Apollo Neuro ผู้นำด้านเทคโนโลยีเพื่อการนอนหลับและการลดความเครียด เผยผลวิจัย Randomized Controlled Trial (RCT) ที่ได้รับการตีพิมพ์ใน The American Journal of Medicine ยืนยันว่าอุปกรณ์อุปกรณ์ Wearable ของ Apollo Neuro สามารถลดความเครียดและภาวะหมดไฟ (Burnout) ในกลุ่มนักศึกษาแพทย์และเภสัชศาสตร์ในสหรัฐอเมริกาได้อย่างมีนัยสำคัญ
การศึกษาครั้งนี้ติดตามกลุ่มนักศึกษาแพทย์ 66 คนเป็นเวลา 12 สัปดาห์ โดยแบ่งกลุ่มทดลองและควบคุม ผลปรากฏว่าผู้ใช้งาน Apollo Neuro มีคะแนนภาวะ Burnout ลดลงชัดเจนทั้งในด้าน Emotional exhaustion (ความเหนื่อยล้าทางอารมณ์) และ Depersonalization (ความรู้สึกห่างเหิน/หมดใจต่อการเรียนหรือการทำงาน) ขณะเดียวกันยังมีคะแนนคุณภาพชีวิต (Well-Being Index) ที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่สัปดาห์ที่ 6 เป็นต้นไป หลักฐานนี้ตอกย้ำว่า Apollo Neuro ไม่เพียงเป็น “Wearable เพื่อสุขภาพ” แต่ยังเป็น “เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์” ที่ช่วยป้องกันภาวะหมดไฟในบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งมีอัตรา Burnout สูงถึง 70% ทั่วสหรัฐอเมริกา
นอกจากการลด Burnout ที่ได้รับการยืนยันทางการแพทย์แล้ว Apollo Neuro ยังมีวิวัฒนาการก้าวใหม่ด้วยฟีเจอร์ Apollo SmartVibes™ AI เทคโนโลยี AI รุ่นที่ 3 ที่ออกแบบมาเพื่อเรียนรู้พฤติกรรมการนอนของผู้ใช้และปรับรูปแบบการสั่นสะเทือนให้เหมาะสมแบบเรียลไทม์ โดยสามารถตรวจจับอาการกระสับกระส่ายก่อนที่จะสะดุ้งตื่นและตอบสนองเพื่อป้องกันการตื่นกลางดึกได้ทันที ผู้ใช้งานหลายหมื่นรายรายงานว่า สามารถนอนหลับลึกขึ้นและได้เวลาในการนอนเพิ่มเฉลี่ยถึง 60 นาทีต่อคืน
นพ.ดร.เดวิด ราบิน แพทย์และนักประสาทวิทยา ผู้ร่วมก่อตั้งและ Chief Medical Officer ของ Apollo Neuro ผู้ออกแบบระบบ SmartVibes กล่าวเสริมว่า “ก่อนปี 2023 ยังไม่มีเครื่องมือใดที่สามารถป้องกันการตื่นกลางดึกได้ นอกจากการใช้ยานอนหลับที่มีผลข้างเคียงสูง แต่ฟีเจอร์ Apollo SmartVibes AI เปลี่ยนเกมนี้ไปโดยสิ้นเชิง มันไม่เพียงติดตามการนอน แต่ทำงานเชิงรุกเพื่อรักษาความต่อเนื่องของการนอนหลับและเพิ่มทั้งช่วง Deep sleep และ REM sleep สิ่งนี้ถือเป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่ของเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพของยุคนี้”
นับตั้งแต่เปิดตัว SmartVibes AI ในปี 2023 Apollo Neuro ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ ทั้งรางวัล Best Big Idea of 2024, Best Wearable จาก The Robb Report และ Best Sleep Tech อีก 3 สถาบัน จุดแข็งที่ทำให้แตกต่างจากอุปกรณ์ทั่วไปคือฟีเจอร์ SmartVibes™ ไม่ใช่เพียงเครื่องมือ “วัดผล” แต่เป็นระบบปิด (closed-loop) ที่เรียนรู้ข้อมูลไบโอเมตริกและผสานการทำงานกับ Oura Ring เพื่อปรับการสั่นให้ตรงกับจังหวะชีวภาพของผู้ใช้ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเห็นผลลัพธ์สุขภาพที่ดีขึ้นผ่านแอป Oura ได้ทันที
นพ.ศุภชัย ปาจริยานนท์ Managing Partner กองทุน SeaX Ventures หนึ่งในนักลงทุนของ Apollo Neuro กล่าวว่า: “Apollo Neuro คือกรณีศึกษาที่สะท้อนให้เห็นชัดเจนว่าการลงทุนใน Health Tech ไม่ได้เป็นเพียงการสนับสนุนสตาร์ตอัพ แต่คือการลงทุนเพื่อปฏิวัติการดูแลสุขภาพ ผลวิจัย RCT ที่ออกมานี้ยืนยันว่า Wearable อย่าง Apollo ไม่ได้เป็นแค่ Gadget แต่เป็นนวัตกรรมที่สามารถลด Burnout ได้จริง และนี่คือจุดที่ทำให้เราเชื่อว่ามันจะกลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานใหม่ของการดูแลสุขภาพ หรือแม้กระทั่งการสร้างระบบ Corporate wellness สำหรับองค์กรทุกแห่ง”
ความก้าวหน้านี้ไม่ได้หยุดอยู่ที่ผู้บริโภคทั่วไปเท่านั้น แต่ยังสามารถยกระดับการจัดการ Corporate wellness และ Student Welfare ได้ในระดับโครงสร้าง องค์กรขนาดใหญ่โดยเฉพาะที่มีความเครียดสูง เช่น โรงพยาบาล สายการบิน หรือธนาคาร สามารถนำ Apollo Neuro ไปใช้เพื่อช่วยลดการลาออกและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของบุคลากร ขณะที่มหาวิทยาลัยและโรงเรียนแพทย์สามารถบูรณาการเทคโนโลยีนี้เข้ากับโปรแกรมดูแลสุขภาพจิตของนักศึกษาเพื่อลดความเสี่ยงจากภาวะซึมเศร้าและการถอนตัวจากการเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Apollo Neuro วางจำหน่ายจริงแล้วทั่วโลก อีกทั้ง Apollo ยังเปิดโอกาสให้ทุกคนทดลองประสบการณ์ SmartVibes ฟรีผ่านแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ เพื่อให้คุณได้สัมผัสว่าการนอนหลับลึกและการผ่อนคลายที่ดีขึ้นเกิดขึ้นได้จริง
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
รพ.วิมุตพลิกเกมสู่ ‘Tertiary Care’ เจาะตลาดโรคซับซ้อนด้วยโมเดล ‘Health to Home’
‘บอทน้อย’ เปิดวิสัยทัศน์ ‘AI Agent’ พลิกโฉมวงการสาธารณสุขไทย
