โดนัลด์ ทรัมป์ เริ่มเดินหน้าใช้มาตรการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดา เม็กซิโก และจีน หวังใช้เป็นเครื่องมือต่อรองผลประโยชน์กับประเทศคู่ค้า
แม้จะขยายเวลาการเก็บภาษีแคนาดาและเม็กซิโกออกไป 30 วัน หลังบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นเรื่องความมั่นคงชายแดน แต่สหรัฐฯ ก็ยังเดินหน้ามาตรการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้า โดยมีเป้าหมายหลักอยู่ที่แคนาดา เม็กซิโก และจีน
การปรับขึ้นภาษีนำเข้าครั้งนี้มีจุดประสงค์ที่กว้างกว่าเรื่องการค้า โดยสหรัฐฯ ต้องการใช้เป็นเครื่องมือต่อรองกับประเทศคู่ค้าในหลาย ๆ ด้าน เช่น นโยบายส่งกลับผู้อพยพ การแก้ไขปัญหาภัยคุกคามจากยาเสพติด การดึงเงินลงทุนกลับประเทศ และการเสริมสร้างความมั่นคงของชาติ ซึ่งแตกต่างจากครั้งแรกที่มุ่งเน้นเพียงแค่ความเป็นธรรมทางการค้า
สหภาพยุโรป-ไทย เสี่ยงโดนหางเลข
สหภาพยุโรป เวียดนาม รวมถึงไทย มีความเสี่ยงสูงที่จะถูกสหรัฐฯ ใช้เครื่องมือภาษีนำเข้าเพื่อต่อรองผลประโยชน์กับสหรัฐฯ โดยพิจารณาจากยอดมูลค่าการขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ และสัดส่วนการพึ่งพิงตลาดส่งออกสหรัฐฯ เทียบกับ Nominal GDP โดยแคนาดาและเม็กซิโก พึ่งพิงตลาดส่งออกสหรัฐฯ ถึง 28.6% และ 18.2% ต่อ Nominal GDP ตามลำดับ สะท้อนถึงอำนาจการต่อรองของสหรัฐฯ ที่มากกว่า ในขณะที่จีนมียอดการเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ สูงสุด
ผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ และไทย
การปรับขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ เองเช่นกัน โดยอาจทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้นจากราคาสินค้านำเข้าที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์และพลังงาน
สำหรับประเทศไทย ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า สงครามการค้าครั้งนี้จะสร้างผลกระทบต่อภาพรวมการค้าโลกและส่งผลต่อเนื่องมายังการส่งออกไทย ดังนี้
- ผลกระทบทางตรง: การส่งออกสินค้าไทยไปสหรัฐฯ ลดลง โดยสินค้าที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วน โซลาร์เซลล์ ยางล้อ และเครื่องปรับอากาศ
- ผลกระทบทางอ้อม: การส่งออกไปตลาดโลกน้อยลง เนื่องจากการแข่งขันกับสินค้าจีนในตลาดโลกที่รุนแรงขึ้น อาทิ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน ของเล่น เป็นต้น เนื่องจากเป็นสินค้าที่ไทยมีข้อได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบต่ำเมื่อเทียบกับจีน และเป็นสินค้าที่จีนมีมูลค่าการส่งออกสูง นอกจากนี้ การส่งออกไทยไปจีนก็คาดว่าจะลดลงในกลุ่มที่มีความเกี่ยวเนื่องกับห่วงโซ่อุปทานการผลิตของจีน ได้แก่ ยาง พลาสติก ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
โอกาสและความท้าทายของไทย
อย่างไรก็ตาม หากมีการเลื่อนการขึ้นภาษีนำเข้ากับไทยออกไป ไทยอาจได้รับอานิสงส์จากการส่งออกไปสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นเพื่อทดแทนการนำเข้าจากประเทศอื่น ๆ โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วน เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน ยางรถยนต์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า
มาตรการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกในวงกว้าง ประเทศไทยเองก็มีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบจากมาตรการนี้ ทั้งทางตรงและทางอ้อม อย่างไรก็ตาม การเจรจาต่อรองระหว่างประเทศต่าง ๆ อาจนำมาซึ่งโอกาสสำหรับประเทศไทยได้เช่นกัน
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ทำความรู้จัก DeFi เงินดิจิทัลไร้ตัวกลาง และ RWA สินทรัพย์จริงแปลงเป็นโทเคน
กสิกรไทยเปิดแผนปี 68 ใช้เทคโนโลยีขับเคลื่อนการเติบโต และยกระดับบริการ
