ธุรกิจบัตรเครดิตยังคงอยู่ในสภาวะการแข่งขันที่รุนแรงจากการปรับโครงสร้างธุรกิจ ทั้งจากผู้ให้บริการรายเดิม และการเข้าสู่ตลาดของผู้ให้บริการรายใหม่ ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตยังคงเพิ่มขึ้นตามพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป อย่างไรก็ดี กำลังซื้อในประเทศที่ฟื้นตัวช้าและความสามารถในการชำระหนี้ของครัวเรือนมีแนวโน้มลดลงโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง กอรปกับการเพิ่มความเข้มงวดของระเบียบต่าง ๆ จากผู้ควบคุมกฎระเบียบ ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยสำคัญที่สร้างความกดดันให้กับธุรกิจบัตรเครดิต
ผู้ให้บริการบัตรเครดิตหลายรายต่างก็วางยุทธศาสตร์อย่างเข้มข้นเพื่อช่วงชิงลูกค้ารวมถึงเคทีซี ซึ่งล่าสุดประกาศแผนยุทธศาสตร์ปี 2568 ยกระดับทั้งองค์กรสู่ดิจิทัลอย่างยั่งยืน พัฒนาระบบไอทีและโครงสร้างการทำงานเชิงลึก ผลักดันบุคลากรทุกฝ่ายติดอาวุธความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี เพิ่มขีดความสามารถในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อสร้างประสบการณ์สมาชิกแบบครบวงจร พร้อมขยายฐานสมาชิกให้เติบโตอย่างยั่งยืน ควบคู่การบริหารพอร์ตสินเชื่อคุณภาพ
เปลี่ยน Core system ในการทำธุรกิจบัตรเครดิต
พิทยา วรปัญญาสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ประกาศว่า ปี 2568 เคทีซีจะเปลี่ยน Core System ในการทำธุรกิจบัตรเครดิต โดยจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในส่วนของฝ่ายไอที ใช้งบลงทุนด้านไอทีประมาณ 1,000 ล้านบาท มีการแต่งตั้งหัวหน้าฝ่ายไอทีคนใหม่ และเพิ่มจำนวนพนักงานฝ่ายไอทีอีก 1 เท่าตัว หรือจาก 60 คนเป็น 120 คน
“เราเห็นถึงความจำเป็นของการมีทีม In-house Development เพราะบางอย่างเราจะรอ Vendors แก้ปัญหาให้ไม่ได้ บางอย่างเราต้องให้ทีมของเราทำเอง เช่น ปัญหาที่ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน” พิทยากล่าว
สำหรับแผนการยกเครื่องฝ่ายไอทีนั้น เธอให้รายละเอียดว่า ปี 2568 เคทีซีจะมี Data Warehouse ที่สมบูรณ์แบบมากขึ้น มีการจัดระเบียบข้อมูลเพื่อเอื้อให้ฝ่ายการตลาดนำมาใช้ในการทำกิจกรรมส่งเสริมการตลาดและวิเคราะห์ความเสี่ยง ข้อมูลพื้นฐานของลูกค้าต้องทำให้ฝ่ายการตลาดทำงานได้ดีขึ้น เพราะเราจะทำ Customise Data Platform เพื่อทำการตลาดให้ตรงกับกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น เข้าถึงลูกค้าใหม่ได้ดีขึ้น และสร้างรายได้จากกลุ่มลูกค้าเก่าได้มากขึ้น
นอกจากนี้ จะมีการตั้งผู้เชี่ยวชาญด้าน Data และ Governance เพราะทุกวันนี้เรื่อง Data Security สำคัญมาก รวมถึงเรื่อง PDPA (คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล)
สำหรับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้จะได้เห็นเต็มรูปแบบในเดือนกันยายน ปี 2568 ซึ่งพิทยากล่าวว่า เคทีซีมีการ Upskill คนของเราให้มีความเข้าใจเทคโนโลยีมากขึ้น ในขณะที่คนฝ่ายไอทีก็จะมาเรียนรู้เรื่องการทำธุรกิจมากขึ้น คิดว่าปีหน้าเรามีความพร้อมในการยกระดับทั้งองค์กรสู่ดิจิทัลอย่างยั่งยืน
“โลกเปลี่ยน วิธีการทำงานก็เปลี่ยนไปด้วย ธีมของเราปีนี้คือการใช้ Digital Transformation เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนใช้เทคโนโลยีมาช่วยสร้างความได้เปรียบในเรื่องการแข่งขัน เพื่อให้เราตอบสนองความต้องการของลูกค้า และที่สำคัญคือลดค่าใช้จ่าย” พิทยากล่าว
เธอยอมรับว่า เทคโนโลยีเปลี่ยนไปตลอดเวลา ความต้องการของคนเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา สถานการณ์การแข่งขันเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
“ยุคนี้ต้องสู้กันด้วยเทคโนโลยี เพราะนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้คุณสามารถนำเสนออะไร (ให้ลูกค้า) ได้เร็วและปลอดภัยกว่าโดยการใช้ Data มาวิเคราะห์” พิทยากล่าว
เน้น 3 เสาหลัก คน กระบวนการและเทคโนโลยี
เคทีซีกล่าวมาโดยตลอดว่า รากฐานที่สำคัญขององค์กรคือ คน กระบวนการและเทคโนโลยี ซึ่งพิทยา กล่าวว่า สำหรับปี 2568 จะเป็นการประสานกันของจิ๊กซอว์ทั้ง 3 ตัว ที่ผ่านมาคนและกระบวนการพร้อม แต่ฝ่ายไอทียังไม่สามารถสนับสนุนได้เต็มที่ เชื่อว่าปีหน้านวัตกรรมต่าง ๆ ที่ฝ่ายต่าง ๆ ของเราคิดขึ้นมาจะได้เครื่องมือที่ดีขึ้นและทำให้ประสบการณ์ของลูกค้าสามารถใช้บัตรเครดิตหรือสินเชื่อได้อย่างปลอดภัย
“การดูแลรักษาข้อมูลของลูกค้าเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญ เราเชื่อว่าถ้ามี Digital Transformation จะทำให้เราเข้าถึงลูกค้าและมีโอกาสขยายพอร์ตโฟลิโอ สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าให้แน่นแฟ้นขึ้น และคนทำงานก็ทำงานได้อย่างสมาร์ทยิ่งขึ้น” พิทยากล่าว
อย่างไรก็ตาม พิทยาคิดว่า ตอนนี้ทางเคทีซีพยายามสร้างองค์กรให้เป็น Digital First ก่อน โดยยังไม่ถึงเวลาของ AI First แต่เธอยอมรับว่า AI มีความสำคัญ ที่ผ่านมาเคทีซีมีการใช้ AI ในการ Prediction หรือการคาดการณ์ ประมาณ 700 – 800 กิจกรรม
4 แนวทางมุ่งสู่ความยั่งยืน
สำหรับทิศทางธุรกิจเคทีซีในปี 2568 ทางบริษัทได้เตรียมการเพื่อก้าวสู่องค์กรดิจิทัลอย่างยั่งยืน ด้วยกลยุทธ์ “Building a Sustainable Future Through Digital Transformation” บน 4 แนวทางหลัก คือ
1 Reach Better: ใช้ช่องทางดิจิทัลในการขยายฐานสมาชิกกลุ่มใหม่ที่นิยมทำรายการด้วยตนเองตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการด้วยการพัฒนา E-Application ที่ง่าย ไร้รอยต่อ และปลอดภัย สามารถรู้ผลการสมัครได้รวดเร็วยิ่งขึ้น พร้อมพัฒนาและทดสอบเครื่องมือในการประเมินคุณภาพสินเชื่อ (Credit Scoring Model) ใหม่ๆ เพื่อแสวงหาโอกาสของการขยายฐานสมาชิกที่ยังอยู่ในระดับความเสี่ยงที่รับได้
2 Grow Healthier: การบริหารฐานข้อมูลสมาชิกอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมพัฒนาบริการใหม่ ๆ บนแอป KTC Mobile ที่ทำให้สมาชิกสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ของเคทีซีได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ตอบโจทย์ความต้องการของสมาชิก และสร้างความมั่นใจในการใช้จ่าย
3 Bond Tighter: เพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยของบริการรวมถึงการสื่อสารบนช่องทางออนไลน์ ทั้งผ่านแอป “KTC Mobile” Line Connect, Facebook และเว็บไซต์ www.ktc.co.th เพื่อให้สมาชิกใช้งานง่าย สะดวกและมั่นใจมากขึ้น รวมถึงเครื่องมือที่ช่วยให้ทีมงาน Contact Center สามารถให้บริการตอบคำถามได้รวดเร็วและถูกต้องแม่นยำ เพื่อให้สมาชิกได้รับความพึงพอใจมากที่สุด
4 Work Smarter: เตรียมความพร้อมด้านเครื่องมือ กระบวนการและการพัฒนาทักษะ ด้านไอทีให้กับบุคลากรเคทีซีทั้งองค์กร ส่งเสริมการคิดริเริ่มและปรับปรุงกระบวนการทำงาน โดยประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการเพิ่มประสิทธิภาพงาน ลดค่าใช้จ่าย และพัฒนาทักษะของพนักงานให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง
คาดการณ์พอร์ตสินเชื่อรวมปี 2568 ขยายตัวที่ 4-5%
พิทยาแสดงความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2568 จะขยับตัวดีขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ของภาครัฐ จะช่วยเพิ่มรายได้ในภาคประชาชนและสร้างโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน ซึ่งถือเป็นสัญญาณบวกกับธุรกิจบริการสินเชื่อผู้บริโภค
“ปี 2567 เราเผชิญกับความท้าทายเป็นอย่างมาก แม้ตัวเลขจะไม่ถึงเป้าที่วางไว้ แต่ก็ไม่น้อยหน้า เราเน้นการเติบโตอย่างมีคุณภาพและดูแลพอร์ตโฟลิโอ เราอยากโตแต่ถ้ามีความเสี่ยงที่รับไม่ได้ เราก็ไม่ไปทางนั้นเหมือนกัน” พิทยากล่าว
สำหรับเป้าหมายการทำธุรกิจในปี 2568 เคทีซีคาดว่าพอร์ตสินเชื่อรวมจะขยายตัวที่ 4-5% และคุมอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อ (NPL Ratio) รวมให้อยู่ในระดับไม่เกิน 2% และมีแผนระดมเงินกู้ยืมระยะยาวประมาณ 15,000 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการขยายตัวของพอร์ตสินเชื่อ ลงทุนด้านเทคโนโลยี รวมถึงรองรับหุ้นกู้และเงินกู้ยืมระยะยาวที่จะครบกำหนดประมาณ 13,000 ล้านบาท
ตั้งเป้ายอดใช้จ่ายบัตรเครดิตโต 10-12%
ประณยา นิถานานนท์ ผู้บริหารสูงสุด สายงานการตลาดบัตรเครดิต “เคทีซี” ตั้งเป้าการเติบโตของยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตปี 2568 อยู่ที่ประมาณ 10-12% ด้วยยอดใช้จ่ายผ่านบัตรที่ไม่ต่ำกว่า 320,000 ล้านบาท เพิ่มจำนวนสมาชิกใหม่ 250,000 บัตร เน้นกลุ่มผู้มีรายได้ 50,000 บาทขึ้นไป รวมถึงกลุ่มคนเริ่มทำงาน (First Jobber) สร้างความแตกต่างในด้านการทำกิจกรรมทางการตลาดและส่งเสริมการขายโดยใช้จุดแข็งด้านคะแนนสะสม KTC FOREVER ในการเพิ่มมูลค่าให้สมาชิกโดยร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจทุกหมวดสำคัญ เช่น หมวดอาหาร ช้อปปิ้ง เติมน้ำมัน และท่องเที่ยว เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สมาชิกทุกกลุ่มเซ็กเมนต์
ปัจจุบันเคทีซีมีลูกค้าบัตรเครดิตจำนวน 2.2 ล้านราย ถือบัตร 2.7 ล้านใบ
บัตรกดเงินสดตั้งเป้าเติบโต 3%
พิชามน จิตรเป็นธรรม ผู้บริหารสูงสุด สายงานสินเชื่อบุคคล “เคทีซี” ตั้งเป้าธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล บัตรกดเงินสด “เคทีซี พราว” เติบโตที่ 3% เน้นขยายฐานสมาชิกใหม่ผ่านพันธมิตรธุรกิจต่าง ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสเข้าถึงสินเชื่อผ่านช่องทางสมัครสินเชื่อออนไลน์ E-Application ที่ลูกค้าสามารถทำรายการได้ด้วยตนเอง รู้ผลอนุมัติพร้อมรับเงินโอนเข้าบัญชีภายใน 30 นาที พร้อมสร้างประสบการณ์การใช้งานให้กับสมาชิกผ่านฟังก์ชัน “รูด โอน กด ผ่อน” ครบจบในบัตรเดียว และสานต่อโครงการ “เคลียร์หนี้” เพื่อเสริมวินัยทางการเงินแก่สมาชิก
ตั้งเป้าสินเชื่อรถยนต์โต 3,000 ล้านบาท
สำหรับสินเชื่อ “เคทีซี พี่เบิ้ม รถแลกเงิน” นั้น เรือนแก้ว เกษมสวัสดิ์ศรี ผู้บริหารสูงสุด สายงานสินเชื่อรถยนต์ “เคทีซี” ตั้งเป้าการเติบโตปี 2568 ที่ 3,000 ล้านบาท เน้นขยายพอร์ตสินเชื่อคุณภาพผ่านสาขาธนาคารกรุงไทยตัวแทนจำหน่าย และพันธมิตรธุรกิจต่าง ๆ เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ประจำและเจ้าของกิจการขนาดเล็กที่เป็นเจ้าของรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ และกำลังมองหาสินเชื่อ ให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบได้ง่ายและปลอดภัย พร้อมรับวงเงินใหญ่สูงสุด 100% ของราคาประเมิน อนุมัติไวภายใน 1 ชั่วโมง รับเงินทันที โดยไม่ต้องมีคนค้ำประกัน
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
เปิดแผน Bluebik 2025 ตั้งเป้าผู้นำตลาด AI Transformation ปักธงเบอร์หนึ่งในตลาดธุรกิจธนาคาร
Creator Monetization กลยุทธ์สร้างรายได้ที่ครีเอเตอร์ต้องเข้าใจ
