วิจัยกรุงศรีประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 มีแนวโน้มชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยคาดว่าจะขยายตัวเพียง 1.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งลดลงจาก 3.0% ในช่วงครึ่งปีแรก ปัจจัยหลักมาจากภาคการส่งออกที่สูญเสียแรงขับเคลื่อนหลังสหรัฐฯปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้า และภาคการท่องเที่ยวที่ส่งสัญญาณหดตัว อย่างไรก็ตาม ยังคงคาดการณ์การเติบโตทั้งปีไว้ที่ 2.1% ภายใต้สมมติฐานที่ว่านโยบายเศรษฐกิจยังคงมีความต่อเนื่องท่ามกลางความไม่แน่นอนทางการเมือง
รายงานการวิเคราะห์จากวิจัยกรุงศรีระบุว่า เศรษฐกิจไทยในช่วงที่เหลือของปีต้องเผชิญกับแรงกดดันจากทั้งปัจจัยภายนอกและภายในประเทศ โดยปัจจัยภายนอกที่สำคัญคือการปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ สู่ระดับ 19% ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 7 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา ส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาคการส่งออกของไทย ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศยังคงมีความเปราะบางจากสถานการณ์การเมืองที่อยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน
ภาคการส่งออกสูญเสียแรงส่ง
การส่งออกของไทยที่เติบโตสูงถึง 15.0% ในช่วงครึ่งแรกของปี มีสาเหตุหลักมาจากการเร่งส่งออกสินค้าล่วงหน้า (Front-loaded exports) ก่อนที่มาตรการภาษีของสหรัฐฯ จะมีผลบังคับใช้ อย่างไรก็ตาม วิจัยกรุงศรีคาดว่าแรงส่งดังกล่าวจะลดลงอย่างมากในช่วงครึ่งปีหลัง ประกอบกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแรงลง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการค้าและการผลิตทั่วโลก ทำให้คาดการณ์ว่าการส่งออกของไทยทั้งปี 2568 จะขยายตัวได้เพียง 3.5%
การลงทุน-การบริโภคในประเทศยังเปราะบาง
แม้การลงทุนภาคเอกชนในไตรมาสที่ 2 จะกลับมาขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ไตรมาสที่ 4.1% แต่แนวโน้มยังขาดความต่อเนื่อง โดยคาดว่าทั้งปีจะเติบโตในระดับต่ำที่ 0.9% เนื่องจากยังคงเผชิญความท้าทายจากความไม่แน่นอนทางการเมือง ความตึงเครียดบริเวณชายแดน และการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวที่ล่าช้ากว่าคาด
ในขณะเดียวกัน การบริโภคภาคเอกชนยังคงถูกกดดันจากหลายปัจจัย แม้จะได้รับแรงหนุนบางส่วนจากมาตรการภาครัฐ แต่ยังคงมีปัจจัยฉุดรั้งที่สำคัญ ได้แก่ ผลกระทบจากการขึ้นภาษีของสหรัฐฯ ต่อการจ้างงานและรายได้, รายได้เกษตรกรที่ลดลง, หนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ซบเซา
ภาคท่องเที่ยวส่งสัญญาณหดตัวครั้งแรกหลังโควิด
ข้อมูลล่าสุดในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2568 พบว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่ที่ 21.9 ล้านคน ลดลง 7.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักมาจากการลดลงของนักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งปัจจุบันมีอัตราการฟื้นตัวเพียง 40% ของระดับก่อนการระบาด เนื่องจากความกังวลด้านความปลอดภัยและการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นในภูมิภาค วิจัยกรุงศรีจึงปรับลดคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2568 ลงเหลือ 34 ล้านคน จาก 35.5 ล้านคนในปี 2567 ซึ่งนับเป็นการหดตัวรายปีครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2564
คาด กนง. อาจลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม
สำหรับทิศทางนโยบายการเงิน คาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีโอกาสปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 1-2 ครั้งภายในไตรมาสแรกของปี 2569 จากปัจจุบันที่ระดับ 1.50% เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยทั้งปี 2568 มีแนวโน้มอยู่ในระดับต่ำเพียง 0.2% ซึ่งต่ำกว่ากรอบเป้าหมาย
ดร.พิมพ์นารา หิรัญกสิ หัวหน้าทีมวิจัยเศรษฐกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ให้ความเห็นว่า “เศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 มีแนวโน้มเผชิญความเสี่ยงและความผันผวนสูงจากปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะการทะลักเข้าของสินค้าจากสหรัฐฯ และจีน (Twin Influx) นอกจากนี้ เสถียรภาพทางการเมืองในประเทศยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ หากส่งผลกระทบต่อความต่อเนื่องในการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจ อาจทำให้เศรษฐกิจไทยมีความเสี่ยงที่จะขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินไว้”