- บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) เผยผลการดำเนินธุรกิจปี 2564 สร้างกระแสเงินสดและผลกำไรได้อย่างแข็งแกร่ง มีรายได้จากการขายรวม 4,124 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 131,861 ล้านบาท)
- ปี 2565 เตรียมเดินหน้าธุรกิจ โดยเพิ่มอัตราเร่งเปลี่ยนผ่านธุรกิจ (Banpu Transformation) ภายใต้กลยุทธ์ Greener & Smarter เพื่อบรรลุเป้าหมายความยั่งยืนด้านพลังงาน สู่เป้าหมายสร้าง “พลังงานที่ดีขึ้นเพื่ออนาคต”
สมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ผลการดำเนินธุรกิจพลังงานโดยรวมในปี 2564 สะท้อนให้เห็นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมจากวิกฤตโควิดซึ่งความต้องการด้านพลังงานโลกเป็นไปในทิศทางเดียวกัน บ้านปูสามารถสร้างกระแสเงินสดได้อย่างแข็งแกร่ง ทั้งจากราคาพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้น การปรับกลยุทธ์ และยังเป็นปีที่เราประสบความสำเร็จอย่างก้าวกระโดดในการเดินหน้าขยายพอร์ตพลังงานที่สะอาดขึ้น ด้วยการเข้าลงทุนในสินทรัพย์ด้านพลังงาน ในประเทศยุทธศาสตร์สำคัญอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นในญี่ปุ่น ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา และเวียดนาม ขณะเดียวกัน
ด้วยความเชื่อมั่นของผู้ถือหุ้นและนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ บริษัทฯ ประสบความสำเร็จจากการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนและหุ้นกู้ ส่งผลให้บริษัทฯ มีความแข็งแกร่งทางการเงินมากยิ่งขึ้น พร้อมเสริมอัตราเร่งกระบวนการเปลี่ยนผ่าน (Banpu Transformation) ที่รวดเร็วขึ้นได้ นอกจากนี้ยังมีความเข้มข้นในด้านการพัฒนาความยั่งยืน ด้วยการจัดตั้งคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการ (ESG) อย่างเป็นทางการ เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานด้าน ESG ให้เป็นไปตามเป้าหมายอย่างมีประสิทธิผลสูงสุด”
เร่งการผ่านไปสู่พอร์ตพลังงานที่สะอาดขึ้น
สำหรับทิศทางนับจากปี 2565 นี้ บ้านปูยังคงเดินหน้าสร้างการเติบโตตามกลยุทธ์ Greener & Smarter ใน 3 กลุ่มธุรกิจหลัก คือ กลุ่มธุรกิจแหล่งพลังงาน กลุ่มธุรกิจผลิตพลังงาน และกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีพลังงาน เพื่อเร่งกระบวนการเปลี่ยนผ่านไปสู่พอร์ตพลังงานที่สะอาดขึ้นและเทคโนโลยีพลังงานที่สอดคล้องกับเทรนด์พลังงานในอนาคตได้รวดเร็วและยั่งยืนมากยิ่งขึ้น โดยวางแนวทางการดำเนินการในกลุ่มธุรกิจหลักทั้ง 3 กลุ่ม ดังนี้
- ธุรกิจแหล่งพลังงาน
- ธุรกิจเหมือง มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการบริหารจัดการการต้นทุนเพื่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มสูงสุด ตลอดจนศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนธุรกิจแร่แห่งอนาคต (Strategic Minerals) เพื่อต่อยอดการเติบโตของกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีพลังงาน
- ธุรกิจก๊าซธรรมชาติ ให้ความสำคัญในการสร้างความยืดหยุ่นในการใช้งบลงทุนเพื่อสร้างกระแสเงินสดสูงสุด เมื่อสถานการณ์ราคาก๊าซเพิ่มสูงขึ้น ตลอดจนแสวงหาโอกาสใหม่ ๆ ในธุรกิจกลางน้ำและธุรกิจผลิตพลังงานที่สามารถส่งเสริมและต่อยอดธุรกิจต้นน้ำที่มีอยู่ ทั้งนี้กระแสเงินสดที่แข็งแกร่งจากกลุ่มธรุกิจแหล่งพลังงานจะถูกนำไปต่อยอดสร้างการเติบโตของธุรกิจพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและชาญฉลาดขึ้น
- ธุรกิจผลิตพลังงาน มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตของโรงไฟฟ้า รวมทั้งแสวงหาโอกาสการลงทุนในโรงไฟฟ้าใหม่ ๆ ที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตที่มีประสิทธิภาพสูงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (High Efficiency, Low Emissions: HELE) สำหรับในธุรกิจพลังงานหมุนเวียน จะมุ่งเน้นเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดจากโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการแล้ว
- ธุรกิจเทคโนโลยีพลังงาน มุ่งสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดด (Scale Up) ให้พอร์ตฟอลิโอเทคโนโลยีพลังงาน โดยขยายขอบเขตการให้บริการด้านพลังงานที่มีอยู่ ได้แก่ ยานยนต์ไฟฟ้า การผลิตแบตเตอรี่ การจัดการพลังงานและของเสีย (Energy and Waste Management) ควบคู่กับการเข้าลงทุนและพัฒนาบริการที่เกี่ยวข้องกับพลังงานรูปแบบใหม่
ขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านองค์กร
“ทิศทางต่อจากนี้ บ้านปูยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านองค์กร (Banpu Transformation) ภายใต้กลยุทธ์ Greener & Smarter และการยึดมั่นในหลัก ESG เรามั่นใจว่า ด้วยประสบการณ์และการเรียนรู้จากช่วงเวลาแห่งความท้าทายตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ทำให้บ้านปูสามารถเพิ่มอัตราเร่งกระบวนการ Digital Transformation ซึ่งนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ควบคู่ไปกับการขยายพอร์ตฟอลิโอพลังงานที่สะอาดขึ้นได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพื่อการบรรลุเป้าหมาย EBITDA จากธุรกิจพลังงานที่สะอาดและธุรกิจเทคโนโลยีพลังงานขึ้นมากกว่า 50% และเป้าหมายกำลังการผลิตไฟฟ้า 6,100 เมกะวัตต์ ภายในปี 2568” สมฤดี กล่าวปิดท้าย
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ปศุสัตว์ไทยเตรียมพร้อมสู่เกษตรกรยั่งยืน ลดก๊าซเรือนกระจกในห่วงโซ่การผลิต