Share on
×

Share

SAAM เปิดเกมรุก จับมือ ‘หนึ่ง ปรมินทร์’ และ ‘FWX’ ลุยธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลเต็มตัว

บริษัท เอสเอเอเอ็ม ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SAAM เดินหน้า เปิดกลยุทธ์ในการเข้าสู่อุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างเป็นทางการ ชูบทบาท “ผู้ให้บริการ เพิ่มสภาพคล่อง” (Liquidity Provider) ให้กับศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล พร้อมเตรียมออกหุ้นกู้แปลงสภาพวงเงิน 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 360 ล้านบาท) แบบไม่มีดอกเบี้ย เพื่อรองรับแผนการดำเนินธุรกิจ สินทรัพย์ดิจิทัลอย่างยั่งยืน

พดด้วง คงคามี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสเอเอเอ็ม ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าการเข้าสู่โลกสินทรัพย์ดิจิทัลไม่ใช่เพียงแค่การถือครองเหรียญเพื่อเก็งกำไร แต่เป็นการขยับเข้าสู่โมเดลธุรกิจใหม่ที่สามารถสร้างรายได้ระยะยาว ด้วยการสร้างระบบในการเพิ่มสภาพคล่องและบริการพื้นฐานที่จำเป็นเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลในช่วงเวลาที่บริษัทไทยหลายแห่งยังชั่งใจกับการเข้าสู่โลกสินทรัพย์ดิจิทัล SAAM กลับเดินหน้าเต็มที่ และไม่ได้มองเพียงแค่การลงทุนในคริปโทฯ แต่ก้าวสู่บทบาทการเป็นผู้วางโครงสร้างระบบที่รองรับการเติบโตของตลาดทุนแบบใหม่

“เราไม่ได้เข้ามาเพื่อถือเหรียญ แต่กำลังสร้างโครงสร้างพื้นฐานสำหรับสินทรัพย์ดิจิทัลในไทย ที่จะช่วยให้ตลาดเติบโต และมีรายได้กลับคืนมาอย่างยั่งยืน ซึ่งไม่ต่างจากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ระบบไฟฟ้า หรือท่อส่งน้ำในโลกจริง” พดด้วง กล่าว

ผู้ให้บริการเพิ่มสภาพคล่องในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล คือผู้ที่วางสินทรัพย์ ทั้งคริปโทฯ และเงินบาท ไว้ทั้งสองฝั่งของการเทรดในกระดานซื้อขาย โดยมีโมเดลรายได้ที่มาจาก: 1) ส่วนต่างของราคาซื้อขาย (spread) ซึ่งเมื่อมีผู้ซื้อและขาย ผู้ให้บริการเพิ่มสภาพคล่องจะได้ส่วนต่าง 2) ความแตกต่างของราคา ในแต่ละกระดานเทรด เมื่อราคาของคริปโทในหลายกระดานมีค่าแตกต่างกัน ผู้ให้บริการเสริมสภาพคล่องสามารถซื้อในที่ที่ราคาถูก และขายในที่ที่แพงกว่าได้ ผ่านระบบอัตโนมัติ และ 3) ค่าธรรมเนียมที่เก็บจากกระดานเทรดซึ่งมูลค่าการเทรดที่เกิดขึ้นในแต่ละวันของศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในไทยที่ SAAM สามารถให้ บริการได้นั้นมีมูลค่ามากกว่า 3,000 ล้านบาทต่อวัน และมีแนวโน้มที่จะเติบโตมากขึ้นเรื่อย ๆ

เบื้องหลังการขับเคลื่อนกลยุทธ์นี้ SAAM ไม่ได้เดินเดี่ยว แต่จับมือกับพันธมิตรสำคัญอย่าง นายปรมินทร์ อินโสม ผู้เชี่ยวชาญด้านโครงสร้างบล็อคเชน และการกำกับดูแล และร่วมลงทุนเกือบ 100 ล้านบาทใน FWX แพลตฟอร์ม DeFi ที่มีเทคโนโลยี AI สำหรับการบริหารความเสี่ยง และเทรดแบบไร้ตัวกลาง

ปรมินทร์ อินโสม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นากาโมโตะ แล็บส์ จำกัด กล่าวเสริม “การออกหุ้นกู้แปลงสภาพครั้งนี้ไม่ใช่แค่การระดมทุน แต่คือจุดเริ่มต้นของโครงสร้างใหม่ ที่เปิดให้ ทั้งนักลงทุน และพันธมิตรระดับสถาบันเข้ามามีส่วนร่วมในระบบการเงินดิจิทัลที่ยั่งยืน”

อีกจิ๊กซอว์สำคัญคือ FWX แพลตฟอร์ม DeFi ที่พัฒนาเครื่องมือเทรดโดยใช้ AI เพื่อสร้าง ความ คล่องตัวให้กับ ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลแบบไร้ตัวกลาง ซึ่งออกแบบมา เพื่อให้ นักลงทุนสถาบัน สามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องเผชิญความซับซ้อนทางเทคนิค พร้อมยกระดับ ระบบ Liquidity Provision และ Digital Asset Market Making ให้แข็งแรง และต่อเนื่อง ในระดับโครงสร้าง

ชานน จรัสสุทธิกุล ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอฟดับบลิวเอ็กซ์ จำกัด (FWX) กล่าวว่า “FWX ไม่ใช่แค่แพลตฟอร์ม DeFi ทั่วไป แต่เรากำลังพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการซื้อขายที่สามารถเชื่อมโยงกับนักลงทุนสถาบันทั่วโลกได้อย่างแท้จริง โดยใช้ AI เข้ามาช่วยจัดการความเสี่ยงและเพิ่มประสิทธิภาพในการซื้อขายภายใต้ระบบไร้ตัวกลาง ซึ่งถือเป็นหัวใจของ DeFi ยุคใหม่”

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. อุดมศักดิ์ รักษ์วงวาร ผู้ร่วมก่อตั้งและที่ปรึกษา บริษัท เอฟดับบลิวเอ็กซ์ จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า “การพัฒนา Web3 ที่ยั่งยืนต้องเริ่มจากโครงสร้างสภาพคล่องที่แข็งแรง และการออกแบบ ที่รองรับการเติบโตแบบสถาบัน SAAM และ Nakamoto Labs กำลังวางรากฐานนี้ไว้อย่างมีระบบ ซึ่งจะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับ ตลาดการเงินไทยในระยะยาว”

SAAM ย้ำว่าแผนธุรกิจใหม่นี้ไม่เพียงช่วยกระจายความเสี่ยงจากธุรกิจดั้งเดิม แต่ยังสร้างแนวทาง การเติบโตใหม่ ที่เชื่อมโยงทั้ง “ทุน – เทคโนโลยี – โครงสร้าง” เข้าไว้ด้วยกัน พร้อมผลักดัน ให้ ประเทศไทยก้าวสู่บทบาท ศูนย์กลาง Institutional DeFi และ Web3 Infrastructure ในระดับภูมิภาคและระดับโลก

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

SAMA เปิดตัวในกรุงเทพฯ แกร่งอุตสาหกรรมการตลาดไทย

บางกอกแอร์เวย์ส กางแผนปี 68 ตั้งเป้าขนส่งผู้โดยสาร 4.7 ล้านคน

×

Share

ผู้เขียน