Share on
×

Share

“คนปัจจุบัน” …. เป้าหมายที่เป็นไปได้ สำหรับ “การพัฒนาพนักงาน”


“พี่ไม่ได้คาดหวังให้พนักงานพี่มีทักษะ ความพร้อมสำหรับการทำงานในโลกอนาคตแบบ future-proof เหมือนองค์กรอื่นหรอกนะ เป็นแค่ ’คนปัจจุบัน’ ก็พอ”

ประโยคนี้มาจาก HR Director องค์กรขนาดใหญ่หลักหมื่นคน ที่ผมได้พูดคุยด้วยซึ่งทำให้ผมชะงักและสนใจอยากเข้าใจเพิ่มเติม

ในมุมที่ผมเป็นที่ปรึกษาได้อ่านและศึกษา Trend และ Best Practices จากองค์กรชั้นนำต่าง ๆ มากมาย เรื่องการเตรียมความพร้อม และพัฒนาทักษะสำหรับพนักงานเพื่อการทำงานในโลกอนาคตเป็นหนึ่งในหัวข้อสำคัญที่ผู้บริหารและ HR อยากจะเห็น แต่สิ่งที่หลายองค์กรมองข้ามไป คือ บริบทของพนักงานในองค์กรว่ามีต้นทุน และความพร้อมในการพัฒนามากน้อยเพียงไร

ลองนึกภาพองค์กรที่มีพนักงานจำนวนมากกว่า 1 ใน 5 ที่มีอายุงานมากกว่า 20 ปี เริ่มทำงานกับบริษัทตั้งแต่เรียนจบ ซึ่งองค์กรไม่ได้มีระบบการประเมิน การพัฒนาบุคลากรที่ชัดเจน หรือเรียกง่ายว่าอยู่แบบบ้าน ๆ ทำงานแบบสบาย ๆ มานาน พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ใช้เทคโนโลยีไม่เป็น วันดีคืนดีสถานการณ์ทางธุรกิจบีบให้องค์กรต้องเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเพื่อให้อยู่รอด ผู้บริหารจึงต้องการหาที่พร้อม หรือพัฒนาให้พนักงานที่มีอยู่ให้พร้อมกับการแข่งขัน ทั้งสามารถใช้ภาษาอังกฤษในการทำงาน ประชุมออนไลน์ ทำงานผ่านไฟล์บน Cloud ครบเครื่องสำหรับ Future Workplace ก็คงเป็นเป้าที่ท้าทายไม่น้อย

บางองค์กรอาจจะใช้วิธีบีบให้พนักงานที่ไม่ปรับหรือทำตามที่คาดหวังไม่ได้ ให้ออกจากงาน แต่ก็ไม่ใช่วิธีคิดหรือวัฒนธรรมของอีกหลายองค์กรที่ให้ความสำคัญกับคนเก่าคนแก่ หรือวัฒนธรรมการดูแลพนักงานแบบครอบครัว

ในมุมหนึ่งก็เป็นโจทย์ที่ท้าทายของผู้บริหารและ HR ว่าจะทำอย่างไรกับพนักงานกลุ่มนี้ที่เหมือนอยู่ในโลกอดีต ไม่อยากเปลี่ยนแปลงการทำงาน หรือพัฒนาตัวเอง และองค์กรก็ไม่อยากที่จะให้ออกจากงาน

ในอีกมุมหนึ่งผมคิดว่าเป็นโจทย์เรื่อง Diversity Equity & Inclusion (DE&I) ที่เราจะใช้ความหลากหลายของ generation มาให้เกิดประโยชน์ต่อองค์กร โดยไม่ให้พนักงานบางกลุ่มรู้สึกว่าถูกทอดทิ้งได้อย่างไร

แม้ปัญหานี้ยังไม่ทางออกที่ชัดเจน แต่สิ่งหนึ่งที่ผมได้มุมมองที่น่าสนใจจาก HR Director ท่านนี้ คือ ท่านปรับความคาดหวังให้เหมาะสม และเป็นไปได้มากขึ้น

ถ้าเทียบทักษะหรือความพร้อมของพนักงานในองค์กรปัจจุบันเหมือน ‘คนในอดีต’ คือ ทักษะความรู้ และประสบการณ์ที่อาจใช้ได้ในอดีตแต่ไม่สอดคล้องหรือเพียงพอในการทำงานในโลกนาคต สิ่งที่คาดหวัง คือ ขอแค่เปิดใจเรียนรู้ และพัฒนาตัวเองขึ้นมาเป็น ‘คนปัจจุบัน’ ที่สามารถทำงานร่วมกับพนักงานใหม่ ๆ ทั้ง Gen Y และ Gen Z ได้ องค์กรอาจต้องเหนื่อยในการจับมือสอนเรื่องการใช้เทคโนโลยี หรือจุดที่สมดุลในการเปลี่ยนแปลงเรื่องต่าง ๆ ในการทำงาน เพื่อให้ทั้งองค์กรยังไปต่อได้

ถ้ามองกลับมาในมุมมองของเราในฐานะที่เป็นพนักงาน หรือ Talent อาจถอดบทเรียนได้ 2 เรื่อง

การพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องมีความสำคัญมากในการทำงาน แม้แต่ละคนจะมีข้อจำกัดต่าง ๆ ซึ่งส่งผลต่อความสามารถในการเรียนรู้เรื่องใหม่ ๆ ที่แตกต่างกัน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ไม่หยุดพัฒนาตัวเอง

การเปิดใจ พยายามเข้าใจความต่างของเพื่อนร่วมงานที่มีพื้นฐานและต้นทุนที่ต่างกัน เพราะสุดท้ายการทำงานให้บรรลุเป้าหมายขององค์กรต้องอาศัยทีมที่หลากหลาย จะเลือกทำงานเฉพาะคนที่คุยกันรู้เรื่อง หรือรุ่นเดียวกันไม่ได้

หากลองปรับบทเรียนไปใช้ในการทำงาน คุณจะไม่เพียงเป็น ‘คนปัจจุบัน’ แต่จะเป็นคนที่พร้อมและเป็นที่ต้องการขององค์กรในการทำงานไม่ว่าปัจจุบันหรืออนาคต

ผู้เขียน: ชัชพล ยังวิริยะกุล

บทความมอื่น ๆ ของผู้เขียน

Welcome back to the office: ผลกระทบและสิ่งที่ต้องเตรียมตัว

เมื่อ Perfectionist…. เนี้ยบเกิน จนเพื่อนร่วมงานเอือม… ทำอย่างไรดี ?

เคล็ดลับในการถาม …. เมื่อคำถาม สำคัญกว่าคำตอบ

×

Share

แท็กที่เกี่ยวข้อง