VerifyVASP ผู้นำด้านการให้บริการ Travel Rule ร่วมกับสมาคมผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลไทย (TDO) จัดงานสัมมนา Global Travel Rule Summit (GTRS) นำข้อแนะนำเรื่อง “Travel Rule” ของคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อดำเนินมาตรการทางการเงินเกี่ยวกับการฟอกเงิน (FATF) มาหารือร่วมกันเป็นครั้งแรก โดยเชิญผู้นำด้านการปฏิบัติตามกฎหมายเข้าร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการนำหลักเกณฑ์ดังกล่าวมาพัฒนาและปรับใช้ให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากลด้าน AML/CFT
งานสัมมนาในครั้งนี้ มีตัวแทนจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และหน่วยงานในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้แก่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) และกองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยีรวมถึงตัวแทนจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเข้าร่วมงานด้วย
จอมขวัญ คงสกุล รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ กล่าวเปิดงาน โดยเน้นย้ำว่าสำนักงาน ก.ล.ต. มีความพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อส่งเสริมและพัฒนาแนวทางในการกำกับดูแลการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์เรื่อง Travel Rule
ตามด้วย พลตำรวจตรี เอกธนัช ลิ้มสังกาศ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ยังได้กล่าวถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการพัฒนานโยบายต่อต้านการฟอกเงินที่มีประสิทธิภาพในประเทศไทย
นอกจากนี้ ตัวแทนจากหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินของประเทศญี่ปุ่น (Japan Financial Services Agency – JFSA) ซึ่งเข้าร่วมในฐานะประธานร่วมของVirtual Assets Contact Group ของคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อดำเนินมาตรการทางการเงินเกี่ยวกับการฟอกเงิน (FATF) ได้เน้นถึงมาตรการต่าง ๆ ที่ประเทศญี่ปุ่นได้ดำเนินการ เพื่อปฏิบัติให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ Travel Rule และเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของการบังคับใช้หลักเกณฑ์ดังกล่าวด้วย พร้อมกันนี้ JFSA ยังได้ เสนอให้มีความร่วมมือระหว่างกันในเรื่องนี้อีกด้วย
การสัมมนาในครั้งนี้เริ่มต้นด้วยการอธิบายว่า Travel Rule คืออะไร โดยอดีตผู้กำหนดนโยบายของสหภาพยุโรปจาก Wharton School of Business จากนั้นประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ VerifyVASP และ Upbit APAC ได้อธิบายถึงการทำงานของ Travel Rule ในเชิงลึก โดย VerifyVASP อธิบายว่าต้องทำอย่างไรจึงจะสามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดต่าง ๆ ทั้งหมดของ FATF ได้ ส่วนด้าน Upbit APAC ได้กล่าวถึงความสำคัญของการตรวจสอบคู่ค้าของผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลรวมถึงแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับเส้นทางสู่การเป็นผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่ปฏิบัติตาม Travel Rule
ต่อมาผู้เชี่ยวชาญด้านสินทรัพย์ดิจิทัลได้บรรยายเกี่ยวกับประโยชน์ของการนำ Travel Rule มาปรับใช้ในธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ในหัวข้อต่าง ๆ ดังนี้ การตรวจสอบรายชื่อโดย LSEG Risk Intelligence การติดตามพฤติกรรมที่น่าสงสัยบนบล็อกเชนโดย TRM Labs การติดตามตรวจสอบสภาพการซื้อขายการตรวจจับและป้องกันการใช้งานในทางที่ผิดโดย Solidus Labs และปิดท้ายด้วย Token Recovery ซึ่งได้อธิบายถึงประโยชน์ของ Travel Rule ในการช่วยกู้คืนสินทรัพย์ดิจิทัลจากการถูกโจรกรรมได้ผ่านกระบวนการทางกฎหมายและเทคโนโลยี
ช่วงสุดท้ายของการสัมมนา วิทยากรได้ร่วมกันอภิปรายในหัวข้อเกี่ยวกับการผลักดันให้มีการนำ Travel Rule มาปรับใช้ พร้อมทั้งตอบคำถามจากผู้เข้าร่วมงาน
จากนั้นปรีชา ไพรภัทรกุล ตัวแทนจากสมาคมผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลไทย (TDO) กล่าวปิดงาน พร้อมเน้นย้ำถึงความสำคัญของการร่วมมือกันระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนว่า “การดำเนินการเช่นนี้จะช่วยส่งเสริมให้ประเทศไทยมีความแข็งแกร่งในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลระดับโลกมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งเป็นการสร้างมั่นใจว่าการทำธุรกรรมระหว่างประเทศนั้นจะมีความปลอดภัยและเท่าเทียมกัน”
Shih Yun Chia ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ VerifyVASP กล่าวว่า “งานในวันนี้ เป็นการร่วมกันหารือถึงแนวทางการนำ Travel Rule มาปรับใช้ในประเทศไทยอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งถือเป็นการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของหน่วยงานภาครัฐของประเทศไทย ที่พร้อมร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรมในการกำหนดกรอบการปฏิบัติตามกฎหมายที่เข้มแข็งในอนาคตต่อไป”
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
Bitkub Chain รีแบรนด์เป็น KUB มุ่งสู่บล็อกเชนสาธารณะระดับโลก
กัลฟ์ ชู 4 กลยุทธ์ยกระดับคุณภาพชีวิตผู้คน สังคม สิ่งแวดล้อม พร้อมมุ่งสู่ Net Zero ในปี 2593
