Share on
×

Share

เจาะเทรนด์การลงทุนด้วย Digital Asset กระแสการลงทุนรูปแบบใหม่ในยุคดิจิทัล

เทรนด์การลงทุนในปัจจุบันนี้ ไม่ได้มีแค่การลงทุนแบบดั้งเดิมที่เราคุ้นเคยกัน อย่างการออมทอง ลงทุนในหุ้น พันธบัตร กองทุน ฯลฯ แต่กำลังก้าวเข้าสู่อีกยุคของการเปลี่ยนผ่านทางเทคโนโลยี และนำการลงทุนทั้งหลายเปลี่ยนมาเป็นสิ่งที่เรียกกันว่า “Digital Asset” หรือ “สินทรัพย์ดิจิทัล” ที่ถูกสร้างขึ้นบนระบบหรือเครือข่ายอิเล็กทรอนิกส์ แต่สามารถซื้อ-ขายแลกเปลี่ยนความเป็นเจ้าของได้กันมากยิ่งขึ้น ซึ่ง Digital Asset ก็นับเป็นภาพใหญ่กว่าการลงทุนคริปโทเคอเรนซีที่หลายคนรู้จัก และก็จะกลายเป็นอีกหนึ่งเทรนด์การลงทุนที่น่าสนใจอีกกระแสหนึ่ง ที่พลาดไม่ได้ในยุคนี้ด้วยเช่นเดียวกัน

นี่จึงเป็นโอกาสที่ดี ในการที่จะมาทำความเข้าใจในเรื่องของเทรนด์การลงทุนบน Digital Asset และทำการอัปเดตถึงการความก้าวหน้าของการลงทุนด้วยสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทยจากหัวข้อเสวนา Shaping Tomorrow – Investment Trends in the Chainlinkt Era เพื่อทำให้เห็นถึงกระแสของความเปลี่ยนแปลงในด้านการลงทุนที่เกิดจากเทคโนโลยีกันมากขึ้น และเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการรับมือที่ถูกต้องได้ในอนาคต

กระแสของ Digital Asset จากฝั่งยุโปรและอเมริกาคือสิ่งที่ต้องจับตามอง

สรัล ศิริพันธ์โนน Senior Director จาก Orbix Trade Co.,Ltd กล่าวถึงกระแสที่น่าสนใจของ Digital Asset ในปัจจุบันนี้ว่า ถ้าพูดถึงตลาดซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในไทย ยังมีภาพรวมที่ไม่ได้ต่างจากตลาดโลกมากนัก เนื่องจาก Digital Asset ในปัจจุบันยังเป็น Global Asset อยู่ ถ้าตลาดโลกขยับตัวไปทางไหนประเทศไทยก็จะยังเคลื่อนที่ตามไปในทิศทางนั้น และในตอนนี้นักลงทุนหรือผู้ประกอบการเองก็คงจะกำลังมองดูทิศทางลมกันอยู่ว่า ตลาดโลกจะขยับกันไปในทิศทางไหนในส่วนของ Digital Asset ซึ่งถ้าเรามองดูที่อยู่ฝั่งยุโรปก็จะมีเกณฑ์ตัวใหญ่ที่ออกมาในปีนี้ ซึ่งจะมีผล 2 รอบ โดยรอบเล็กก็คือในช่วงเดือน 6 ที่ผ่านมา ส่วนอีกรอบจะเป็นช่วงปลายปี ซึ่งในช่วงรอบเล็กอาจจะยังมองไม่เห็นผลกระทบสักเท่าไร นอกจากการ Delete USDT ที่ฝั่งยุโรป แต่ก็ยังไม่ได้ส่งผลต่อ USDT โดยรวมมากขนาดนั้น ทุกคนจึงจับตามองว่า ฝั่งยุโรปจะมีการออก Framework อะไรขึ้นมาหรือเปล่า เพราะถ้าฝั่งยุโรปทำสำเร็จทั่วโลกก็น่าจะนำมาปรับใช้เช่นกัน

หากมองไปในฝั่งของอเมริกา ตอนนี้จะเน้นไปที่การจับตาดูในเรื่องของการเมืองว่าใครจะได้เป็นประธานาธิบดี เพราะอย่างทรัมป์เอง ก็ค่อนข้างเปิดตัวว่า สนับสนุน Cryptocurrency และสนับสนุน Digital Asset อีกส่วนหนึ่งคือการจับตาดู FED ว่าจะมีการเพิ่มหรือลด interest rates อย่างไร เพราะทุกคนก็น่าจะจับตามองกันมาสักพักแล้วแต่ยังไม่พบว่าจะลดสักที เลยคิดว่ากระแสที่ทุกคนมองก็คงจะเป็นเรื่องทิศทางของทั้งทางฝั่งยุโปรและอเมริกาเป็นหลัก เพราะทุกวันนี้ยังเป็น Global Asset อยู่ ประเทศไทยจึงยังต้องติดตามกระแสจากทั้งสองฝั่งเป็นหลัก

Real world asset tokenization เทรนด์ใหญ่ที่ทุกคนให้ความสนใจ

ต่อมา Nicha Cygnel, Senior product manager จาก Kubix ได้กล่าวถึงกระแสของ Digital Asset ในมุมของวงการระดมทุนว่า สิ่งที่เป็นเทรนด์ทั่วโลกที่เห็นได้อย่างชัดเจนเลยก็คือ Real world asset tokenization โดยในเมืองไทยจะเห็นได้จากลูกค้าที่เข้ามาขอรับคำปรึกษากับทาง Kubix ที่จะมีความเข้าใจและรู้จัก Terms ต่าง ๆ ใน Digital Asset Area เยอะขึ้น และจากเดิมที่เข้ามาแล้วมักจะถามกันว่า blockchain คืออะไร เป็นคริปโทฯ หรือเปล่า แต่ตอนนี้คำถามเหล่านั้นไม่มีแล้ว แต่จะถามว่า เราสามารถเอา ICO มาทำอะไรได้บ้างที่เป็นประโยชน์กับธุรกิจของเขา สามารถใช้ ICO ในการระดมทุนแล้วมีข้อดีอย่างไรเมื่อเทียบกับ IPO หรือว่าหุ้นกู้ แสดงให้เห็นว่าหลายคนเข้าใจและมีความรู้พื้นฐานกันมากขึ้นอยู่แล้วว่า การออก ICO สามารถ Customize รูปแบบการลงทุน หรือว่ารูปแบบของผลตอบแทนให้สอดคล้องกับพวก Stage ของ Business ได้

สำหรับฝั่งของนักลงทุน ก็จะเห็นแพตเทิร์นเดียวกัน นั่นก็คือ ลูกค้าองค์จะเริ่มมีความตื่นตัวในการเตรียมความพร้อมที่จะรองรับในอนาคต ต่อไปในการลงทุนในการถือครอง Investment ต่าง ๆ ของธุรกิจจะปรับไปอยู่ในรูปแบบที่เป็นดิจิทัลมากขึ้น ลูกค้าจึงพยายามที่จะศึกษาและเตรียมตัวว่า ถ้าวันหนึ่งจะต้องลงทุนใน Digital Asset จะต้องทำอะไรบ้าง เพราะวิธีการนั้นจะแตกต่างกับการถือหุ้นหรือหุ้นกู้ นี่ก็จะเป็นงานส่วนหนึ่งที่ Kubix รับฟังและรับ requirement ต่าง ๆ มาเพื่อนำมาออกแบบ journey และช่วยให้ทางลูกค้าได้เตรียมความพร้อมในการเข้ามาอยู่ใน Area Digital Asset ได้มากขึ้น

สิทธวีร์ ธีรกุลชน Community Advocate จาก Chainlink กล่าวเสริมว่า Chainlink ในปีนี้เอง เน้นเรื่อง Real world asset tokenization มากขึ้น ซึ่ง Real world asset tokenization เป็นกระบวนการที่เปลี่ยนสินทรัพย์ในโลกจริงเป็นโทเคนดิจิทัล ในที่นี้อาจจะคิดถึงพันธบัตรรัฐบาลสกุลเงินดอลลาร์หรือว่า Real Estate ที่มีมูลค่ามหาศาลที่สามารถนำมาทำ Tokenization ให้กลายเป็นสินทรัพย์อยู่บน blockchain ได้ World economic forum ก็คาดการณ์ว่า ตลาด Real world business digital จะใหญ่อยู่ที่ประมาณ 867 trillion-dollar เมื่อเทียบกับ Cryptocurrency นี่คือเล็กไปเลยถ้าเอา Real World Asset ทั้งหมดมาผสมกัน ก็คิดว่าจะกลายเป็นกระแสหนึ่งในโลกที่ตอนนี้คนในวงการ Digital Asset ค่อนข้างตื่นตัวด้วยเช่นกัน

เทรนด์เทคโนโลยีในโลกของ Digital Asset

ลภัสวัฒน์ ไชยภพธนัชพร ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์ บริษัท ออร์บิกซ์ เทคโนโลยี แอนด์ อินโนเวชั่น จำกัด กล่าวถึงเทรนด์ที่มองเห็นคือ เรื่องของ Demand Side กับตัว Supply Side อย่างการมาของ Layer 2 ที่ค่อนข้างมีคนเอามาใช้เยอะขึ้น หลายท่านอาจจะพอรู้เรื่อง blockchain ว่าจะมีเรื่อง Trilemma อยู่แล้ว ซึ่งเข้าใจว่า Chain ใหญ่ ๆ ส่วนมากจะโฟกัสในมุมของ Security Decentralized ตัว Layer 2 เองก็จะมาตอบโจทย์ในเรื่องของการ Security มากขึ้น ส่วนอีกเทรนด์ที่เราพูดกันเลยก็คือ Real World Asset ซึ่งเรามีความเชื่ออย่างหนึ่งว่า ในอนาคตของที่มีอยู่จะถูกเปลี่ยนเป็น Digital format มากขึ้น  นี่จึงเป็นที่มาว่าทำไมเราต้องทำ chain เพื่อไปเสริมความต้องการในอนาคตที่เราที่เราคาดการณ์เอาไว้

เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้นลองจินตนาการว่า ถ้าย้อนกลับไปซักหลายสิบปีที่ผ่านมา ธนาคารอยู่ในรูปแบบของตึกอาคารกันทั้งหมด เพราะว่าเรามักไปเปิดกันตามแหล่งที่อยู่อาศัยหรือตลาด พอวันหนึ่งคนเปลี่ยนมาเป็นเดินห้างสรรพสินค้า เราก็ต้องแปลงการทำธุรกรรมมาเป็นตู้และมีการใช้บัตรพลาสติกในการเบิก ถอน ฝาก แต่เมื่อเรามีการใช้อินเทอร์เน็ตกันมากขึ้น ก็ต้องแปลงตัวเองกันมาอยู่ในปลายนิ้วของลูกค้า ดังนั้น วันนี้ เราก็เชื่อว่าในอนาคตจะถูกเปลี่ยนอยู่ในรูปแบบดิจิทัลมากขึ้นกว่านี้อีก ส่วนในฝั่งของ Demand side หรือ User side จะเห็นในเรื่องของเทรนด์ AI ว่าในตอนนี้มี Chain หลายโปรโตคอลที่เกาะกระแสในเรื่องของ AI ที่เห็นกันบ่อย ๆ คือ เรื่องของการทำ Social file ที่เริ่มจะมีการเอามาปรับใช้มากที่สุด

ลภัสวัฒน์ ยังอธิบายเพิ่มเติมอีกว่า ทำไมเราถึงต้อง Tokenization จากตัวอย่างธนาคารให้มารันอยู่บน blockchain ซึ่งก็ได้ทำการยกตัวอย่างการซื้อของบน E-commerce platform ที่เราเข้าใจว่าการจ่ายเงินซื้อของออนไลน์นั้นเป็นแบบ Real Time จากการที่แพลตฟอร์มทำการ intergrade เรื่อง payment Gateway เข้าไป แต่ในการทำ Access Cart อื่น ๆ อย่าง UST bill ต่าง ๆ กว่าที่จะทำงานเสร็จก็อาจจะใช้เวลาเป็นชั่วโมงหรือเป็นวัน ๆ ดังนั้น Real World Asset Trend จึงเป็นแนวคิดที่จะเอาคน เอาของเอาเงิน มาอยู่ในที่เดียวกัน และยกไปอยู่ใน Format เดียวกันและทำงานได้แบบอัตโนมัติ ทำให้หลายอย่างทำได้เร็วและสะดวกมากขึ้น อย่างเช่น การโอนเงินไปต่างประเทศจากเดิมที่อาจจะเร็วในหลักชั่วโมง ก็อาจจะเหลือแค่หลักวินาที นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราต้อง TokenNite และรันของให้อยู่บน blockchain

ทางด้าน สรัล ยกตัวอย่างเสริมเพิ่มเติมในเรื่องของอสังหาริมทรัพย์ที่ปัจจุบันกระจายให้ทางต่างประเทศเข้ามาลงทุนด้วยได้ ซึ่งไม่จำเป็นที่จะต้องเป็น total ownership แต่ถือเอาไว้ปล่อยเช่า หรือเอาไว้ปล่อยกู้ ดังนั้น สิ่งนี้ก็จะช่วยให้การระดมทุนในอนาคตนั้นมีความยืดหยุ่นมากขึ้น เรียลไทม์มากขึ้น ตรวจสอบได้มากขึ้น โดยไม่ต้องรอทางการคอยอนุมัติ เพราะว่าทุกอย่างเกิดขึ้นบน blockchain ได้

สถานการณ์ช่วงนี้ของหน่วยงานที่ดูแลด้าน Digital Asset ในประเทศไทยเป็นอย่างไร

สรัล กล่าวว่า หน่วยงานกำกับดูแลในไทยค่อนข้างเปิดกว้างใน Digital Asset แล้วก็มีความตั้งใจในการกำกับดูแล ซึ่งสิ่งหนึ่งที่หน่วยงานกำกับดูแลได้พูดไว้ค่อนข้างชัดเจนเลยก็คือ ในปี 2 ปีข้างหน้าจะทำให้เกณฑ์ Reclassify Asset นั้นมีความแข็งแรงและชัดเจนมากขึ้น ตอนนี้เรามี Digital Asset และมี Economy ของ Digital Asset ระดับหนึ่งแล้ว แต่ Digital Asset บางตัวอาจจะยังถูกมองเป็นหลักทรัพย์ได้ ดังนั้น หน่วยงานที่กำกับดูแลจึงอยากทำให้มันชัดเจนยิ่งขึ้น เช่น สินทรัพย์ดิจิทัลบางตัวก็จะไปเข้าเกณฑ์หลักทรัพย์ บางตัวก็จะยังอยู่ฝั่ง Digital Asset ทีนี้ความท้าทายจะไปอยู่ที่ผู้ประกอบการหรือผู้ออก Digital Token ที่จะต้องทำความเข้าใจในกฎเกณฑ์เหล่านั้นมากขึ้น เพราะผู้เล่นในฝั่ง Digital Asset ก็จะไม่คุ้นกับเกณฑ์ในฝั่งหลักทรัพย์ หรือว่าผู้เล่นฝั่งหลักทรัพย์ที่อยากกระโดดเข้ามาลงทุนใน Digital Asset ก็ยังอาจจะยังไม่คุ้นเคยเกณฑ์ Digital Asset มากนัก แน่นอนว่า จำเป็นที่จะต้องเรียนรู้เกณฑ์ของทั้ง 2 ฝั่ง แต่ข้อดีคือ มีความชัดเจนที่มากขึ้น จึงเชื่อว่า นี่จะเป็นสิ่งที่ช่วยให้ประเทศไทยเดินหน้าไปในทางที่ถูกต้อง ด้วยวางรากฐานให้มั่นคงแข็งแรงก่อนที่เราจะสร้างตึกต่อไปได้นั่นเอง

สำหรับทางฝั่งของ Nicha กล่าวว่า ก.ล.ต. ค่อนข้างจะมีความตื่นตัวที่จะพยายามเข้ามาสนับสนุนในด้าน Digital Asset ให้มีพื้นที่ในฐานะ Mainstream product ในเมืองไทย หรืออย่างน้อยก็เทียบเท่ากับหลักทรัพย์อื่น ๆ ที่มีอยู่แล้ว ยกตัวอย่างเรื่องเกณฑ์ของ Thailand ESG Fund (ThaiESG) ที่ออกมาเมื่อปลายปีที่แล้ว ก.ล.ต. ก็เปิดช่องแล้วว่าให้กองทุนไทย ESG สามารถมาลงทุนใน Investment Token ได้ เป็นหนึ่งใน Underlying Asset ของกองทุน ซึ่งก็เห็นว่า ก.ล.ต. พยายามหาวิธีภายในขอบเขตอำนาจที่ทำให้ Investment Token สามารถเข้าถึงนักลงทุนในโลกได้มากขึ้น และอีกตัวอย่างหนึ่งคือ ปีนี้ ก.ล.ต. มีเรื่อง Regulatory Sandbox สำหรับ Digital Asset ที่ผู้ประกอบการทั่วไปที่อยากจะจะทดลองเอา innovation หรือเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาให้บริการอะไรที่เกี่ยวข้องกับ Digital  Asset ก็สามารถมาเข้าร่วมใน Sandbox ของ ก.ล.ต. แล้วก็ทดลองให้บริการนั้นได้โดยที่ยังไม่ต้องขอใบอนุญาตที่เกี่ยวข้องได้ แล้วหลังจากนั้นก็อาจจะไปขอใบอนุญาตตามหลังก็ได้

ก้าวถัดไปของโลก Digital Asset จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร

Nicha มองว่า โลกของ Traditional World กับ Digital World ความเกี่ยวข้องกันมากขึ้น และเราก็เห็นแล้วว่า ก.ล.ต. ไม่นานมานี้มีออก Hearing เกี่ยวกับหลักทรัพย์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งก็นับว่าเป็นแบบสัญญาณให้เห็นว่าหลาย ๆ อย่างเริ่มขยับไปอยู่ในภาพของดิจิทัลมากขึ้น ต่อไปในอนาคตแล้วก็คิดว่าถ้าเราเรียกว่า นักลงทุนจะสามารถเข้าถึงการลงทุนในรูปดิจิทัลได้มากขึ้น ในขณะเดียวกัน สมมติว่ามีผู้เล่นที่อยู่ในโลกเว็บฟรีหรืออะไรอยู่ เขาก็จะสามารถเข้ามาลงทุนใน real-world assets ได้ง่ายขึ้นด้วย

ด้านสรัลมองว่า ในฝั่งนักลงทุน ถ้า ETF สามารถใช้งานได้ เราจะได้เห็นข้อมูลมากขึ้น เห็นตัวเลจมากขึ้นว่า ผู้ลงทุนทั่วไปมีความสนใจใน bitcoin ใน ethereum ETF มากน้อยแค่ไหน เพราะถ้าเปิดแล้วก็จะสามารถลงทุนผ่าน Broker ที่เชื่อใจได้เลย ส่วนในฝั่งของภาคอุตสาหกรรม หน่วยงานที่กำกับดูแลเรื่องนี้ถ้าวางโครงสร้างหรือกติกามาดี ก็ช่วยให้เรามีโอกาสทำให้อุตสาหกรรมในประเทศไทยเติบโตดีขึ้น

ลภัสวัฒน์ ตอบในมุมของเทคโนโลยีและไลฟ์สไตล์ อย่างเช่น ในอนาคตเราอาจจะได้ใช้ตั๋วคอนเสิร์ตโดยที่เราไม่รู้ตัวจริง ๆ แล้วมันเป็น blockchain หรือเป็น Token อะไรบางอย่าง เนื่องจากเทคโนโลยีเหล่านี้ก็ดูแล้วไม่ต่างกับสิ่งที่เป็นอยู่แล้วในปัจจุบัน แต่อาจจะผสานเข้ากับการใช้ชีวิตให้สะดวกมากยิ่งขึ้นแบบไม่รู้ตัว แล้วในภาคของธุรกิจและองค์กรที่นำไปประยุกต์ใช้ก็จะได้ประโยชน์จากสิ่งเหล่านี้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

จัดพอร์ตการลงทุน แบบ Core & Satellite บริหารความเสี่ยง อุ่นใจในทุกสถานการณ์

และแล้วก็มีวันนี้ !!

ถอดบทเรียนการสร้างธุรกิจจากบริษัทชั้นนำ การคว้าโอกาส และการปรับกลยุทธ์ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง

×

Share

ผู้เขียน