้เห็นภาพว่าทำอะไรไปบ้างในแต่ละวัน และส่งเข้าในทุกกลุ่มเพื่อสื่อสารให้กับคนใน OR เพื่อให้เกิด Mindset ที่ดีร่วมกัน “ไม่มีวันไหนที่ไม่ส่งงานถ้าไปทำงาน และทุกครั้งจะเป็นคนทำเองทั้งหมด” ความภาคภูมิใจในการวางรากฐานที่สำคัญให้กับ OR ตลอดระยะเวลา 2 ปี 12 วันที่ผ่านมา “ผมมาเพื่อเปลี่ยน เพราะเห็นมีเรื่องราวเยอะมากที่ต้องเปลี่ยน ผมชอบบันทึกและสื่อสาร เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นเสมอ เพราะเราเป็นองค์กรขนาดใหญ่จึงสามารถช่วยคนตัวเล็กได้อีกมากมาย”
แนวทางการดำเนินธุรกิจตาม Mindset
ก้าวสู่ผู้นำ OR จาก Day 1 สู่ปัจจุบัน หากย้อนกลับไปตลอดระยะเวลา 2 ปี 12 วัน ที่ดำรงตำแหน่งใน OR ดิษทัตใช้แนวคิด RISE OR เป็นแกนหลักในการทำงาน R : Result-oriented : มุ่งเน้นผลลัพธ์ที่จับต้องได้ I : Intelligence การนำเทคโนโลยีเข้ามาประยุกต์ใช้ S : Synergy การผสานพลังร่วมกันของทีมงาน E : Entrepreneurship การสร้าง Mindset แห่งความเป็นเจ้าของธุรกิจ
ต่อมาเป็นการจัดโครงสร้างองค์กรเพื่อประสิทธิภาพ เนื่องด้วยจำนวนผู้บริหารระดับรองที่มีมากใน OR จึงได้ปรับโครงสร้างองค์กรให้คล่องตัวขึ้น โดยแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มธุรกิจหลัก ตั้งแต่ 1. กลุ่มธุรกิจ Lifestyle 2. กลุ่มธุรกิจ Mobility 3. กลุ่มธุรกิจ Global และ 4. กลุ่มธุรกิจ OR Innovation
ออกจาก Comfort Zone เพื่อไปสู่ Growth Zone
ดิษทัต กล่าวย้ำ
- อย่าอยู่ใน Comfort Zone หรือความกลัว ดึงตัวเองออกมาจาก Comfort Zone เพื่อไปหา Growth Zone เรียนรู้สิ่งใหม่ ในการทำงานหรือดำเนินธุรกิจ
- องค์กรขนาดใหญ่ต้องให้ความสำคัญกับการเปิดมุมมอง (Operation เยอะ ๆ) ตัดสินใจ พิจารณา ตามหลักเกณฑ์ที่เหมาะสม การใช้ความรู้สึกมาการตัดสินใจตามความต้องการของตัวเอง ไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป
- คำว่า Cross-Functional การเกิดการทำงานร่วม มีความหมายสุงสุดในตัวผม อย่ามองว่าตัวเองสำคัญที่สุดในทีม หรือสร้างกำแพงในลักษณะ “คิงด้อม” เพราะหากเอาแค่ความคิดตัวเอง มันจะไม่เกิดพลังในการขับเคลื่อน
นอกจากนี้ ดิษทัตยังทิ้งท้ายเอาวไว้ว่า อนาคต ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน เป็นสิ่งสำคัญที่ OR ต้องยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยการนำ แดชบอร์ด มาใช้เพื่อจัดการกระบวนการ รับ-เก็บ-จ่าย ให้มีความ สมาร์ท รวดเร็ว และเรียลไทม์ มากที่สุด เช่น การบริหารปั๊มน้ำมันในภาคอีสานซึ่งมีจำนวนทั้งหมด 1,000 แห่งในแต่ละจังหวัด โดยการระบุว่าจังหวัดใดมีปัญหามากที่สุด เพื่อเข้าไปแก้ไขจุดที่จำเป็นได้อย่างตรงจุด ย้ำ! การแก้ไขปัญหาที่ OR ต้องมีความ เรียลไทม์ แม่นยำ และรวดเร็ว ดังนั้น การใช้ แดชบอร์ดดิจิทัล จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง ข้อมูลต้องถูกต้องและรวดเร็ว พร้อมด้วยเครื่องมือที่ช่วยให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
เส้นทางความสำเร็จของ “ดิษทัต ปันยารชุน” คือการไม่หยุดที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง และพร้อมที่จะเผชิญความท้าทาย ความคิดเหล่านี้ไม่เพียงช่วยให้องค์กรก้าวหน้า แต่ยังสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนกล้าที่จะออกจาก Comfort Zone เพื่อสร้างความสำเร็จในแบบของตัวเอง
