Share on
×

Share

ชาญอิสสระ ลุยเวลเนส เปิดตัวทายาทคนสุดท้อง “ปลาเข็ม-กรัชเพชร” รุกตลาดความงาม

กว่า 70 ปีที่กลุ่มชาญอิสสระโลดแล่นอยู่ในวงการธุรกิจ ครอบครัว “อิสสระ” เจ้าของอาณาจักรชาญอิสสระและศรีพันวารวมถึงโครงการบ้านพักอีกหลายแห่งในภูเก็ตและหัวหิน มีการส่งผ่านธุรกิจจากรุ่นสู่รุ่น จากรุ่นคุณปู่ชาญ มารุ่นคุณพ่อสงกรานต์ ต่อมาถึงเจนที่ 3 อย่างลูกชายคนโตปลาวาฬ – วรสิทธิ์ และลูกชายคนรอง ปลาทู – ดิฐวัฒน์ ที่เข้ามาช่วยธุรกิจของครอบครัวมาเป็นเวลากว่า 20 ปี  ล่าสุดได้น้องเล็กคนสุดท้อง ปลาเข็ม – กรัชเพชร เข้ามาช่วยพี่ชายบริหารงานประเดิมดูธุรกิจใหม่ไลน์ความงาม

ปี 2568 น่าจะเป็นปีที่ตื่นเต้นสำหรับกลุ่มชาญอิสสระ เริ่มจากธุรกิจโรงแรมที่จะขยายสู่เวลเนสระดับเวิร์ลดคลาส โดยร่วมมือกับ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด(มหาชน) หรือ BDMS เปิดตัว BDMS Wellness Clinic ที่ศรีพันวากลางเดือนมีนาคมนี้

ตอบโจทย์คนรักสุขภาพที่อยากพักผ่อนแบบมีระดับ

ดิฐวัฒน์ อิสสระ กรรมการและผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เล่าถึงแนวคิดในการพัฒนาบริการใหม่ว่า บริษัทมีความตั้งใจที่จะมอบประสบการณ์ด้านสุขภาพแบบองค์รวม ครอบคลุมทั้งร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ โดยผสานความเชี่ยวชาญทางการแพทย์เข้ากับการดูแลสุขภาพเฉพาะบุคคล ภายใต้การดูแลของคลินิก ควบคู่ไปกับการพักผ่อนที่หรูหราและสงบ ณ ศรีพันวา เพื่อส่งเสริมการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันและฟื้นฟูร่างกายอย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งจะทำให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism) อย่างแท้จริง

เป็นที่ทราบกันดีว่าครอบครัวอิสสระมีวิถีชีวิตที่ให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายและเล่นกีฬา จึงมิใช่เรื่องน่าแปลกใจที่ทางครอบครัวจะให้ความสนใจเป็นพิเศษกับธุรกิจสุขภาพ และเล็งเห็นถึงแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจดังกล่าวในอนาคต

ปลาทู-ดิฐวัฒน์ กล่าวถึงแนวคิดในการทำธุรกิจเวลเนสว่า ทางบริษัทได้มีการพูดคุยเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวมาเป็นระยะเวลากว่า 5-10 ปีแล้ว โดยเริ่มจากการพิจารณาความเป็นไปได้ในการจัดตั้งบ้านพักคนชรา หรือธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากทางบริษัทเล็งเห็นถึงแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจเวลเนสในอนาคต

ทั้งนี้ เมื่อครั้งที่ทางบริษัทได้พัฒนาโครงการศรีพันวาและบาบา บีช คลับ หัวหิน ทางบริษัทได้ดำเนินการขออนุญาตจัดตั้งคลินิกแพทย์แผนไทยควบคู่ไปด้วย และได้ทำการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งได้พบกับรูปแบบการร่วมมือกับพันธมิตรอย่าง BDMS อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทตระหนักว่าการดำเนินการด้านการรักษาด้วยตนเองนั้นอาจไม่ใช่ความเชี่ยวชาญหลัก

เขากล่าวกับ The Story Thailand ว่า แนวโน้มของธุรกิจเวลเนสกำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากผู้คนหันมาใส่ใจในรูปลักษณ์และสุขภาพของตนเองมากยิ่งขึ้น การที่บริษัทเป็นโรงแรมไลฟ์สไตล์ (Lifestyle Hotel) และมีพันธมิตรเป็นโรงพยาบาลชั้นนำ จึงถือเป็นความสมดุลที่ลงตัว

“เรามองเห็นศักยภาพและการเติบโตของธุรกิจดังกล่าว ซึ่งเป็นตลาดที่มีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากในปัจจุบัน การมีธุรกิจโรงแรมเพียงอย่างเดียวอาจจะไม่เพียงพอที่จะดึงดูดลูกค้าในปัจจุบันที่มีความต้องการประสบการณ์การบริการที่แตกต่างและหลากหลายมากขึ้น การเพิ่มธุรกิจเวลเนสจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ อย่างไรก็ตาม ธุรกิจดังกล่าวยังมิใช่แกนหลักของบริษัท หากประสบความสำเร็จ อาจพิจารณาขยายไปยังโรงแรมอื่น ๆ ในเครือต่อไป”

Wellness Economy ของไทยโตอันดับ 1 ของโลก

แนวโน้มการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพได้รับความนิยมและมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องทั่วโลก จากงานวิจัยศึกษาโอกาสของประเทศไทยในด้านเศรษฐกิจเวลเนส ซึ่งดำเนินการโดยความร่วมมือระหว่าง Global Wellness Institute และ BDMS Wellness Clinic พบว่าประเทศไทยมีการเติบโตของตลาดสุขภาพเร็วที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของโลกในช่วงปี พ.ศ. 2565-2566 โดยมีอัตราการเติบโตสูงถึง 28.4% และมีมูลค่า 40.54 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.4 ล้านล้านบาท

ผลการวิจัยยังแสดงให้เห็นว่าการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักของประเทศไทย โดยมีสัดส่วนสำคัญต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของภาคการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่สร้างรายได้สูงสุดในกลุ่มอุตสาหกรรมเวลเนสของประเทศไทยทั้ง 11 ประเภท โดยมีมูลค่าล่าสุดสูงถึง 415,000 ล้านบาท

แนวโน้มดังกล่าวส่งผลให้หลายธุรกิจปักธงวางเข็มทิศธุรกิจเดินหน้ามาที่ตลาดนี้กันคึกคัก ล่าสุด บริษัทอสังหาริมทรัพย์อย่างพฤกษา โฮลดิ้ง ก็ได้ประกาศปรับทิศทางธุรกิจ โดยเพิ่มสัดส่วนธุรกิจเฮลท์แคร์ให้เทียบเท่ากับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากบริษัทมองว่าตลาดที่อยู่อาศัยมีแนวโน้มหดตัวลง ในขณะที่ตลาดสุขภาพมีอนาคตที่สดใสในระยะ 10 ปีข้างหน้า

เป้าหมายเน้นอินเดีย-ตะวันออกกลาง

สำหรับรูปแบบความร่วมมือระหว่างศรีพันวาและ BDMS นั้น ปลาทู ขยายความว่า ทั้งสองฝ่ายจะมีการส่งต่อลูกค้าซึ่งกันและกัน โดยทางศรีพันวาจะเปิดคลินิกภายในโครงการ หากลูกค้าที่มาพักมีอาการเจ็บป่วยหรือไม่สบาย หรือต้องการเข้าร่วมโปรแกรมเวลเนสก็สามารถรับการตรวจจากแพทย์ได้โดยตรง ในทางกลับกันหากทางโรงพยาบาลมีลูกค้าหรือผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษา บางท่านอาจไม่สะดวกที่จะพักรักษาตัวในกรุงเทพฯ ตลอดระยะเวลา จึงสามารถเลือกพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลเป็นเวลา 5 วัน และมาพักฟื้นต่อที่ศรีพันวาอีก 5 วันได้ เนื่องจากลูกค้าบางส่วนเดินทางมาประเทศไทยเพื่อพักผ่อน ท่องเที่ยว และดูแลสุขภาพไปพร้อมกัน ซึ่งเป็นการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพแบบครบวงจร

“เราจะออกแบบโปรแกรมดูแลสุขภาพ มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยให้การดูแลอย่างใกล้ชิด ลดการใช้สารเคมี เน้นการใช้ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก ส่งเสริมการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพ การออกกำลังกาย และการใช้ชีวิตที่คำนึงถึงธรรมชาติ” ปลาทูกล่าว

สำหรับกลุ่มเป้าหมายของบริการดังกล่าว 30-40% เป็นลูกค้าคนไทย เนื่องจากศรีพันวามีฐานลูกค้าชาวไทยอยู่จำนวนหนึ่ง และอีกส่วนเป็นลูกค้าชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวอินเดียและตะวันออกกลางที่เดินทางมาเข้ารับการรักษาในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก

เปิดตัวทายาทคนเล็ก บริหารธุรกิจความงาม

กรัชเพชร อิสสระ

หนึ่งในความเคลื่อนไหวที่น่าจับตาของบริษัท ชาญอิสสระในปีนี้ คือการเปิดตัว ปลาเข็ม – กรัชเพชร อิสสระ ทายาทคนสุดท้องของคุณพ่อสงกรานต์และคุณแม่ศรีวรา อิสสระ ที่จะเข้ามาดูแลธุรกิจความงาม ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ของบริษัท

ปลาเข็ม – กรัชเพชร จะดำรงตำแหน่งแบรนด์ไดเร็กเตอร์ของผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพผิวภายใต้แบรนด์ BABA SKIN CLUB ด้วยแนวคิด Skin Vacation ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่มุ่งเน้นการบำรุงและพักผ่อนผิวด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ คาดว่าจะเปิดตัวในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้

“เรามีความเชี่ยวชาญด้านไลฟ์สไตล์และชายหาด เราอยากจะพาบรรยากาศที่มีความผ่อนคลายมาสู่กรุงเทพฯ ด้วยผลิตภัณฑ์ที่เราออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อการใช้ในชีวิตประจำวัน” ปลาเข็ม – กรัชเพชร กล่าวถึงธุรกิจใหม่

ปลาเข็ม – กรัชเพชร สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีเกียรตินิยมอันดับ 1 จาก London College of Fashion ประเทศอังกฤษ และปัจจุบันเป็นดีไซเนอร์และเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้า KEMISSARA

ทุ่มทุน 16,000 ล้านบาทเปิด 6 โครงการหรู

ในส่วนของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มชาญอิสสระเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่มูลค่ารวมกว่า 16,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการที่พักอาศัยระดับลักชัวรีในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ได้แก่

กรุงเทพฯ บริเวณพระราม 9-กรุงเทพกรีฑา จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการอิสสระ เรสซิเดนท์ บนพื้นที่ 19 ไร่ จำนวน 23 ยูนิต และโครงการบ้านอิสสระ บนพื้นที่ 21 ไร่ จำนวน 67 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 5,123 ล้านบาท

โครงการมิกซ์ยูส “ศรีพันวา ลากูน” บนเกาะภูเก็ต บนพื้นที่ 62 ไร่ มูลค่าโครงการ 8,000 ล้านบาท ประกอบด้วยโรงแรมหรู วิลล่า และคอมมูนิตี้ บริเวณเชิงทะเล และโครงการ The Sky Series วิลล่าหรูระดับเวิลด์คลาส บนพื้นที่กว่า 2 ไร่ จำนวน 4 หลัง มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท

โครงการอิสสระ วิลล์ หัวหิน พูลวิลล่าระดับลักชัวรี บนพื้นที่ 4 ไร่ จำนวน 8 ยูนิต มูลค่าโครงการ 144 ล้านบาท และโครงการห้องชุดซาซ่าส์ หัวหิน บนพื้นที่ 3 ไร่ จำนวน 248 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,706 ล้านบาท

SASA Hua Hin

3 ธุรกิจหลักและรายได้ของชาญอิสสระ

บริษัทดำเนินธุรกิจหลัก คือ พัฒนาและจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งประกอบด้วยโครงการบ้านและที่ดินจัดสรร รวมถึงคอนโดมิเนียม ปัจจุบันมีโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาและจำหน่ายจำนวน 13 โครงการ มูลค่ารวม 22,600 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนรายได้คิดเป็นประมาณ 58% ของรายได้รวมทั้งหมด

นอกจากนี้ บริษัทยังดำเนินธุรกิจโรงแรมจำนวน 3 แห่ง ได้แก่ ศรีพันวา จังหวัดภูเก็ต, บาบา บีช คลับ หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และบาบา บีช คลับ นาใต้ จังหวัดพังงา มูลค่ารวมของธุรกิจโรงแรมคิดเป็น 6,500 ล้านบาท และมีสัดส่วนรายได้ประมาณ 42%

อีกหนึ่งธุรกิจของบริษัทคือ การให้เช่าอาคารสำนักงานและศูนย์การค้าในโครงการชาญอิสสระทาวเวอร์ 1 และ 2 ซึ่งมีพื้นที่รวม 81,000 ตารางเมตร โดยบริษัทเป็นเจ้าของพื้นที่ 34,000 ตารางเมตร มูลค่ารวมของธุรกิจนี้อยู่ที่ 2,000 ล้านบาท และมีสัดส่วนรายได้ประมาณ 3-5%

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

เศรษฐกิจผันผวน เช็กด่วน! เงินสำรองพร้อมไหม?

ทรู ลีสซิ่งขยายธุรกิจ เปิดบริการล่องเรือหรูชมกรุงเก่า จากท่าเรือตกแต่งสไตล์อิตาลี

×

Share

ผู้เขียน