Share on
×

Share

เรียนออนไลน์ตั้งปี ก็ยังไม่ชอบอยู่ดี เด็กในเอเชียชอบไปโรงเรียนมากกว่าออนไลน์

จากการสำรวจของแคสเปอร์สกี้รวมกับบริษัทโทลูน่า ในช่วงเดือนเมษายน – พฤษภาคม 2021 พบว่า เด็กจำนวนมากกว่าครึ่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (55%) ชอบการศึกษาแบบตัวต่อตัวมากกว่าการเรียนรู้ออนไลน์ทางไกลที่เกิดขึ้นเนื่องจากการระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งถึงจะเป็นสัดส่วนที่สูง แต่ก็ต่ำสุดเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่น ๆ ทั่วโลก เด็กในลาตินอเมริกาชอบการศึกษาแบบดั้งเดิมมากที่สุด (75%) รองลงมา คือ แอฟริกา (73%) และตะวันออกกลาง (58%)

เด็กส่วนใหญ่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกไม่ชอบเรียนออนไลน์มีหลายสาเหตุ โดยเด็กจำนวน 74% ระบุว่าต้องใช้เวลาอยู่หน้าจอนานมาก เด็ก 60% ระบุว่าเพราะปัญหาทางเทคนิคที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง

เด็กนักเรียน 57% เปิดเผยว่า การเข้าใจสื่อการเรียนรู้ทางไกลนั้นยากมากเมื่อเปรียบเทียบกับชั้นเรียนออฟไลน์ โดยเด็กจำนวนมากกว่าครึ่งยอมรับว่าคิดถึงการเล่นและพูดคุยกับเพื่อนๆ ระหว่างชั้นเรียน

อย่างไรก็ตาม พบว่ามีเด็กจำนวนเกือบครึ่ง (45%) ที่ชอบการเรียนรู้ทางไกลมากกว่า

การสำรวจนี้ ประกอบด้วยผู้ตอบแบบสอบถามในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เป็นผู้ปกครองและครู 517 คน และเด็ก 64 คนที่กำลังศึกษาแบบออนไลน์อยู่

อันเดรย์ ซิเดนโก้ หัวหน้าแผนกความปลอดภัยออนไลน์สำหรับเด็กแคสเปอร์สกี้ กล่าวว่า การปรับเปลี่ยนสู่การเรียนรู้ทางไกลในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 เป็นความท้าทายสำหรับเด็กผู้ปกครองและครูอย่างแท้จริงต้องปรับโครงสร้างหลักสูตรจำเป็นอย่างรวดเร็วเพื่อให้ไม่ส่งผลกระทบต่อการเรียนรู้ของนักเรียนแต่เนื่องด้วยสถานการณ์ต่าง ๆก็ไม่สามาถทำได้เสมอไปจากการวิจัยของเรามีครอบครัวทั่วโลกจำนวนเพียงหนึ่งในห้าเท่านั้นที่ระบุว่าหลักสูตรการเรียนรู้ของเด็กได้รับการปรับให้เข้ากับสถาณการณ์ใหม่อย่างสมบูรณ์

แม้ว่าการเรียนแบบออฟไลน์จะเป็นรูปแบบการศึกษาในโรงเรียนที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดแต่การนำรูปแบบดิจิทัลและอินเทอร์แอ็คทีฟต่าง ๆ เข้ามาในกระบวนการศึกษาเป็นสิ่งสำคัญในปัจจุบัน

วิชาที่ยากที่สุดในการเรียนรู้ทางไกลสำหรับเด็กในเอเชียแปซิฟิก คือ คณิตศาสตร์ (48%) เคมี (28%) ฟิสิกส์ (25%) และชีววิทยา (25%) แนวโน้มนี้เกือบจะเหมือนกันในภูมิภาคอื่น ๆ ทั่วโลก

ผู้ปกครองในภูมิภาคนี้จำนวน 68% ระบุว่าไม่ต้องการใช้รูปแบบการเรียนรู้ออนไลน์นี้ต่อไปอีกหลังการระบาดสิ้นสุดลง สาเหตุหลักมาจากความกังวลว่าเด็กๆ ใช้เวลาอยู่หน้าจอมากเกินไป (68%) และคุณภาพการศึกษาโดยรวมลดลง (48%)

คริส คอนเนลล์ กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกแคสเปอร์สกี้ กล่าวว่าการเรียนรู้ทางไกลในช่วงการระบาดครั้งใหญ่นี้กลายเป็นเรื่องเครียดสำหรับทุกคนที่เกี่ยวข้องทั้งเด็กผู้ปกครองและครูอย่างไรก็ตามผู้ใหญ่ไม่ได้ตัดสินใจอย่างถูกต้องเสมอไปในการช่วยให้ชีวิตบุตรหลานง่ายขึ้นเพราะผู้ใหญ่เองก็กำลังปรับตัวเข้ากับรูปแบบใหม่เช่นกันครูก็ต้องฝึกทักษะการสอนใหม่ ๆ เพื่อการเรียนรู้ทางไกลโดยใช้เครื่องมือดิจิทัลต่างๆควบคู่ไปกับการเรียนออฟไลน์

แคสเปอร์สกี้ขอนะนำโซลูชัน Kaspersky Safe Kids ซึ่งจะช่วยให้ผู้ปกครองทราบว่าบุตรหลานของตนใช้เวลาออนไลน์นานแค่ไหน และยังปกป้องเด็กจากเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมอีกด้วย นอกจากนี้ ผู้ปกครองสามารถดูตำแหน่งปัจจุบันของบุตรหลานได้ ซึ่งจะมีประโยชน์มากหากเด็กกลับมาจากโรงเรียนเพียงลำพัง

ให้บุตรหลานของคุณปลอดภัยทางออนไลน์ ไม่ว่าพวกเขากำลังทำอะไร เล่น เรียน หรือพูดคุยกับเพื่อน

×

Share

ผู้เขียน