Share on
×

Share

BITKUB SUMMIT 2025 เจาะลึก 3 ปัจจัยหลัก การเงิน-สุขภาพ-เทคโนโลยี รับมือโลกอนาคต

Bitkub Capital Group Holdings เตรียมจัด “Bitkub Summit 2025” ภายใต้แนวคิด “Gateway to the Future: เปิดประตูเทคโนโลยีและการลงทุนสู่โลกอนาคต” ยกระดับสู่แพลตฟอร์มระดับชาติ มุ่งเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจใหม่ให้คนไทยใน 3 เสาหลักสำคัญ ได้แก่ ความรู้ทางการเงิน (Financial Literacy) ความรู้ด้านสุขภาพและการมีอายุยืน (Health & Longevity Literacy) และความรู้ด้านดิจิทัล (Digital Literacy) เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับความท้าทายเชิงโครงสร้างและคว้าโอกาสในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด เผยแผนจัดงาน BITKUB SUMMIT 2025 ว่า หลังจากความสำเร็จจากงาน BITKUB SUMMIT 2024 ที่มีผู้เข้าร่วมงาน 22,000 คนมากกว่าเป้าหมายที่วางไว้ และมีผู้เข้าชมออนไลน์กว่า 70 ล้านวิว ปีนี้จะใช้งบประมาณมากกว่าเดิม 3 เท่า จัดงาน BITKUB SUMMIT 2025 ภายใต้แนวคิด “Gateway to the Future: เปิดประตูเทคโนโลยีและการลงทุนสู่โลกอนาคต” วันที่ 25-26 ตุลาคม 2568 ณ Exhibition Hall 3-4 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ด้วยเป้าหมายผู้ร่วมงานกว่า 50,000 คน และยอดชมออนไลน์ 100 ล้านวิว

ความรู้เหล่านี้เป็น “สิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน” งานนี้จึงเป็นมากกว่างานสัมมนา แต่เป็นโครงการริเริ่มระดับชาติที่มีความทะเยอทะยานเป็น “Davos of Thailand” ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงองค์ความรู้เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต 

จากความสำเร็จอย่างล้นหลามของ Bitkub Summit 2024 ได้จุดประกายวิสัยทัศน์ในการสร้างเวทีที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม Bitkub Summit 2025 ที่จะไม่ได้เป็นเพียงงานสัมมนา แต่เป็นความพยายามในการสร้างกลไกการสนทนาระดับชาติเพื่อขับเคลื่อนวาระสำคัญของประเทศ งานนี้จะเป็นเวทีสำคัญที่ส่งต่อโอกาสทางความรู้และอินไซต์สำคัญจากนักธุรกิจ นักลงทุน และผู้นำในแต่ละวงการ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนไทย และต่างประเทศ เพื่อเป็นพื้นที่ที่คนไทยทุกคนสามารถเข้าถึงความรู้และโอกาสใหม่ ๆ ได้ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย มีเนื้อหาครอบคลุม 3 ประเด็นหลัก ซึ่งเป็นวิกฤติสำคัญของคนไทย ได้แก่

ความรู้ด้านการเงิน (Financial Literacy)

หนึ่งในภารกิจเร่งด่วนของ Bitkub Summit 2025 คือการแก้ไขปัญหาความเปราะบางทางการเงินของคนไทย ท่ามกลางสถานการณ์หนี้ครัวเรือนที่พุ่งสูงกว่า 90% ของ GDP ซึ่งสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ ปัญหานี้ซ้ำเติมด้วยการขาดความรู้ความเข้าใจด้านการเงินและการลงทุนที่ไม่ได้ถูกบรรจุในการศึกษาหลัก ตั้งแต่ระดับประถมศึกษาจนถึงมหาวิทยาลัย

นอกจากนี้ การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคการเงินดิจิทัล การมาถึงของสกุลเงินดิจิทัล และศักยภาพของ Bitcoin ในฐานะ ทุนสำรองเชิงกลยุทธ์ (Strategic Reserve) ของประเทศต่าง ๆ ยิ่งเพิ่มความซับซ้อนและความจำเป็นในการปรับตัว Bitkub Summit จะเป็นเวทีที่รวบรวมผู้เชี่ยวชาญทั้งในและต่างประเทศ เพื่อมอบความรู้พื้นฐานที่ถูกต้อง สร้างความเข้าใจในภูมิทัศน์ทางการเงินที่กำลังเปลี่ยนแปลง   

ความรู้ด้านการเงิน (Financial Literacy) นำเสนอความรู้ความเข้าใจทางการเงิน พร้อมแนวโน้มและโอกาสการลงทุนในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล ทั้งในตลาดทุน สินทรัพย์ดิจิทัล และการลงทุนทางเลือกรูปแบบต่าง ๆ

“ที่ผ่านมา ไม่มีมหาวิทยาลัยไหนสอนเรื่องความรู้ความเข้าใจการเงินขั้นพื้นฐาน ขณะที่หนี้ครัวเรือนของไทยสูงถึง 90% ของจีดีพี ในยุค Traditional Finance ก็ไม่สอน และระบบการเงินโลกกำลังจะเปลี่ยนไป เงินดิจิทัลมีบทบาทมากขึ้น ซึ่งโดยปกติจะเปลี่ยนทุก 50 ปีเป็นวิกฤติที่ต้องรับมือ โดยในงานจะมีผู้รู้ทั้งในประเทศ และต่างประเทศมาให้ความรู้ด้านการเงินให้เตรียมพร้อมรับมืออนาคต”

ความรู้ด้านสุขภาพและการมีอายุยืน (Health & Longevity Literacy)

ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ “สังคมสูงวัย” (aging economy) โดยมีประชากร 20% อายุมากกว่า 60 ปี และภายใน 5 ปีข้างหน้า จะกลายเป็น “สังคมสูงวัยขั้นสุดยอด” (super aging economy) โดยหนึ่งในห้าของคนไทยจะมีอายุเกิน 65 ปี สอดคล้องกับข้อมูลจากคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ที่คาดการณ์ว่าสัดส่วนประชากรวัยทำงานต่อผู้สูงอายุจะลดลงจาก 3.6 คนต่อผู้สูงอายุ 1 คน ในปี 2020 เหลือ 1.8 คนต่อผู้สูงอายุ 1 คน ภายในปี 2040 สถานการณ์นี้สร้างแรงกดดันมหาศาลต่อระบบประกันสังคมและประกันสุขภาพที่อาจระเบิดและไม่สามารถพึ่งพาตนเองทางการเงินได้อีกต่อไป

Bitkub Summit 2025 จะท้าทายกระบวนทัศน์ “Sick Care” หรือการดูแลเมื่อเจ็บป่วย ซึ่งมีต้นทุนสูงและไม่ยั่งยืน โดยจะส่งเสริมความรู้ด้านสุขภาพเชิงป้องกัน (preventive medicine) เวชศาสตร์เชิงหน้าที่ (functional health) และศาสตร์อายุยืน (longevity) เน้นย้ำแนวคิด “30 บาทป้องกันทุกโรค” แทนที่ “30 บาทรักษาทุกโรค” มีการชี้ให้เห็นว่าค่าใช้จ่ายในการรักษาผู้ป่วยมะเร็งหนึ่งคน สามารถนำไปจัดหาวิตามินดีให้กับคนไทยได้ “เป็นหมื่นคน” เพื่อให้คนไทยมี “Healthspan” หรือช่วงชีวิตที่มีสุขภาพดีที่ยาวนานขึ้น ควบคู่ไปกับ “Lifespan” (อายุขัย) และลดภาระค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพในระยะยาว  

“คนไทยตั้งแต่เด็กขาดโอกาสและความรู้เรื่องสุขภาพเมื่ออายุมากขึ้นมักกลายเป็นผู้ป่วย และผู้ป่วยติดเตียง ที่ต้องใช้ทรัพยากรในการดูแลมหาศาล คนวัยทำงานที่เหลือประมาณ 33 ล้านคนจากอัตราการเกิดใหม่ที่น้อยลง จะกลายเป็น “เดอะแบก” ของสังคม หลักประกันสุขภาพ 30 บาทรักษาทุกโรคจะมีเงินไม่เพียงพอ จึงมีคำถามว่า ทำไมเราไม่ป้องกันก่อนเกิดโรค”

ความรู้ด้านดิจิทัล (Digital Literacy)

ในยุคที่อุตสาหกรรมดั้งเดิม “officially หยุดโตแล้ว” มูลค่าเพิ่มในอนาคตจะมาจากอุตสาหกรรมใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ข้อตกลงกรอบเศรษฐกิจดิจิทัลอาเซียน (ASEAN Digital Economy Framework Agreement – DEFA) คาดว่าจะนำเงินทุนมูลค่า 2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐเข้ามาสู่เศรษฐกิจดิจิทัลของอาเซียนภายในปี 2030 หรือคิดเป็น 2% ของ GDP โลก การลงทุนเหล่านี้จะเป็น “Digital FDI” ที่มุ่งเน้นอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า แทนที่จะเป็นอุตสาหกรรมเก่า

การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 (4IR) ซึ่งครอบคลุมเทคโนโลยีอย่าง ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่คาดว่าจะมีความสามารถเหนือกว่าสติปัญญาของมนุษย์ในหลากหลายสาขาภายใน 5 ปี บล็อกเชน (Blockchain) ที่ช่วยให้สามารถแปลงสินทรัพย์เป็นโทเคน อินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง (IoT) ซึ่งคาดว่า 50% ของรถยนต์จะขับเคลื่อนด้วยตนเองภายใน 5 ปี และครึ่งหนึ่งของรถยนต์ทั้งหมดภายในปี 2030 หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ (Humanoid Robots) ที่คาดว่าจะมีราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท (30,000 ดอลลาร์สหรัฐ) และจะกลายเป็นเรื่องปกติในบ้านเรือนภายใน 5 ปี เทคโนโลยี AR/VR/MR และอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงจากท้องฟ้า กำลังเปลี่ยนแปลงโลกอย่างรวดเร็ว 

อย่างไรก็ตาม มีการคาดการณ์ว่า 39% ของความสามารถของบุคลากรในปัจจุบันจะไม่มีประโยชน์ในอีก 5 ปีข้างหน้า ขณะที่ประเทศไทยยังเผชิญกับความท้าทายในการผลิตผู้สำเร็จการศึกษาด้าน STEM (วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์) เพียง 10,000 คนต่อปี เทียบกับเวียดนามที่ผลิตได้ถึง 500,000 คนต่อปี ซึ่งแตกต่างกันถึง 50 เท่า 

Bitkub Summit จึงตั้งเป้าที่จะเป็นเวทีสำคัญในการให้ความรู้ สร้างความเข้าใจ และกระตุ้นให้เกิดการปรับทักษะ (Reskill) และเพิ่มทักษะ (Upskill) เพื่อให้คนไทยพร้อมสำหรับเศรษฐกิจดิจิทัลและสามารถดึงดูดการลงทุนจากทั่วโลก   

“โลกกำลังก้าวเข้าสู่การปฏิวัติอุตสาหกรรมยุคที่ 4 อุตสาหกรรมเก่าหยุดโตแล้ว โลกของการลงทุนเทคโนโลยีดิจิทัลใช้เงินมากกว่าปีที่แล้ว 3 เท่า การลงทุนมุ่งมาทาง Digital FDI ไม่ใช่ Traditional FDI เหมือนเดิม ถ้าคนไทยไม่มีความรู้เรื่องดิจิทัลเลย การลงทุนจะวิ่งไปเวียดนามที่ผลิตคนดิจิทัลได้ 5 แสนคนต่อปี ต่างจากไทยที่ผลิตได้เพียง 10,000 คนต่อปี”

นอกจากการเรียนหลักสูตรปกติ จะต้อง Upskill/Reskill คนไทย ต้องเปลี่ยนความเชื่อในอดีต เพราะความรู้ความสามารถ 39% ที่มีอยู่ในปัจจุบัน จะไม่มีประโยชน์ในอีก 5 ปีข้างหน้า จากโลกที่นำ AI มาใช้มากขึ้น และ AI ก็มีคุณสมบัติเพิ่มขึ้นๆ แนวโน้มอีก 5 ปีที่จะถึงรถยนต์ 50% จะขับเคลื่อนเอง

พันธกิจเพื่อคนไทยทุกคน – ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

Bitkub Summit 2025 ยืนยันเจตนารมณ์ที่จะเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าร่วมงานได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงองค์ความรู้เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต 

ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมงานได้แล้ว ผ่านเว็บไซต์ www.bitkubsummit.com และผู้สนใจสนับสนุนการจัดงานติดต่อสอบถามได้ที่ partnership@bitkub.com

“เวทีให้ความรู้ฟรี ๆ แบบนี้ ควรจัดขึ้นทุกปี เหมือนการประชุมดาวอส ที่มีผู้นำจากภาครัฐ ภาคธุรกิจ และภาคประชาสังคมมาพบปะแลกเปลี่ยนกันเพื่อสร้างโลกที่ดีสำหรับทุกคน”

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

ท็อปส์ จับมือ FLS Group เปิดตัว EV Truck ตั้งเป้าลดคาร์บอนฯ 13,335 ตัน ภายใน 5 ปี

การพลิกโฉมสู่ดิจิทัลครั้งสำคัญของ ปตท. ด้วย RISE with SAP บน AWS

มช. ก้าวสู่ ‘มหาวิทยาลัย AI’ เปิดตัวแพลตฟอร์ม ‘ChatGen-Matthew’

×

Share