เนคเทค สวทช. จัดงาน “10 ปี IoT ไทย” ตอกย้ำความสำเร็จของแพลตฟอร์ม NETPIE ในฐานะโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่สำคัญของประเทศ พร้อมประกาศทิศทางอนาคต มุ่งผลักดันเทคโนโลยี AIoT (ปัญญาประดิษฐ์สำหรับสรรพสิ่ง) เป็นหัวหอกขับเคลื่อนอุตสาหกรรมและสังคมไทย เปิดตัว “Daysie” แพลตฟอร์มใหม่ล่าสุดที่ช่วยให้นักพัฒนาและผู้ประกอบการสามารถสร้างแอปพลิเคชัน AIoT สำหรับอุปกรณ์ Edge Computing ได้โดยไม่ต้องเขียนโปรแกรมแม้แต่บรรทัดเดียว
ดร.ชัย วุฒิวิวัฒน์ชัย ผู้อำนวยการเนคเทค สวทช. กล่าวว่า NETPIE ซึ่งเริ่มต้นจากโครงการวิจัยได้เติบโตจนกลายเป็นแพลตฟอร์ม IoT ที่สำคัญของไทยตลอดทศวรรษที่ผ่านมา โดยเปรียบเทียบว่า หากข้อมูล (Data) คือเลือด, ปัญญาประดิษฐ์ (AI) คือสมอง และเซนเซอร์คือประสาทสัมผัส NETPIE ก็เปรียบเสมือนเส้นเลือดที่เชื่อมโยงทุกอย่างเข้าด้วยกัน และวันนี้เส้นเลือดนั้นกำลังถูกยกระดับเพื่อรองรับการทำงานของสมองที่ซับซ้อนขึ้นในยุค AIoT
จาก NETPIE สู่ Daysie: กระจายสมองสู่ปลายทาง
ไฮไลต์สำคัญของงานคือการเปิดตัว “Daysie” แพลตฟอร์มที่ถูกออกแบบมาเพื่อลดความซับซ้อนในการพัฒนา AIoT โดย ดร.เอมอัชนา นิรันตสุขรัตน์ หัวหน้าทีมวิจัยระบบไซเบอร์-กายภาพ (CPS) ของเนคเทค ระบุว่า Daysie จะเป็นเครื่องมือให้ผู้ใช้งานที่ไม่มีพื้นฐานการเขียนโค้ดสามารถสร้างแอปพลิเคชันอัจฉริยะ และนำไปติดตั้งบนอุปกรณ์ Edge Computing ได้โดยตรง
แนวคิดหลักคือการ “กระจายสมอง” จากระบบคลาวด์ (Cloud) ไปยังอุปกรณ์ปลายทาง (Edge) ทำให้ระบบสามารถประมวลผลและตัดสินใจได้แบบเรียลไทม์ ลดความหน่วง และทำงานต่อได้แม้ขาดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เช่น ในสายการผลิต อุปกรณ์ Edge สามารถตรวจจับความผิดปกติของเครื่องจักรและสั่งให้อุปกรณ์ตัวอื่นชะลอการทำงานได้ทันทีเพื่อลดความเสียหาย
ปัจจุบัน Daysie ได้เริ่มนำไปทดลองใช้ในภาคอุตสาหกรรมแล้ว เช่น การตรวจสอบคุณภาพสินค้าด้วยภาพถ่าย และการวิเคราะห์เสียงเครื่องจักรเพื่อบำรุงรักษาเชิงป้องกัน
ทศวรรษแห่งการวางรากฐาน IoT ไทย
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2558 NETPIE เปิดตัวในฐานะแพลตฟอร์ม IoT สัญชาติไทยที่ให้บริการฟรี เพื่อเป็นโครงสร้างพื้นฐานให้นักพัฒนา, Maker, และภาคธุรกิจสามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมได้โดยไม่ต้องลงทุนสร้างระบบหลังบ้านเอง
ดร.พนิตา พงษ์ไพบูลย์ รองผู้อำนวยการเนคเทค เล่าถึงความท้าทายในช่วงเริ่มต้นเมื่อกว่า 10 ปีก่อนว่า เทคโนโลยี IoT ยังเป็นเรื่องใหม่มาก แต่ NETPIE ก็ได้พิสูจน์บทบาทของตนเองผ่านการใช้งานจริงในหลากหลายภาคส่วน ตั้งแต่เกษตรอัจฉริยะไปจนถึงการแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน เช่น กรณีของ กปภ.สาขาเชียงใหม่ (พ.) ที่นำ NETPIE ไปใช้ติดตามระบบผลิตน้ำประปาในพื้นที่ห่างไกลอย่าง อ.แม่วาง ช่วยให้เจ้าหน้าที่ทราบสถานะเครื่องจักรได้ทันที ลดปัญหาน้ำไม่ไหลและเสียงร้องเรียนของประชาชนได้อย่างมีนัยสำคัญ
เพื่อสร้างความยั่งยืนและรองรับการใช้งานเชิงพาณิชย์ ทีมวิจัยส่วนหนึ่งได้ตั้งบริษัท เน็กซ์พาย (NEXPIE) จำกัด เพื่อให้บริการแพลตฟอร์ม NETPIE อย่างเต็มรูปแบบ ถือเป็นการเปลี่ยนผ่านจากโครงการวิจัยของรัฐสู่การเป็นบริการเชิงพาณิชย์ที่สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ภาคอุตสาหกรรม
การจัดงานในครั้งนี้ไม่เพียงเป็นการเฉลิมฉลองความสำเร็จของ NETPIE แต่ยังเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่า ก้าวต่อไปของ IoT ไทยคือการผสานพลังของ AI เข้าไปในทุกสรรพสิ่ง เพื่อสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันและยกระดับประเทศสู่ยุคอุตสาหกรรมอัจฉริยะอย่างแท้จริง
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ไมเนอร์ ฟู้ด กางแผน 5 ปีลุย 4,500 สาขาทั่วโลกชู ‘แฟรนไชส์’ นำทัพ
วิธีคิดแบบ Flash Express: สร้างธุรกิจโตเร็วด้วย ‘จังหวะ’ และ ‘เทคโนโลยี’
