ภาวะโลกร้อนเป็นสิ่งที่เราได้ยินกันมานาน แต่กลับขาดความเตรียมพร้อมและรับมือ ซึ่งในปัจจุบันเรื่องนี้ขยับเข้ามาใกล้ตัวขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ว่าเราจะอยู่ในมุมไหนของโลกล้วนได้รับผลกระทบ ในประเทศไทยเกิดเหตุการณ์ทางธรรมชาติมากมายจากสภาวะโลกร้อน ดังนั้นเราทุกคนจึงต้องตื่นตัวกับเรื่องนี้ มีความเข้าใจ และสามารถป้องกันได้อย่างเข้มแข็ง เพื่อโลกที่ดีในวันนี้และอนาคตข้างหน้า มาร่วมแบ่งปันมุมของภาวะโลกร้อนไปกับ ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิทยาศาสตร์ทางทะเล และรองคณบดีฝ่ายกิจการพิเศษ คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ กรุณา บัวคำศรี สื่อมวลชน จากงาน SUSTAINABILITY EXPO 2024 ที่จะชวนให้ทุกคน “พอเพียง ยั่งยืน เพื่อโลก”
ความเสี่ยงจากภาวะโลกร้อนที่เริ่มใกล้ตัว
เมื่อพูดถึงเรื่องโลกร้อนในอดีตอาจจะดูเป็นเรื่องไกลตัวแต่ในปัจจุบันกลับใกล้ตัวมากขึ้น มีการปรับตัวให้ทันท่วงทีจากตัวอย่างสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในประเทศไทยอย่างเหตุการณ์น้ำท่วมในภาคเหนือ โลกของเรามีเหตุการณ์ทางธรรมชาติเกิดขึ้นใหม่ในทุกวันที่ส่งผลต่อมนุษยชาติ ความเสี่ยงที่เคยเกิดขึ้นในอดีตอาจจะมีในเรื่อง misunderstand ข้อมูลหลอกทางออนไลน์ รวมถึงเรื่องของ Digital Disruption
จากวันนี้ไปอีก 10 ปีข้างหน้าความเสี่ยงของคือ โลกร้อนล้วน ๆ ความเสี่ยงอันดับหนึ่ง คือ Extreme Weather Event สภาพความแปรปรวนของภูมิอากาศ ความร้อนกับความเย็นแตกต่างกันมากขึ้นหรือที่เรารู้จักกันก็คือพายุ น้ำท่วมก็จะหนักขึ้นไปสุดขั้ว แต่ละโซนของโลกจะได้รับผลกระทบที่แตกต่างกัน ต่อมาคือ Critical change to Earth systems อากาศคาดเดาได้ยากขึ้น และ biodiversity loss and ecosystem collapse การพังพินาศของระบบนิเวศ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของปะการังฟอกขาว หญ้าทะเลตาย พะยูนต้องอพยพถิ่น
ความสำคัญของมหาสมุทรกับภาวะโลกร้อน
โลกของเราประกอบไปด้วยพื้นที่ทะเลและมหาสมุทร 70% พื้นที่ส่วนใหญ่ของโลกไม่ใช่แผ่นดิน ไม่ใช่ชายฝั่งที่จริงคือทะเลลึก ความร้อนที่เกิดขึ้นในโลกกว่า 93% ทะเลเป็นผู้ดูดซับไว้ ทะเลสามารถดูดความร้อนได้ดี แต่ปัญหาคือดูดซับเลยจุดสูงสุดจากโลกที่ร้อนขึ้นเรื่อยๆ จนเราได้ยินคำว่า ทะเลเดือด Ocean Warming ยิ่งโลกร้อนขึ้นทะเลก็ร้อนขึ้น แน่นอนว่าพายุก็ต้องแรงขึ้น นอกจากทะเลร้อนขึ้นน้ำก็จะระเหยมากขึ้น อากาศร้อนจะจุไอน้ำทำให้เมฆในปัจจุบันมีน้ำมากกว่าเมฆในอดีตประมาณ 40% จึงเกิดฝนตกแบบเท Rain bomb ฝนตกไม่ทั่วฟ้าส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขัง ส่วนหนึ่งเกิดจากทะเลร้อนขึ้น
จะเตรียมตัวและรับมือได้อย่างไร?
ผศ.ดร.ธรณ์ แนะนำให้เตรียมความมั่นคงทางการเงิน หากวันหนึ่งคุณพบว่าบ้านคุณอาจจะโดนน้ำท่วม เมื่อเกษียณไปแล้วไม่มีรายได้ ยังต้องนำเงินที่เหลืออยู่เอามาซ่อมบ้าน มนุษย์เราสามารถปรับตัวได้ในทุกสถานการณ์ ไม่ใช่เราจะอยู่ได้หรืออยู่ไม่ได้ แต่เราจะต้องอยู่อย่างไรให้สุขสบายในสภาวะที่โลกของเราเปลี่ยนไปในทุกวัน ถ้าเกิดว่าต้องวิ่งหนีน้ำ เราต้องมีข้าวกิน เราอาจจะสะดวกน้อยลงเหนื่อยหนักขึ้น การโยกย้ายถิ่นฐานเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศมีโอกาสจะเกิดเพิ่มขึ้นเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี
“หลักการผมก็คือพยายามถืออะไรที่มันสด ๆ คล่อง ๆ แล้วก็พยายามชิ่งเร็ว ๆ สมัยเราเรียนหนังสือเราเรียนเพื่อให้หาเงินได้เก่งที่สุด แต่สมัยสิ่งสำคัญที่สุดคือทำยังไงให้เก็บเงินที่หามาได้ให้ได้นานที่สุด เพราะฉะนั้นวิธีที่เตรียมตัวที่สำคัญก็คือรับมือความเสี่ยง ซึ่งโลกจะร้อนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ตอนนี้ก็พยายามจะตัดทรัพย์สินพะรุงพะรังทิ้งให้หมด วันนี้โลกเปลี่ยน สถานการณ์เปลี่ยน ไม่ต้องไปถามหาว่าความผิดที่เกิดขึ้นว่าเป็นของใคร เราหาไม่ได้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ถ้าคุณไม่หนีคุณก็โดนหนักขึ้น บางคนอาจจะยอมรับได้ บางคนอาจจะเคยชินแล้ว บางคนอาจจะปรับตัวได้ แต่บางคนก็อาจจะปรับตัวไม่ได้ซึ่งผลก็แตกต่างกัน “
สิ่งที่ภาครัฐและภาคธุรกิจต้องปรับตัว
ผศ.ดร.ธรณ์ กล่าวต่อว่า การทําธุรกิจในยุคใหม่คือทําธุรกิจสีเขียวที่จะต้องช่วยโลกไปด้วย หากจะช่วยโลกอย่าลืมว่าสิ่งที่ทําให้โลกพินาศวันนี้คือเศรษฐกิจและระบบทุนนิยม ถ้าเกิดจะแก้โลกต้องแก้ที่ไม่ใช่การลดแอร์แต่ต้องแก้ที่เศรษฐกิจ ซึ่งจะกลายเป็นเศรษฐกิจโลว์คาร์บอน ทุกธุรกิจต้องผ่าน Green standard ของโลก สิ่งที่พวกเราทําได้มากที่สุดก็คือพยายามเรียนรู้เรื่องนี้ พยายามหาโอกาสในความเป็นกรีนมากขึ้นทางธุรกิจ และกรีนก็จะช่วยโลกได้ในอัตโนมัติ
ประเทศไทยมีรูปแบบการเมืองระยะสั้น การที่จะแก้ปัญหาโลกร้อนได้ต้องมีการจัดทำโครงการระยะยาวต่อเนื่อง ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก พร้อมรับมือกับภัยพิบัติทั้งเรื่องการกู้ภัย การเตือนภัย การปรับปรุงผังเมือง และปรับเศรษฐกิจดึงดูดนักลงทุนสายกรีน ใช้ความสามารถของเราที่ทําได้ดีคือเรื่องของการรับมือ รวมทั้งเรื่องของการเตือนภัยเป็นแผนในระยะสั้นทำได้เร็วที่สุด ขณะที่ในเรื่องของการปรับตัวเศรษฐกิจระยะยาวเป็นเรื่องที่ทำได้ยากพอสมควร ความท้าทายของประเทศไทยน่าจะต้องการสร้างระบบเตือนภัย และการรับมือกับภัยพิบัติที่จะเกิดถี่ขึ้นเรื่อยๆ แม้เราจะมีกู้ภัยที่เก่ง แต่เราอยากให้เขามาเตือนมากกว่ามากู้
ในอนาคตเราจะเจอทุกอย่างหนักขึ้นทั้งน้ำท่วม ภัยแล้ง ทะเลเดือด ปะการังฟอกขาว สิ่งที่เราทำได้คือพร้อมรับความเสี่ยงและดูแลตัวเองให้ดี เราโชคดีที่ประเทศไทยไม่ได้อยู่เป็นด้านหน้าของของไต้ฝุ่น แต่ในความโชคดีก็มีความโชคร้ายที่เราไม่ชินปัญหา เมื่อเกิดภัยพิบัติหรือภาวะโลกร้อนที่หนัก ประเทศอื่นอาจจะเตรียมรับมือได้ แต่เราเปรียบเสมือนนกน้อยในกรงทอง ต่อจากนี้เราจะเจอเหจุการณ์ทางธรรมชาติบ่อยขึ้น เพราะฉะนั้นเราก็จะมีภูมิคุ้มกันมากขึ้น พร้อมรับมืออย่างเข้มแข็งและป้องกันได้ทันท่วงที
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
เดลล์เปิดตัว Dell AI for Telecom ขับเคลื่อนภาคโทรคมนาคม สู่ยุค AI