แบรนด์ Super Lock โดย บริษัท ไมครอนโปรโมชั่น จำกัด ซึ่งมี สิวารี เจริญจิตมั่น กรรมการ เป็นผู้บริหารรุ่นที่สอง ได้นำพาธุรกิจครอบครัวที่สั่งสมประสบการณ์เกือบ 30 ปี ให้เติบโตและเป็นที่ไว้วางใจในฐานะผลิตภัณฑ์พลาสติกคุณภาพสูงในครัวเรือน สิวารีเข้ามาสานต่อและพัฒนา Super Lock อย่างเต็มตัวเป็นเวลากว่าทศวรรษ บทสัมภาษณ์ล่าสุดของเธอได้เผยให้เห็นเส้นทางความสำเร็จ ปรัชญาการดำเนินงาน และวิสัยทัศน์ที่น่าสนใจของแบรนด์
เรื่องราวของ Super Lock เริ่มต้นขึ้นเมื่อประมาณ 3 ทศวรรษก่อน เมื่อ สิวารี สังเกตเห็นปัญหา (Pain Point) ในการเก็บรักษาอาหารของผู้คนในยุคนั้น สิวารีเล่าถึงภาพความยุ่งยากในอดีตว่า “ในสมัยที่ยังไม่มีกล่องถนอมอาหารใช้กันอย่างแพร่หลาย การซื้ออาหารใส่ถุงพลาสติกแล้วมัดด้วยหนังยาง ก่อให้เกิดปัญหาทั้งเรื่องกลิ่นอาหารปะปนในตู้เย็น หรืออาหารเน่าเสียง่าย”
จากความเข้าใจในปัญหานี้ บิดาของสิวารีจึงได้ริเริ่มแนวคิดในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่จะเข้ามาช่วยแก้ไขสถานการณ์ดังกล่าว โดยมุ่งหวังให้สามารถเก็บอาหารได้นานยิ่งขึ้น ลดปัญหาอาหารเหลือทิ้ง (Food Waste) และที่สำคัญคือยังคงความสดใหม่ปลอดภัยต่อสุขภาพ แนวคิดนี้เองที่เป็นต้นกำเนิดของการผลิตกล่องพลาสติก Super Lock
ช่วงแรก บริษัท ไมครอนโปรโมชั่น จำกัด จะมีประสบการณ์จากการเป็นผู้ผลิตตามคำสั่งซื้อ (OEM) ความปรารถนาที่จะแก้ปัญหาการจัดเก็บอาหารในชีวิตประจำวันของผู้บริโภคทำให่ตัดสินใจเปิดตัวแบรนด์ Super Lock อย่างเป็นทางการในปี พ.ศ. 2545 จึงเป็นหมุดหมายสำคัญของการสานต่อและขยายผลเจตนารมณ์ตั้งต้นนั้นให้เป็นรูปธรรม
ปัจจุบันการผลิตในรูปแบบ OEM ได้ลดบทบาทลงอย่างมาก เหลือเพียงสัดส่วนน้อยนิดราว 5% และส่วนใหญ่เป็นการผลิตเพื่อส่งออกตามคำสั่งซื้อเฉพาะของลูกค้าต่างชาติเป็นหลัก ทรัพยากรและแรงผลักดันส่วนใหญ่ของบริษัทจึงมุ่งเน้นไปที่การสร้างและพัฒนาแบรนด์ Super Lock ให้เป็นที่รู้จักและยอมรับในคุณภาพอย่างกว้างขวาง ทั้งในตลาดประเทศไทยและบนเวทีสากล
หัวใจแห่งคุณภาพ: นวัตกรรมและการผลิตที่ใส่ใจทุกรายละเอียด
ความสำเร็จของ Super Lock ตั้งอยู่บนเสาหลักของคุณภาพที่แน่วแน่ และการตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างลึกซึ้ง บริษัทให้ความสำคัญกับการทำความเข้าใจปัญหา (Pain Point) ของผู้บริโภคเป็นอย่างยิ่ง เพื่อนำมาพัฒนาสินค้าที่สามารถแก้ปัญหาและตอบสนองความต้องการเหล่านั้นได้อย่างตรงจุด
ตัวอย่างที่ชัดเจนคือกล่องถนอมอาหารซีรีส์ “LONGKEPT เก็บนาน” ซึ่งมาพร้อมเทคโนโลยี “ไมโครแบน” (Microban) ลิขสิทธิ์จากสหรัฐอเมริกา คุณสมบัติเด่นของเทคโนโลยีนี้คือช่วยยืดอายุการเก็บรักษาอาหาร โดยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและเชื้อราที่อาจปนเปื้อนบนผิวสัมผัสของกล่อง ทำให้สิ่งที่บรรจุยังคงความสดกรอบได้นานยิ่งขึ้น
สิวารี อธิบายว่า ผลิตภัณฑ์ของซุปเปอร์ล็อคเมื่อใส่อาหารเข้าไปจะช่วยชะลอการเกิดแบคทีเรีย ทำให้อาหารคงความสดใหม่ได้นานขึ้น นอกจากนี้ ฝาล็อกที่ออกแบบมาเป็นพิเศษยังรับประกันความแน่นสนิทแบบสุญญากาศ 100% ช่วยคงความสดใหม่และความกรอบของอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Super Lock ควบคุมกระบวนการผลิตเองตั้งแต่ต้นน้ำจรดปลายน้ำ บริษัทมีแม่พิมพ์เป็นของตนเอง ทำให้การผลิตสินค้าเริ่มต้นตั้งแต่ศูนย์ ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ ดีไซน์ การทำแม่พิมพ์ การฉีดพลาสติก ไปจนถึงการทดลองใช้จริง กระบวนการเหล่านี้ไม่ได้หยุดอยู่แค่การคิดและผลิต แต่ยังรวมถึงการทดสอบซ้ำแล้วซ้ำเล่า และการทดลองใช้งานจริงโดยทีมงาน เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้าทุกชิ้นมีคุณภาพดีเยี่ยมก่อนถึงมือผู้บริโภค
ความใส่ใจในรายละเอียดดังกล่าวยังครอบคลุมถึงการออกแบบเพื่อให้ฟังก์ชันต่าง ๆ เช่น ความแน่นของฝาล็อก และความสะดวกในการเปิดใช้งาน สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคที่มีความหลากหลายได้อย่างลงตัว ในด้านวัสดุ บริษัทเลือกใช้เม็ดพลาสติกคุณภาพสูงจาก SCG เป็นหลัก ด้วยความเชื่อมั่นในคุณภาพของวัตถุดิบไทยซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับสากล โดยเน้นความเป็น Food Grade เพื่อความปลอดภัยสูงสุดในการสัมผัสอาหาร
สินค้าของ Super Lock มีความยืดหยุ่นในการใช้งานสูง สามารถนำเข้าไมโครเวฟ และทนทานต่ออุณหภูมิทั้งในช่องแช่เย็นและช่องแช่แข็งได้ทุกรุ่น อายุการใช้งานโดยเฉลี่ยอาจยาวนานถึง 10 ปี อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาดังกล่าวขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานด้วย เช่น หากนำไปใส่เครื่องแกงที่มีความเข้มข้นสูง อายุการใช้งานก็อาจลดลงได้ ทั้งนี้ สินค้าทุกตัวของ Super Lock ต้องผ่านการทดสอบตามมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) รวมถึงมาตรฐานสากลที่เข้มงวดด้านความปลอดภัยในการสัมผัสอาหารสำหรับการส่งออกไปยังยุโรปและอเมริกา
บริการที่เหนือกว่า มุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์
นโยบาย “การรับประกันฝา” เป็นอีกสิ่งที่สะท้อนความมั่นใจในคุณภาพสินค้าและความใส่ใจลูกค้า หากฝาผลิตภัณฑ์เกิดการแตกหักจากการใช้งานตามปกติ ลูกค้าสามารถส่งฝาเดิมกลับมาให้บริษัทเพื่อเปลี่ยนฝาใหม่ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย สิวารี เล่าถึงที่มาของบริการนี้ว่าหนึ่งในเหตุผลที่ริเริ่มบริการนี้ขึ้น เพราะอย่างน้อยบริษัทจะได้ประเมินคุณภาพสินค้าของตนเองอย่างต่อเนื่อง จากการตรวจสอบฝาที่ลูกค้าส่งกลับมา ซึ่งในความเป็นจริง จำนวนการเคลมมีน้อยมากเมื่อเทียบกับยอดขายทั้งหมด อันเป็นการตอกย้ำคุณภาพและความทนทานของผลิตภัณฑ์
แม้กล่องถนอมอาหารจะเป็นผลิตภัณฑ์เรือธงที่สร้างชื่อเสียงและยอดขายส่วนใหญ่ให้ Super Lock ที่มี SKU เฉพาะกลุ่มนี้ราว 500 รายการ บริษัทยังคงพัฒนาสินค้าพลาสติกอื่น ๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นกล่องรองเท้าซึ่งเป็นที่นิยมไม่แพ้กัน ขวดน้ำพลาสติก หรือกล่องเก็บของอเนกประสงค์ในบ้าน โดยทุกผลิตภัณฑ์ยังคงอยู่ภายใต้มาตรฐานคุณภาพและการออกแบบที่คำนึงถึงประโยชน์ใช้สอยสูงสุดเช่นเดิม
กลยุทธ์การตลาดและการปรับตัวในยุคดิจิทัล
สิวารี กล่าวว่า ในยุคแรกที่การตลาดออนไลน์ยังไม่แพร่หลาย คุณภาพของผลิตภัณฑ์คือเครื่องมือทางการตลาดที่ทรงพลังที่สุดของ Super Lock ชื่อเสียงของแบรนด์สร้างขึ้นจากการบอกต่อแบบปากต่อปากจากลูกค้าที่ประทับใจในผลิตภัณฑ์ วิสัยทัศน์ที่ต้องการสร้างความแตกต่างและนำเสนอสิ่งที่ดีกว่าให้แก่ลูกค้า เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้บริษัทเลือกใส่เทคโนโลยีอย่างไมโครแบนเข้าไปในผลิตภัณฑ์ตั้งแต่แรกแม้จะทำให้ต้นทุนสูงขึ้นก็ตาม
เมื่อเข้าสู่ยุคดิจิทัล Super Lock ได้ปรับกลยุทธ์ทางการตลาดให้สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป โดยหันมาใช้ช่องทางออนไลน์มากขึ้น ทั้งการทำสื่อประชาสัมพันธ์ผ่าน TikTok, Line และแพลตฟอร์มอื่น ๆ รวมถึงการใช้ Micro-Influencer และการไลฟ์สด
นอกจากนี้ บริษัทยังสร้างความสดใหม่ให้กับแบรนด์ผ่านการร่วมมือ (Collaboration) กับแบรนด์ลิขสิทธิ์ตัวการ์ตูนยอดนิยม เช่น Sanrio และ Moomin การเลือกคาแรคเตอร์เหล่านี้ ส่วนหนึ่งมาจากความชื่นชอบส่วนตัวของสิวารี ประกอบกับความเชื่อมั่นว่าเหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ และสามารถดึงดูดกลุ่มแฟนคลับของตัวการ์ตูนเหล่านั้นให้เข้ามาเป็นลูกค้า Super Lock ได้อีกทางหนึ่ง นับเป็นการปรับตัวเพื่อให้เข้ากับผู้บริโภคยุคใหม่ ที่ไม่เพียงแต่ใช้ผลิตภัณฑ์ในบ้าน แต่ยังต้องการนำออกไปใช้นอกบ้านได้อย่างสวยงาม
สินค้ากลุ่ม Collaboration นี้มีสัดส่วนประมาณ 10-20% ของทั้งหมด ช่วยเพิ่มความหลากหลายและสีสันให้กับสินค้าหลักที่เน้นความเรียบง่ายแต่ใช้งานได้จริง ปัจจุบันสัดส่วนยอดขายจากช่องทางออนไลน์อยู่ที่ประมาณ 30% ในขณะที่ช่องทางออฟไลน์ยังคงเป็นช่องทางหลักด้วยสัดส่วน 70%
ภาพรวมตลาดและศักยภาพทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง
Super Lock ยืนหยัดเป็น 1 ใน 3 ผู้เล่นหลักในทุกหมวดหมู่สินค้าที่บริษัทผลิตและจัดจำหน่าย ด้วยยอดการผลิตสินค้ารวมหลายล้านชิ้นต่อเดือน โดยยอดขายในประเทศคิดเป็นสัดส่วน 80% และส่งออกไปยังต่างประเทศอีก 20% ซึ่งเริ่มดำเนินการส่งออกอย่างจริงจังหลังจากการสร้างแบรนด์ได้ประมาณ 5 ปี
บริษัทมีรายได้รวมในปี 2567 อยู่ที่ประมาณ 175 ล้านบาท และคาดการณ์ว่าจะเติบโตเป็น 180-200 ล้านบาทในปี 2568 ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน สิวารี กล่าวว่า หากไม่มียอดขายลดลงก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว อย่างไรก็ตาม ความท้าทายสำคัญคือการแข่งขันที่สูงขึ้นจากผู้เล่นรายใหม่ ๆ ที่เข้ามาในตลาดมากขึ้น ทำให้ส่วนแบ่งตลาดถูกกระจายออกไป
แม้ผู้บริโภคยังคงมีการใช้จ่าย แต่เม็ดเงินอาจถูกแบ่งไปยังผู้ขายรายอื่นมากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าจากประเทศจีนที่มีราคาถูกกว่า ถึงกระนั้น Super Lock ยังคงมั่นใจในการแข่งขันด้วยจุดแข็งด้านคุณภาพ โดยเห็นว่าสินค้าของตนไม่ได้มีราคาสูงกว่าคู่แข่งมากนักเมื่อเทียบกับคุณภาพที่เหนือกว่า
วิสัยทัศน์ “Lifestyle Solution Provider”
สิวารี กล่าวว่า บริษัทมองว่าตนเองไม่ได้เป็นเพียงผู้ผลิตสินค้า แต่มุ่งหวังที่จะเป็น Lifestyle Solution Provider ให้กับลูกค้า ต้องการเป็นแบรนด์ที่สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตของลูกค้าให้ง่ายขึ้น ด้วยเหตุนี้บริษัทจึงไม่หยุดนิ่งในการพัฒนา โดยยังคงมองหาอยู่เสมอว่ามี Pain Point ใดบ้างที่ผู้บริโภคยังต้องการให้แก้ไข
ตัวอย่างเช่น ในช่วงการระบาดของโควิด-19 บริษัทก็ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์การตุนอาหารของผู้คนในสถานการณ์นั้น ๆ
“เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ยินว่า Super Lock เป็นของที่ทุกบ้านมี ซึ่งสิ่งนี้เป็นผลมาจากการให้ความสนใจและใส่ใจในเรื่องคุณภาพสินค้า รวมถึงการศึกษา Pain Point ของผู้บริโภคอยู่ตลอดเวลา”
ก้าวสู่ความยั่งยืน
Super Lock ตระหนักถึงความสำคัญของประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) และได้เริ่มดำเนินการในหลายด้านเพื่อมุ่งสู่ความยั่งยืน จุดเด่นของสินค้า Super Lock คือเน้นการใช้งานซ้ำได้ (Reusable) ซึ่งแตกต่างจากสินค้าพลาสติกใช้แล้วทิ้ง
นอกจากนี้ บริษัทยังมีการพัฒนากลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เป็นแก้ว คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 20% ของพอร์ตสินค้าทั้งหมด เทียบกับพลาสติกที่ 70-75% และ Tritan หรือพลาสติกเกรดขวดนมเด็ก อีกประมาณ 5% เพื่อเป็นทางเลือกให้ผู้บริโภค พร้อมกันนี้ยังมีบางรุ่นที่ปรับไปใช้เม็ดพลาสติกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นและลดพลังงานในการผลิต เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ในด้านกระบวนการผลิต บริษัทได้เริ่มติดตั้งแผงโซลาร์รูฟเพื่อใช้พลังงานสะอาด และมีแผนที่จะทยอยเปลี่ยนรถยนต์ในบริษัทเป็นรถยนต์ไฟฟ้า (EV) รวมถึงการจัดการของเสียอย่างมีความรับผิดชอบ โดยนำเศษพลาสติกบางส่วนไปรีไซเคิลเพื่อผลิตสินค้าอื่น เช่น ถังขยะ
สำหรับเรื่อง Carbon Footprint และ Carbon Neutrality สิวารี ยอมรับว่า “ก่อนหน้านี้ยังไม่ได้ดำเนินการอย่างจริงจัง แต่ในปีนี้ได้เริ่มให้ความสำคัญและพิจารณาเป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญของบริษัท แม้จะยังอยู่ในขั้นตอนการศึกษาและยังไม่ได้มีการเก็บข้อมูล Carbon Footprint อย่างเป็นทางการ”
ศักยภาพภายในองค์กร ขุมพลังเบื้องหลังความสำเร็จ
บริษัท ไมครอนโปรโมชั่น จำกัด ซึ่งเป็นส่วนที่ สิวารี ดูแลโดยตรง มีพนักงานประมาณ 100 คน เน้นในส่วนของสินค้าโปรโมชั่นและการตลาดเป็นหลัก ในขณะที่ บริษัท ไมครอนกรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ จะเน้นในเรื่องของช่องทางออนไลน์
อย่างไรก็ตาม จุดแข็งสำคัญที่ทำให้สามารถควบคุมคุณภาพและสร้างสรรค์นวัตกรรมได้อย่างต่อเนื่อง คือการที่บริษัทดำเนินการเองทั้งหมด ตั้งแต่กระบวนการวิจัยและพัฒนา (R&D) การผลิตแม่พิมพ์ การวิจัยและพัฒนาสินค้า การฉีดพลาสติก การผลิต และการจัดส่ง
ความมุ่งมั่นและผลงานที่โดดเด่นของ บริษัท ไมครอนโปรโมชั่น จำกัด (แบรนด์ Super Lock) ได้รับการยอมรับผ่านรางวัล Bai Po Business Awards by Sasin โดยได้รับรางวัลในหลายมิติสำคัญ ได้แก่ มิติการบริหารจัดการด้านสินค้าและบริการที่สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า มิติการบริหารจัดการด้านการปฏิบัติงาน และมิติการบริหารจัดการด้านการสร้างตราสินค้าและการตลาด
สิวารี ชี้ว่าปัจจัยสำคัญที่นำมาสู่ความสำเร็จนี้คือการยึดมั่นในเรื่องคุณภาพมาอย่างยาวนานตั้งแต่รุ่นบิดา “คุณภาพเป็นสิ่งสำคัญเสมอในทุกยุคทุกสมัย” ประกอบกับการใส่ใจศึกษาความต้องการของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ทำให้ Super Lock สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์และเป็นที่ยอมรับได้อย่างกว้างขวาง
สำหรับผู้ประกอบการ SME ไทย สิวารี ได้ฝากข้อคิดที่น่าสนใจว่า “การมีค่านิยมหลัก (Core Value) ที่ชัดเจน โดยเฉพาะการยึดมั่นในคุณภาพและการตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้า คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธุรกิจสามารถพัฒนาไปข้างหน้าได้อย่างไม่หยุดยั้ง”
นอกจากนี้ การปรับตัวให้ทันกับเทรนด์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การแข่งขันที่ไร้พรมแดน การพัฒนาบุคลากรและเทคโนโลยี รวมถึงการสร้างสมดุลระหว่างการดำเนินธุรกิจกับการดูแลสิ่งแวดล้อม (ESG) เพื่อให้สามารถผลิตสินค้าที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคได้โดยที่ต้นทุนยังสามารถแข่งขันได้ ล้วนเป็นสิ่งสำคัญ และเหนือสิ่งอื่นใด คือการแข่งขันด้วยคุณภาพและนวัตกรรม แทนที่จะเป็นการแข่งขันด้านราคาเพียงอย่างเดียว เพราะการแข่งขันด้านราคานั้นไม่ยั่งยืน
เรื่องราวของ Super Lock เป็นบทพิสูจน์ว่าแบรนด์ไทยสามารถยืนหยัดและเติบโตได้อย่างสง่างามในตลาดที่มีการแข่งขันสูง ด้วยการยึดมั่นใน “คุณภาพ” ที่ไม่เคยประนีประนอม การเข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้ง และการปรับตัวที่ไม่หยุดนิ่งเพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไป ปัจจัยเหล่านี้คือหัวใจสำคัญที่ทำให้ Super Lock ไม่เพียงแต่เป็นผู้นำในตลาดผลิตภัณฑ์พลาสติกในครัวเรือน แต่ยังพร้อมที่จะก้าวไปสู่อนาคตในฐานะผู้สร้างสรรค์โซลูชันเพื่อยกระดับไลฟ์สไตล์ของผู้คนอย่างแท้จริง
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
6 ธุรกิจ SME ต้นแบบ คว้ารางวัล Bai Po Business Awards by Sasin
SIG และ WWF ร่วมมือฟื้นฟูระบบนิเวศและพัฒนาชุมชนไทยอย่างยั่งยืน