เคเอฟซี เดินหน้าโครงการ KFC Bucket Search ต่อเนื่องเป็นรุ่นที่ 2 ช่วยน้อง ๆ อีก 300 คน และตั้งเป้าภายในปีนี้อีก 1,000 คนเพื่อช่วยน้องให้กลับคืนสู่สังคม ได้กลับมาเรียน ฝึกฝนทักษะ และวิชาชีพ ให้สามารถกลับไปตามความฝันอีกครั้ง ภายใต้แนวคิดที่ว่า “ทุกศักยภาพไม่ควรถูกทอดทิ้ง” เดินหน้าขยายความช่วยเหลือเยาวชนทั่วประเทศ จากเยาวชนกลุ่มสถานพินิจ สู่เยาวชนกลุ่มเปราะบาง และกลุ่มฅนวัยใส จุดประกายความหวังด้านการศึกษา และเปิดประตูสู่อาชีพที่ดีในอนาคต
เปิดเทอมภาคการศึกษาใหม่นี้ มีเด็กไทยจำนวนมากที่ไม่ได้กลับไปเรียนหนังสือต่อ โดยจากข้อมูลของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) นั้นพบว่า ในปี 2568 มีเด็กและเยาวชนอายุระหว่าง 3-24 ปี ที่อยู่นอกระบบการศึกษา จำนวนถึง 880,463 คนซึ่งปัญหาเด็กหลุดออกจากระบบการศึกษานั้นถือเป็นหนึ่งในปัญหาเร่งด่วนของระบบการศึกษาไทยที่ต้องได้รับการแก้ไข โดยหากประเทศไทยยุติปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาจนทำให้จำนวนเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษากลายเป็นศูนย์ได้ จะส่งผลให้เศรษฐกิจเติบโตเพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 1.7 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (GDP) เนื่องจากรายได้ตลอดชีวิตที่เพิ่มขึ้นของเด็กที่มีการศึกษาสูงขึ้น
ที่ผ่านมา โครงการ KFC Bucket Search ภายใต้ความร่วมมือกับ กสศ. มุ่งยกระดับชีวิตของเด็กที่หลุดออกจากระบบการศึกษา พร้อมขับเคลื่อนประเทศไทยเพื่อแก้ปัญหาเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษาให้กลายเป็นศูนย์ (Thailand Zero Dropout) ผ่านการออกแบบหลักสูตรการศึกษาที่ยืดหยุ่นและตอบโจทย์ชีวิต โดยเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับทางเลือกที่เรียกว่า work & study ที่ช่วยในการจัดสรรเวลาและรายได้ ผ่านการเรียนและทำงานกับเคเอฟซี หรือรับการสนับสนุนด้านเงินทุนเพื่อวิชาชีพ โดยโครงการจะมอบทั้งองค์ความรู้และเงินทุนตั้งต้น สำหรับการเรียนจะเน้นการสร้างระบบนิเวศของการเรียนรู้ที่ยืดหยุ่น เยาวชนกลุ่มนี้สามารถเรียนรู้ทักษะชีวิต ทักษะอาชีพ และกลไกการเป็นผู้ประกอบการ ผ่านประสบการณ์ทำงานจริง และประสบการณ์เหล่านี้จะถูกแปลงเป็น ‘หน่วยกิต’ การศึกษา เพื่อสะสมเป็นวุฒิการศึกษานำไปต่อยอดการทำงานในอนาคตได้
ซูเฮล ลิมบาดะ Market Lead & Chief Marketing Officer เคเอฟซี ประเทศไทย กล่าวว่า “โครงการ KFC Bucket Search เริ่มต้นจากความเชื่อที่ว่า เด็กทุกคนมีศักยภาพ และไม่มีใครควรถูกทิ้งไว้ข้างหลังเพียงเพราะขาดโอกาส เราเชื่อว่าการศึกษาเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้เด็กทุกคนกลับมามองเห็นคุณค่าในตนเอง ปลดล็อกศักยภาพ และเดินหน้าสู่ชีวิตที่ดียิ่งขึ้น โครงการ Bucket Search จึงไม่ใช่แค่กิจกรรม CSR แต่เป็นภาพสะท้อนของความเชื่อและความตั้งใจที่เรายึดมั่นมาตลอดกว่า 40 ปีในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ในการสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับสังคม และสนับสนุนให้ทุกคนได้รับโอกาสที่เท่าเทียม”
ภัทรา ภัทรสุวรรณ หัวหน้าฝ่ายบริหารแบรนด์ เคเอฟซี ประเทศไทย กล่าวว่า “เคเอฟซีอยากพาเด็กที่หลุดจากระบบการศึกษากลับมาเรียนอีกครั้ง ผ่านโรงเรียนนอกกรอบของเคเอฟซี กับหลักสูตรทักษะอาชีพและการเป็นผู้ประกอบการ ที่สามารถนำประสบการณ์ทำงานจริงมาเป็นหน่วยกิตเรียนจบ ม.6 ได้ โรงเรียนนอกกรอบเคเอฟซีไม่ใช่แค่ห้องเรียน แต่เป็นพื้นที่ที่เราตั้งใจเปิดให้น้องๆ ได้กลับมาค้นพบศักยภาพของตนเอง โดยผสานการเรียนรู้ที่ตอบโจทย์ชีวิตและประสบการณ์การทำงานจริงกับเคเอฟซี เพื่อให้น้อง ๆ สามารถต่อยอดชีวิตและกลับคืนสู่สังคมได้อย่างมั่นใจและมีคุณค่า”
นับตั้งแต่เริ่มต้นโครงการในปี 2566 โครงการ KFC Bucket Search ได้ส่งมอบโอกาสให้เด็กและเยาวชนจำนวนทั้งสิ้น 430 คน โดยในจำนวนนี้ ส่วนใหญ่มาจากกลุ่มสถานพินิจ นอกเหนือจากการสนับสนุนในด้านการเรียนและทักษะการประกอบอาชีพแล้ว ทางเคเอฟซียังได้นำวิทยากรจากหลากหลายสาขาอาชีพ อาทิ อินฟลูเอ็นเซอร์ ช่างตัดผม นักดนตรี และบาร์เทนเดอร์ เข้ามาแบ่งปันความรู้ประสบการณ์ เพื่อเปิดกว้างเกี่ยวกับโลกการทำงานและเส้นทางอาชีพที่หลากหลายอีกด้วย
เอิร์ท-กฤษณะภัส เรืองฤทธิ์ เยาวชนจากโครงการ KFC Bucket Search รุ่นแรก กล่าวว่า “ได้มีโอกาสมาเล่นดนตรีในงานเปิดตัวโครงการ Bucket Search เมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว หลังวงชนะการประกวดวงดนตรีของ DJOP Music Contest ของทางกรมพินิจฯ และได้รับโอกาสจากเคเอฟซีไปออกงาน ได้ร้องเพลงเล่นดนตรี ผมรู้สึกมีความสุขเวลาคนเห็นเราร้องเพลง เลยอยากทำมันให้ดี เป็นอาชีพได้ ผมเลือกทำให้ทุกคนเชื่อว่าเราสามารถเปลี่ยนตัวเองได้ ผมไม่ได้กังวลกับการใช้ชีวิตข้างนอกเพราะได้รับ โอกาสจากหลายๆ คนที่ทำให้เราเป็นเราในทุกวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นโอกาสทางการศึกษาหรือการได้ทำในสิ่งที่ชอบ”
โครงการ Bucket Search มุ่งสนับสนุนเยาวชนในโครงการให้ค้นหาศักยภาพของตนเองในสาขาวิชาชีพต่าง ๆ โดยไม่จำกัดโอกาสการทำงานเฉพาะกับทางเคเอฟซีเท่านั้น ปัจจุบัน น้อง ๆ รุ่นแรกจำนวน 130 คนนั้น เกือบครึ่งหนึ่งเลือกเรียนและทำงาน (work & study) ไปพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาต่อในสายอาชีวศึกษา สายสามัญ หรือในระดับปริญญาตรี
ส่วนน้อง ๆ กลุ่มที่เหลือเลือกประกอบอาชีพตามความถนัดและความสนใจของตนเอง เช่น การทำธุรกิจส่วนตัว งานช่าง งานบริการ ไปจนถึงงานในสายดนตรี อย่างไรก็ดี เคเอฟซีไม่เพียงมุ่งเน้นการพัฒนาทักษะด้าน hard skills เช่น การเป็นผู้ประกอบการ ภาษาอังกฤษ หรือการตลาด ซึ่งเป็นทักษะสำคัญในโลกการทำงานยุคใหม่เท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับการเสริมสร้าง soft skills อย่างทักษะการสื่อสาร การปรับตัวและอยู่ร่วมกับผู้อื่น การวางแผนชีวิต (life plan) การตระหนักรู้ในตนเอง และการเข้าใจผู้อื่น โดยเป้าหมายสูงสุดคือการให้เด็กนอกระบบสามารถกลับคืนสู่สังคม และนำองค์ความรู้และประสบการณ์ที่สั่งสมจากโครงการไปต่อยอดศักยภาพ สร้างรายได้เลี้ยงชีพตนเองและครอบครัวได้อย่างยั่งยืน พร้อมทั้งจุดประกายแรงบันดาลใจให้ภาคธุรกิจอื่น ๆ ลุกขึ้นมาทำสิ่งเดียวกัน เนื่องจากความร่วมมือของพันธมิตรในภาคเอกชน จะช่วยมอบทางเลือกด้านการเรียนและการทำงานที่หลากหลาย ตรงกับความถนัดและความสนใจของน้อง ๆ มากยิ่งขึ้น
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
รายงานเผย เด็กทั่วโลกอยากรู้เรื่อง AI เพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่าในปี 2025
Routes to Roots จันทบุรี-ตราด สัมผัสรสชาติบูรพา สู่รากเหง้าวัฒนธรรมอาหาร
สวรส.-โนโว นอร์ดิสค์ ผนึกกำลัง ยกระดับมาตรฐานวิจัยคลินิกไทย พัฒนาระบบสุขภาพและเศรษฐกิจ