การพัฒนาองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีถือเป็นกุญแจสำคัญในยุคนี้ เพราะทุกธุรกิจได้ก้าวเข้าสู่การทำ Digital Transformation กันอย่างต่อเนื่อง แน่นอนว่า ตลาดแรงงานเองก็ต้องการเหล่า Tech Tatent รุ่นใหม่เข้ามาเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจกันมากขึ้น ดังนั้น ด้านการศึกษาจึงจำเป็นที่จะต้องพัฒนาบุคลากรที่มีองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีเข้ามาให้มากขึ้น เพื่อโอกาสในการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจทั้งในภาคธุรกิจและภาพรวมของประเทศด้วยเช่นเดียวกัน
ด้วยเหตุผลนี้ทางบริษัท กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) ซึ่งนำทัพโดย เรืองโรจน์ พูนผล ประธานกลุ่มบริษัท กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) จึงตั้งใจที่จะปลุกปั้น ‘KBTG Kampus’ โครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาและบุคลากรด้าน IT และส่งเสริมงานวิจัยด้านเทคโนโลยีใหม่ ๆ ด้วยการเชื่อมรอยต่อระหว่างภาคอุตสาหกรรมและภาคการศึกษา พร้อมร่วมกับสถาบันการศึกษาชั้นนำของไทย ได้แก่ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง มหาวิทยาลัยมหิดล และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สร้าง Tech Education Ecosystem ของการเรียนทางด้านเทคโนโลยี (Tech Education) ให้ครบวงจรและตอบโจทย์กับตลาดแรงงานมากยิ่งขึ้น

เรืองโรจน์ กล่าวว่า ในปัจจุบันนี้นับเป็น Age of technology ที่พบเจอกับการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในช่วงปี 2030-2035 นี้ที่จะเข้าสู่ยุค General-purpose technologies (GPTs) ที่จะเข้ามาแทรกซึมผสานเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเหมือนกับเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต หรือมือถือ ดังนั้น โลกในอีก 10 ปีข้างหน้าจะมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างก้าวกระโดด แน่นอนว่า ย่อมกระทบกับเรื่องของการจ้างงานมากขึ้น เพราะในปัจจุบันนี้ก็จะเห็นแล้วว่า AI ได้ถูกนำมาประยุกต์ใช้ในการทำงานมากยิ่งขึ้น การทำ Tech Education Ecosystem จึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะนอกจะต้องให้องค์ความรู้ในด้านของการใช้งานให้เป็นแล้ว ยังต้องทำให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและคงความถูกต้องเอาไว้ด้วย
แนวคิดในการพัฒนาด้านการศึกษาและการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้
สำหรับในด้านการศึกษาด้านเทคโนโลยีนั้นต้องพัฒนารูปแบบของการทำงานไปพร้อมกับการใช้เทคโนโลยี AI โดยเน้นให้มนุษย์ยังคงมีบทบาทสำคัญในการคิดและตัดสินใจ โดยมีแนวคิดหลักอยู่ 2 ประการ ดังนี้

- มนุษย์ควรมองว่า AI คือ เครื่องมือที่เข้ามาช่วยเสริมการทำงานให้กับมนุษย์แต่ไม่ใช่การมาแทนที่ ดังนั้น จึงต้อง “Link AI on the table, on the time” หมายความว่า AI เข้ามาช่วยในกระบวนการทำงานให้เร็วขึ้น แต่มนุษย์ยังต้องเป็นศูนย์กลางในการคิดอยู่เสมอ
- AI จะเป็นเครื่องมือที่เพิ่มโอกาสให้กับมนุษย์ เช่น เพิ่มโอกาสในการทำงานที่มากขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ เพื่อที่จะทำงานร่วมกันกับ AI ได้ก็ควรที่จะมีการปรับเปลี่ยนรูปการทำงานให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีมากขึ้น (Workforce Transformation) ซึ่งการจะทำงานด้วยเทคโนโลยีได้ดีก็ต้องปรับตัวในเรื่องของการศึกษาให้ทันสมัยมากขึ้นด้วย (Education Transformation)
ส่วนใครที่กลัวว่า AI นั้นจะเข้ามาแทนที่มนุษย์ จริง ๆ แล้วในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกยังขาดบุคลากรจำนวนมากในด้าน IT โดยเฉพาะในสาขา Data และ Cybersecurity เช่น เวียดนามและอินโดนีเซียยังขาดบุคลากรในด้านนี้อย่างมาก (ขาดบุคลากรด้าน Cybersecurity ถึง 2.5 ล้านคน) ดังนั้น บุคลากรในด้านนี้จึงยังเป็นที่ต้องการสูงและสามารถสร้างรายได้มาก เราจึงควรที่จะมองว่านี่เป็นโอกาสที่จะทำให้มนุษย์พัฒนาความสามารถในแง่ของการทำงานด้วยเทคโนโลยีได้มากขึ้นจะดีกว่า ซึ่งสิ่งที่ควรเรียนรู้กันเพิ่มเติมในด้านการใช้ AI Technology ก็จะมีอยู่ 2 แกนคือ

- AI currency ที่เป็นทักษะที่เกี่ยวข้องกับ AI ด้านต่าง ๆ และการเสริมสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการสื่อสารระหว่างมนุษย์และ AI (Human-AI Interaction) พร้อมทั้งส่งเสริมการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มนุษย์ยังคงรักษาบทบาทสำคัญในโลกยุคเทคโนโลยี
- AI in Education คือ การนำ AI มาใช้ในการศึกษา โดยให้ AI ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยสอน (Teaching Assistant) เพื่อช่วยให้ครูทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยนักเรียนในการเรียนรู้ เช่น ช่วยในการทำสรุปเนื้อหา การวิเคราะห์ และทำให้การเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพเป็นไปได้ง่ายยิ่งขึ้น
KBTG Kampus และการพัฒนาการศึกษาด้านเทคโนโลยี
โดยการศึกษาในด้านเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อยๆ จะประสบความสำเร็จได้ ผู้เรียนจะต้องมี Growth Mindset ที่เป็นสิ่งสำคัญในยุคนี้ เพราะการเติมความรู้เข้าไปเรื่อย ๆ นั้นอาจไม่เพียงพอ แต่จะต้องใช้ AI อย่างรับผิดชอบโดยไม่กลายเป็นทาสของมัน รวมถึงควรที่จะทำการผสมผสาน AI เข้ากับการทำงานด้วยการเน้นไปที่วิธีเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและการสร้าง Work-Life Balance ที่ดีขึ้นด้วยเทคโนโลยีให้ได้ด้วย

สำหรับ KBTG ในปีที่แล้วได้ประกาศว่าจะเป็น AI-First Transformation แต่หลังจากการทดลองพบว่าการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงต้องเน้นที่ Human-First AI-First Transformation คือ การให้ AI เป็นเครื่องมือเพื่อมนุษย์ โดยที่มนุษย์ยังคงเป็นศูนย์กลางในการใช้งาน AI ซึ่งแนวคิดนี้ KBTG ได้นำมาใช้กับทุกคนในองค์กรอย่างเคร่งครัด และมุ่งเน้นให้มนุษย์ไม่ใช่แค่ผู้ใช้งาน AI แต่ต้องเป็นผู้สร้างที่มีคุณภาพด้วย โดยการพัฒนาคอร์สการเรียนรู้และแบ่งปันความรู้ในองค์กร เช่น AI WAR และจัดตั้ง KBTG AI Kampus เพื่อสนับสนุน Super AI Engineer Good Camp โดยทำงานร่วมกับอาจารย์แอนดรูว์ อึ้ง (Andrew Ng), AI Ativ และ AI Fund ของอาจารย์แอนดรูว์ อึ้ง รวมถึง สสส. โดยจะเน้นไปที่…
- การผลักดันด้านการศึกษาด้วยการร่วมกับ 3 มหาวิทยาลัยชั้นนำในประเทศไทย เพื่อสร้างหลักสูตร KBTG back Co Master’s Degree จนได้ออกมาเป็น 3 หลักสูตรในระดับปริญญาโท ที่ไม่เพียงแต่ให้ปริญญาบัตร แต่ยังสามารถนำความรู้ไปใช้ได้จริงในภาคอุตสาหกรรม
- KBTG ได้ทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัยในการจัดทำ KBTG Kampus ClassNest ในหลักสูตร Java Software Engineering และ Cyber Security มีผู้สนใจสมัครรวมแล้วกว่า 2,000 คน และผู้เข้าร่วมหลักสูตรแล้วกว่า 1,000 คน ใน 8 โปรแกรม
- มีโปรแกรม KBTG Kampus Apprentice ที่เป็นหลักสูตรที่เรียกว่า 2+2 คือ เรียนปริญญาตรี 2 ปี และฝึกงานที่ KBTG อีก 2 ปี โดยทำงานร่วมกับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง โดยจะได้ฝึกงานจริงเป็นเวลาร่วม 2,000 ชั่วโมง
- KBTG ทำงานร่วมกับพันธมิตรระดับโลกในการพัฒนา KBTG Kampus Co-Research เช่น Harvard, VCA Community และ Google ในการพัฒนาและนำงานวิจัย โดยเฉพาะในด้าน AI เพื่อให้เกิดผลประโยชน์สูงสุดกับภาคอุตสาหกรรมและธุรกิจ รวมถึงการพัฒนา KBTG Regional Large Language Model ที่มีผู้ใช้งานทั่วโลกอีกด้วย
สุดท้าย KBTG จะยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาและออกแบบหลักสูตรที่สามารถใช้งานได้จริงและทำวิจัย เพื่อสร้างระบบนิเวศการศึกษาที่ครอบคลุมด้วยการร่วมมือกับมหาวิทยาลัยและพาร์ทเนอร์ระดับโลกเพื่อพัฒนาการศึกษาและสร้างทักษะด้านเทคโนโลยีที่สามารถใช้งานได้จริงให้กับกลุ่มคนรุ่นใหม่ ซึ่งถือเป็นการเตรียมความพร้อมให้ประเทศไทยสามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในยุค AI ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนทั้งในระดับภูมิภาคและระดับสากล จากแรงงานที่มีคุณภาพและมีความสามารถในด้านการใช้เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นในอนาคต