ทีดีเคเวนเจอร์ส (TDK Ventures) บริษัทในเครือของทีดีเค (TDK) ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของญี่ปุ่น ประสงค์จะลงทุนในสตาร์ตอัพไทยที่มีศักยภาพด้านดีพเทค โดยเน้นเทคโนโลยีล้ำ ๆ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
นิโคลัส ซอเวจ (Nicolas Sauvage) ประธานทีดีเคเวนเจอร์ส กล่าวว่าบริษัทของเขามองไปที่ดีปเทคซึ่งสามารถ “ปลดล็อกเมกะเทรนด์สำคัญ ๆ” เช่น วัตถุดิบสำหรับอนาคต พลังงานและเทคโนโลยีสะอาด หุ่นยนต์อุตสาหกรรม ฯลฯ
“เรายังไม่ได้ลงทุนในประเทศไทย แต่ผมหวังว่าพวกคุณจะช่วยเราหาผู้ประกอบการที่มีดีพเทคเกี่ยวกับเมกะเทรนด์พวกนี้” ซอเวจได้กล่าวในงานสัมมนาด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม CIS 2024 (Corporate Innovation Summit) ซึ่งจัดขึ้น ณ ทรูดิจิทัลพาร์ค กรุงเทพฯ เมื่อช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยเขาได้บรรยายในหัวข้อ “สถานการณ์ดีพเทคโลก จากมุมมองของทีดีเคเวนเจอร์ส” (The State of Global Deeptech: A TDK Ventures Perspective)
ซอเวจชี้ว่าโลกยังคงต้องการเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่จะช่วยมนุษย์แก้ปัญหาและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วย โดยที่เขาได้ฝากความหวังไว้กับผู้ประกอบการและสตาร์ตอัพที่มีศักยภาพสูง
3 ยูนิคอร์นในพอร์ต
ทีดีเคเวนเจอร์สก่อตั้งขึ้นในปี 2019 ที่แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เป็นธุรกิจเงินร่วมลงทุน (venture capital) ในเครือของ TDK Corporation ซึ่งเป็นบริษัทข้ามชาติของญี่ปุ่นที่ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และสื่อบันทึกและจัดเก็บข้อมูล
ซอเวจเล่าว่าทีดีเคเวนเจอร์สเริ่มลงทุนในสตาร์ตอัพเมื่อ 5 ปีที่แล้ว และปัจจุบันได้ก่อตั้ง 3 กองทุน มีมูลค่ารวม 350 ล้านเหรียญสหรัฐ (11,300 ล้านบาท) ซึ่งได้ทำการลงทุนใน 38 บริษัท ในจำนวนนี้มีสตาร์ตอัพ 3 แห่งที่สามารถระดมทุนจนกลายเป็น “ยูนิคอร์น” (unicorn) คือมีมูลค่าเกิน 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (32,400 ล้านบาท) หนึ่งในนั้นคือ Ascend Elements ซึ่งผลิตวัสดุแบตเตอรี่ขั้นสูงด้วยวัตถุดิบที่รีไซเคิลจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนใช้แล้ว
ซอเวจเล่าว่าในการคัดเลือกสตาร์ตอัพที่จะลงทุนนั้น ทีดีเคเวนเจอร์สจะดูที่ศักยภาพในด้านต่าง ๆ เช่น การมีตลาดใหม่สำหรับสินค้าและบริการนั้น ๆ โมเดลธุรกิจ นวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ๆ โดยทีดีเคจะเน้นลงทุนในเทคโนโลยีขั้นแนวหน้าใหม่ ๆ (new frontier technologies) ที่อาจกลายเป็นอนาคตของบริษัทได้
“เราจะมองไปข้างหน้ามากกว่าปัจจุบัน เราจะดูว่าทีดีเคต้องการมุ่งไปทางไหน เราอยากรู้ว่าอะไรจะมาดิสรัปท์ (disrupt) ธุรกิจของทีดีเคได้ ก่อนที่ทีดีเคจะถูกดิสรัปท์”
“ดิสรัปชั่น” (disruption) หมายถึงการที่ธุรกิจหรือนวัตกรรม เข้ามาทดแทนธุรกิจหรือเทคโนโลยีเก่า โดยสร้างความเปลี่ยนแปลงแบบหน้ามือเป็นหลังมือ
เคยเจ็บเพราะถูกดิสรัป
ซอเวจชี้ให้เห็นว่า บริษัทแม่ทีดีเค ซึ่งเคยเป็นผู้ผลิตเทปคาสเซ็ตและซีดีชั้นนำของโลก ก็เคยประสบกับดิสรัปชั่นโดยคาดไม่ถึง เมื่อสื่อสตรีมมิ่งเข้ามาแทนที่ธุรกิจซีดีบันทึกข้อมูล
“เราไม่ต้องการให้สิ่งนี้เกิดขึ้นกับเราอีก จึงต้องรับรู้ภัยให้ไวขึ้น นี่คือเหตุผลที่ทีดีเคเวนเจอร์สลงทุนในเทคโนโลยีขั้นแนวหน้าใหม่ ๆ ที่อาจกลายเป็นอนาคตของเรา”
ในการคัดเลือกสตาร์ตอัพที่จะลงทุนนั้น ทีดีเคเวนเจอร์สใช้แนวทางที่เรียกว่า FIT ซึ่งย่อมาจาก “first principles-based investment thesis” โดยที่วิธีการนี้มี 3 ขั้นตอนคือ
- ทำการสำรวจเชิงลึก (deep explorations) หรือ “เจาะลึก” (deep dive) ในด้านที่ทีมงานของบริษัทเลือกไว้
- กำหนดตัวชี้วัดประสิทธิภาพหลัก (KPI)
- คัดเลือกผู้สมัครที่มีศักยภาพสูงสุด หรือที่เรียกว่า “King of the Hill”
ทีมการลงทุนของทีดีเคเวนเจอร์สจะคัดเลือกเรื่องที่ทำการสำรวจเชิงลึก โดยอิงตามความสนใจของทีมงาน ตามข้อมูลในเว็บไซต์ของบริษัท ประเด็นที่ทำการสำรวจเชิงลึกนั้นมีหลากหลาย เช่น พลังงานความร้อนใต้พิภพ ซอฟต์แวร์อุตสาหกรรมสำหรับโรงงาน การลดคาร์บอนของความร้อนในอุตสาหกรรม การทำความเย็นขั้นสูง การคำนวณด้วยควอนตัม และเทคโนโลยีอวกาศสำหรับแอปพลิเคชัน IoT (Internet of Things) เป็นต้น
ซอเวจกล่าวว่าสตาร์ตอัพที่จะเข้าเงื่อนไขการลงทุนของทีดีเคเวนเจอร์สนั้น จะต้องมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ KPI ของบริษัท “สตาร์ตอัพที่เข้าเงื่อนไขการลงทุน คือกลุ่มที่เราเชื่อมั่นว่าจะเป็นผู้นำตลาดในอีก 5-7 ปีข้างหน้า พวกนี้คือ King of the Hill ของเรา”
เขาได้ยกตัวอย่าง Ascend Elements (เดิมชื่อ Battery Resourcers) ซึ่งแม้ว่าช่วงแรกจะมีทีมงานแค่ 10 คน แต่มีเทคโนโลยีที่น่าทึ่งและมีศักยภาพสูง รวมทั้งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพราะสามารถรีไซเคิลแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าได้ ลดการขุดหาแร่ลิเธียม โคบอลต์ นิกเกิล และอื่น ๆ ซึ่งยังต้องใช้พลังงานในการขนส่งระยะไกล ๆ ด้วย
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
DGA รวมพลังขับเคลื่อนรัฐบาลดิจิทัล ดันดัชนี EGDI ไทย ปี 2567 ขึ้นสู่อันดับที่ 52 ของโลก
Hoxton Farms ผลิตไขมันสัตว์จากสเต็มเซลล์เพื่อเพิ่มความอร่อยให้เนื้อเทียม