ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย เปิดเผยผลสำรวจ UOB Business Outlook Study 2025 ชี้ภาคธุรกิจไทยกำลังปรับตัวอย่างแข็งขัน เพื่อรับมือกับความท้าทายจากมาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐอเมริกา และความไม่แน่นอนของห่วงโซ่อุปทานโลก โดยเน้นการขยายโอกาสในภูมิภาคอาเซียน เร่งใช้เทคโนโลยีดิจิทัล และให้ความสำคัญกับการทำธุรกิจอย่างยั่งยืนมากขึ้น
วีระอนงค์ จิระนคร ภู่ตระกูล กรรมการผู้จัดการ Deputy CEO & Wholesale Banking ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย กล่าวว่า ผลสำรวจแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของธุรกิจไทยในการมองหาโอกาสใหม่ ๆ และใช้เครื่องมือดิจิทัล รวมถึงแนวคิดความยั่งยืน มาขับเคลื่อนการเติบโตอย่างมั่นคง โดยยูโอบีพร้อมสนับสนุนเต็มที่ด้วยโซลูชันทางการเงินและความเชี่ยวชาญในภูมิภาค
ภาษีสหรัฐฯ จุดเปลี่ยนสำคัญ
ผลสำรวจระบุว่า ความเชื่อมั่นทางธุรกิจลดลงจาก 58% ในปี 2024 เหลือ 52% หลังมาตรการภาษีสหรัฐฯ โดยธุรกิจขนาดเล็กกังวลมากที่สุด ปัจจัยหลักคือต้นทุนการดำเนินงานและเงินเฟ้อ ซึ่ง 60% ของธุรกิจคาดว่าต้นทุนจะสูงขึ้น และ 57% คาดว่าเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และบริการได้รับผลกระทบมากที่สุด
เพื่อรับมือ ธุรกิจไทยได้เริ่มลดต้นทุน, เพิ่มรายได้ด้วยการหาลูกค้าใหม่และร่วมมือกับพันธมิตร และต้องการการสนับสนุนด้านการเงิน (92%), การค้าและห่วงโซ่อุปทาน (65%) รวมถึงการให้คำปรึกษาหรือฝึกอบรม (50%)
รุกตลาดอาเซียน รับมือห่วงโซ่อุปทาน
กว่า 90% ของธุรกิจไทยให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน แต่มาตรการภาษีสหรัฐฯ กลับทำให้ปัญหาทวีความรุนแรงขึ้น 80% ของธุรกิจคาดว่าจะเจอความท้าทายจากเงินเฟ้อและดอกเบี้ยสูง จึงหันมาใช้การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อตัดสินใจเร็วขึ้น และหันมาค้าขายภายในภูมิภาคอาเซียนมากขึ้น โดยประเทศเป้าหมายหลักคือมาเลเซีย สิงคโปร์ และเวียดนาม
ดิจิทัลและยั่งยืน คือทางรอด
การปรับใช้เทคโนโลยีดิจิทัลกลายเป็นกลยุทธ์หลัก โดยเกือบ 40% ของธุรกิจได้นำเครื่องมือดิจิทัลมาใช้อย่างเต็มรูปแบบ และ 68% คาดว่าจะเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลหลังมาตรการภาษีสหรัฐฯ เพื่อเพิ่มการมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า ขยายการเข้าถึง และเข้าสู่ตลาดได้เร็วขึ้น
ด้านความยั่งยืน แม้กว่า 90% ของธุรกิจตระหนักถึงความสำคัญ แต่มีเพียง 53% ที่ได้ลงมือปฏิบัติจริง อย่างไรก็ตาม 60% คาดว่าจะเร่งดำเนินมาตรการเพื่อความยั่งยืนหลังภาษีสหรัฐฯ โดยมากกว่า 30% กำลังพิจารณาใช้พลังงานหมุนเวียน
ปัญหาแรงงานยังคงอยู่
ครึ่งหนึ่งของธุรกิจไทยยังคงเผชิญปัญหาด้านแรงงาน โดยเฉพาะเรื่องค่าตอบแทนและความยืดหยุ่นในการทำงาน ซึ่งรุนแรงขึ้นจากการใช้ AI และความคาดหวังของคนรุ่นใหม่ ทำให้เกือบ 40% ประสบปัญหาในการรักษาบุคลากรที่มีความสามารถ ธุรกิจจึงต้องปรับตัวด้วยการเพิ่มค่าตอบแทน ปรับรูปแบบการทำงาน และการใช้ดิจิทัลเข้ามาช่วย
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ก.ล.ต. เผย Thai ESGX มียอดเงินลงทุนรวมกว่า 3.2 หมื่นล้านบาท ตอบโจทย์การลงทุนที่ยั่งยืน
ฟินนิกซ์ ชูฟีเจอร์ ‘อนุมัติไวสุดใน 5 วินาที’ เข้าถึงเงินกู้ถูกกฎหมายได้ทันใจ