Share on
×

Share

ศึกชิงจ้าว AI: DeepSeek vs. Stargate – 5 ล้านปะทะ 5 แสนล้านดอลลาร์

การแข่งขันในวงการปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังร้อนแรงขึ้นเรื่อย ๆ อันเนื่องมาจากการขาดแคลนข้อมูลสำหรับการฝึกฝนระบบ AI จึงทำให้มาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญของวงการเทคโนโลยี บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ยังคงทุ่มเงินหลายพันหลายแสนล้านดอลลาร์เข้าสู่การพัฒนา AI เพื่อชิงอำนาจด้านเทคโนโลยี

ล่าสุด มีสองโครงการที่อาจเปลี่ยนแปลงอนาคตของ AI คือ DeepSeek และโครงการ Stargate ซึ่งอยู่คนละขั้วกัน ฝ่ายแดงคือสตาร์ตอัพจีนขนาดเล็กที่ทำลายล้างสถานะเดิม ขณะที่ฝ่ายน้ำเงินคือโครงการขนาดยักษ์จากสหรัฐฯ ที่ได้รับการสนับสนุนทางการเงินอย่างมหาศาล แต่กลับสร้างคำถามเกี่ยวกับความยั่งยืนและมูลค่าของโครงการนี้ จากนี้ไป โครงการทั้งสองจะมีอิทธิพลไม่เพียงแค่ต่อวงการ AI แต่ยังรวมถึงอำนาจทางเทคโนโลยีทั่วโลก คำถามคือ แล้วฝ่ายไหนกันที่จะเป็นผู้กำชัยชนะในศึกชิงจ้าว AI นี้?

โครงการ Stargate: โครงการ AI มูลค่า 5 แสนล้านดอลลาร์หรือเป็นเพียงแค่การโอ้อวด?

โครงการ Stargate ดูเหมือนจะเป็นการลงทุนที่ทะเยอทะยานที่สุดในวงการ AI ที่เคยมีมา โดยประธานาธิบโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศอย่างยิ่งใหญ่ในงานแถลงข่าวของทำเนียบขาวเมื่อวันที่ 21 ม.ค. 2568 ซึ่งโครงการนี้ได้รับความร่วมมือและสนับสนุนจากบริษัทยักษ์ใหญ่ใน Silicon Valley เช่น OpenAI, SoftBank, Oracle, Microsoft, Nvidia และ Arm ด้วยงบประมาณรวมสูงถึง 5 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งมุ่งหวังจะสร้างเครือข่ายศูนย์ข้อมูล AI ที่ทันสมัยที่สุดในสหรัฐฯ เริ่มต้นจากรัฐเท็กซัส และมีแผนขยายไปยังพื้นที่อื่นๆ ทั่วประเทศในอนาคต

จากมุมมองของตัวเลข โครงการ Stargate ดูเหมือนจะมีทรัพยากรและขนาดที่น่าทึ่ง โครงการนี้ให้คำมั่นว่าจะสร้างการร่วมมือและมีกำลังด้านเทคนิคที่อาจเปลี่ยนแปลงวิธีการฝึกและใช้งานโมเดล AI ไปตลอดกาล แต่.. คำถามที่เริ่มเกิดขึ้นคือ จำเป็นหรือที่จะต้องใช้เงินจำนวนมหาศาลและขนาดที่ยิ่งใหญ่นี้? หรือแค่เป็นการเล่นเกมประชาสัมพันธ์เพื่อรักษาภาพลักษณ์ของความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีของอเมริกา?

โครงการ Stargate ย้ำเน้นแนวคิดที่ว่า “ยิ่งใหญ่ยิ่งดี” โดยอ้างว่าอนาคตของ AI ต้องการฮาร์ดแวร์ล้ำสมัย ศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ และการลงทุนที่มหาศาล ในมุมมองนี้ การเติบโตของ AI ก็จะต้องตรงกับจำนวนเงินและโครงสร้างพื้นฐานที่ถูกลงทุนเข้าไป แต่อย่างที่เราทราบกัน ความสำเร็จของ DeepSeek สตาร์ตอัพจีนที่มีงบประมาณจำกัด กำลังพิสูจน์ว่าความคิดนี้อาจจะผิด

DeepSeek: ประสิทธิภาพเหนือความใหญ่โต

ในทางตรงข้ามกับความทะเยอทะยานของโครงการ Stargate ดูเหมือน DeepSeek เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่า “เล็ก” ก็สามารถชนะได้ ด้วยงบประมาณเพียงเล็กน้อย โดย DeepSeek ได้พัฒนาโมเดล AI ชั้นนำระดับโลก นั่นคือโมเดล DeepSeek-V3 ถูกพัฒนาด้วยงบประมาณเพียง 5.6 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นจำนวนเงินที่น้อยมากเมื่อเทียบกับ 100 ล้านดอลลาร์ที่ใช้สำหรับ GPT-4 ของ OpenAI และแม้ว่าการตอบรับในตอนแรกจะเป็นการมองข้ามความสำเร็จของ DeepSeek แต่หลังการทดสอบ เห็นได้ชัดว่าโมเดลของ DeepSeek นั้นไม่เพียงแต่สามารถแข่งขันได้ แต่ยังทำงานได้มีประสิทธิภาพเทียบเท่าหรือดีกว่าโมเดลที่มีราคาสูงจากฝั่งตะวันตก

ความสำเร็จของ DeepSeek ไม่ได้อยู่ที่แค่ราคาที่ต่ำ แต่มันอยู่ที่การคิดค้นและนวัตกรรม บริษัทได้ใช้แนวทางที่มีประสิทธิภาพในการฝึก AI โดยใช้ทรัพยากรที่จำกัดเพื่อสร้างโมเดลที่ท้าทาย ทุกมุมมองในวงการ AI ตอนนี้ DeepSeek กำลังพิสูจน์ว่า AI ชั้นยอดไม่ได้ต้องการเงินมหาศาล พวกเขากำลังสร้างสิ่งที่มีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องพึ่งโครงสร้างพื้นฐานขนาดยักษ์ที่โครงการหลายแห่งใน Silicon Valley ใช้

ในขณะที่ OpenAI, Oracle และ Microsoft กำลังเร่งสร้างศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ DeepSeek กำลังพัฒนาโซลูชันที่มีประสิทธิภาพและยืดหยุ่นมากขึ้น แนวทางการเปิดแหล่งโค้ดของพวกเขายิ่งเน้นย้ำแนวคิดนี้ โดยการให้ผู้คนทั่วโลกเข้าถึงและร่วมพัฒนาเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ด้วยการสร้างระบบนิเวศของนักพัฒนา DeepSeek จึงสามารถแสดงให้เห็นว่าการสร้าง AI นั้นไม่จำเป็นต้องมีทุนมหาศาล

Stargate: ทุนมากขึ้นแต่จะมีปัญหามากขึ้นหรือไม่?

คำถามที่เกิดขึ้นกับโครงการ Stargate ไม่ได้มีแค่เพียงจำนวนเงิน แต่เป็นคำถามที่สำคัญว่า “ขนาดใหญ่” หรือ “เยอะ” นั้นจำเป็นจริงหรือ? ระบบ AI ของอเมริกาถูกสร้างขึ้นบนแนวคิดที่ว่า การลงทุนมหาศาลและโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่คือกุญแจสำคัญในการครองความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี แต่การเกิดขึ้นของ DeepSeek ทำให้เกิดคำถามที่สำคัญว่า แนวคิดนี้อาจจะเกินจริงไป

โครงการ Stargate แม้ว่าจะมีงบประมาณมหาศาล แต่ก็เสี่ยงที่จะตกอยู่ในวงจรของความไร้ประสิทธิภาพ เงินที่ถูกใช้ไปกับการสร้างศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่และพลังงานมหาศาลอาจไม่จำเป็น หาก DeepSeek สามารถทำผลลัพธ์ที่เทียบเท่าหรือดีกว่าได้โดยใช้งบประมาณที่ต่ำกว่ามาก

DeepSeek กำลังพิสูจน์ว่าโมเดลการพัฒนา AI ไม่จำเป็นต้องใช้เงินและโครงสร้างพื้นฐานขนาดยักษ์ บางทีเงินมหาศาลที่ใช้ในโครงการใหญ่ๆ ของอเมริกาอาจจะเป็นการลงทุนที่ไร้ประสิทธิภาพ สิ่งที่บริษัทเหล่านี้กำลังลงทุนไปอาจจะไม่ได้มาพร้อมกับผลลัพธ์ที่คุ้มค่า

ระบบนิเวศเปิดของ DeepSeek กับระบบปิดของ Stargate

อีกหนึ่งข้อแตกต่างที่สำคัญระหว่าง DeepSeek และ Stargate คือวิธีการเปิดและเข้าถึงเทคโนโลยี ซึ่ง DeepSeek เลือกที่จะเปิดแหล่งโค้ดของโมเดลของตนให้กับนักพัฒนาและองค์กรทั่วโลก ซึ่งช่วยให้เกิดการร่วมมือกันในการพัฒนาและใช้งานเทคโนโลยี AI ที่ล้ำสมัย แต่สำหรับ Stargate แนวทางคือการควบคุมและปิดกั้นการเข้าถึงระบบของพวกเขา

โครงการ Stargate ที่ได้รับการสนับสนุนจาก OpenAI, Microsoft, Oracle และ Nvidia กำลังสร้างระบบนิเวศที่เป็นแบบปิด โดยเน้นการควบคุมการเข้าถึงเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับความสามารถในการเปิดโอกาสให้กับนักพัฒนาทั่วโลก แนวทางนี้ไม่เพียงแต่สร้างข้อจำกัดในการเข้าถึง แต่ยังอาจทำให้การพัฒนา AI เฉพาะกลุ่มเท่านั้น

อนาคตของ AI: ความสำเร็จไม่จำเป็นต้องลงทุนมหาศาล

มองไปข้างหน้า การเปรียบเทียบระหว่าง DeepSeek และ Stargate แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างทางแนวคิดในวงการ AI บางทีอนาคตของ AI อาจจะไม่อยู่ที่การลงทุนมหาศาลและการขยายโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ หากแต่จะเป็นการพัฒนาเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพและสามารถขยายตัวได้โดยไม่ต้องพึ่งพาทรัพยากรมหาศาล

DeepSeek กำลังพิสูจน์ว่าความสำเร็จในโลกของ AI ไม่จำเป็นต้องมีทรัพยากรมหาศาล พวกเขากำลังสร้างระบบที่มีประสิทธิภาพและเปิดโอกาสให้ทุกคนเข้าถึง โดยไม่ต้องพึ่งโครงสร้างขนาดใหญ่และทุนมหาศาล ซึ่งแสดงให้เห็นว่าทางเลือกที่ยั่งยืนและสามารถขยายตัวได้จริงอาจอยู่ที่ความคล่องตัวและการสร้างระบบนิเวศที่เปิดกว้าง
สำหรับ Silicon Valley คำถามไม่ใช่แค่จะลงทุนได้มากแค่ไหน แต่..

คำถามคือ การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและฮาร์ดแวร์ที่มีขนาดใหญ่เกินไปนั้นคุ้มค่าหรือไม่ ความสำเร็จของ DeepSeek อาจเป็นการเตือนสำหรับ Silicon Valley ว่าพวกเขาอาจต้องทบทวนแนวทางการพัฒนา AI ของตนใหม่

นี่อาจจะเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญ หาก DeepSeek ยังคงก้าวหน้าได้ดีกว่าบริษัทยักษ์ใหญ่ของอเมริกา เราอาจจะเห็นการสิ้นสุดของยุคที่การลงทุนมหาศาลคือคำตอบสำหรับการครองความเป็นผู้นำด้าน AI และการเริ่มต้นยุคใหม่ที่ประสิทธิภาพและนวัตกรรมจะเป็นสิ่งที่สำคัญมากกว่า

Sources: theverge, Fortune, CNN, The Indian Express, MIT Technology Review, Forbes, aastocks.com, Barron’s

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

ล็อกดาวน์โซเชียลมีเดีย: ปลอดภัย หรือ ปิดกั้น?

×

Share

ผู้เขียน