หอการค้าไทยแสดงความยินดีต่อ อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีคนที่ 32 พร้อมเสนอ 4 ภารกิจเร่งด่วนที่รัฐบาลใหม่ต้องดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและฟื้นฟูความเชื่อมั่นของประเทศ
ภายหลังพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง อนุทิน ชาญวีรกูล ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 อย่างเป็นทางการ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยได้ออกแถลงการณ์แสดงความยินดี พร้อมชี้ให้เห็นถึงภารกิจเร่งด่วน 4 ด้านที่รัฐบาลใหม่จำเป็นต้องขับเคลื่อนโดยทันที ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศที่กำลังเผชิญกับความผันผวนและเปราะบางอย่างยิ่ง
ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทย ระบุว่า ภาคเอกชนมีความคาดหวังว่ารัฐบาลชุดใหม่จะสามารถจัดตั้งคณะรัฐมนตรีที่ประกอบด้วยบุคลากรที่มีคุณภาพ ความรู้ความสามารถ และเข้าใจในโครงสร้างเศรษฐกิจอย่างลึกซึ้ง เพื่อเข้ามาแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าอย่างจริงจัง ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจไทยได้รับแรงกดดันจากทั้งภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ข้อจำกัดทางการค้าและการลงทุน รวมถึงปัญหาภายในประเทศ ทั้งหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงและต้นทุนภาคธุรกิจที่เพิ่มขึ้น
สำหรับภารกิจเร่งด่วน 4 ด้านที่หอการค้าฯ พร้อมให้การสนับสนุนนั้น ครอบคลุมตั้งแต่ประเด็นด้านเศรษฐกิจ ที่เสนอให้ออกมาตรการลดภาระค่าครองชีพอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งค่าพลังงาน การเดินทาง และค่าขนส่ง ควบคู่กับการแก้ไขปัญหาหนี้สิน และการสร้างโอกาสทางรายได้ใหม่ให้เศรษฐกิจฐานราก ตามมาด้วยด้านความมั่นคงชายแดน ซึ่งเน้นการจัดการปัญหาข้อพิพาทด้วยสันติวิธีและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบอย่างทั่วถึง
นอกจากนี้ ยังรวมถึงด้านภัยธรรมชาติ ที่ต้องพัฒนาระบบเตือนภัยและกลไกการฟื้นฟูที่มีประสิทธิภาพ และท้ายที่สุดคือด้านภัยสังคม โดยเรียกร้องให้เร่งรัดปราบปรามอาชญากรรมร้ายแรง ทั้งยาเสพติด การค้ามนุษย์ และภัยออนไลน์ ผ่านความร่วมมือระหว่างประเทศอย่างจริงจัง
นอกเหนือจากภารกิจหลัก 4 ด้าน หอการค้าไทยยังได้เสนอให้รัฐบาลใหม่เร่งรัดการแก้ไขปัญหาด้านการส่งออก ซึ่งรวมถึงการเจรจาประเด็นภาษีกับสหรัฐอเมริกา และการผลักดันข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
พร้อมกันนี้ ภาคเอกชนพร้อมสนับสนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเชิงรุก โดยยกตัวอย่างโครงการ “คนละครึ่ง” ที่เคยประสบความสำเร็จในการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ และเสนอให้เร่งสร้างความเชื่อมั่นด้านการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการดึงดูดนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี ซึ่งเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวที่สำคัญ เพื่อสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนและกระจายรายได้สู่เศรษฐกิจฐานราก
โดยหอการค้าไทยได้ย้ำถึงความพร้อมในการสนับสนุนการทำงานของรัฐบาลอย่างเต็มที่ เพื่อให้การดำเนินนโยบายต่าง ๆ บรรลุผลอย่างเป็นรูปธรรม อันจะนำไปสู่การฟื้นฟูความเชื่อมั่นของทั้งประชาชนและนักลงทุน และขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป