Share on
×

Share

GULF-AIS-JAS ทุ่ม 500 ล้าน คว้าลิขสิทธิ์ไทยลีก 4 ฤดูกาล “คนไทยดูฟรี!”

บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) และบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญกับสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ คว้าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬาฟุตบอล “ไทยลีก” แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เป็นระยะเวลา 4 ฤดูกาล ตั้งแต่ฤดูกาล 2025/26 ถึง 2028/29 พร้อมเงื่อนไขพิเศษต่ออีก 2 ฤดูกาล

นับเป็นปรากฏการณ์ครั้งประวัติศาสตร์ของวงการกีฬาไทย กับการร่วมมือระหว่างบริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) และบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ในการคว้าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลไทยทุกระดับอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่ฤดูกาล 2025/26 ถึง 2028/29 (พร้อมเงื่อนไขต่อสัญญาอีก 2 ฤดูกาล) โดยจะถ่ายทอดสดครบทุกรายการเป็นครั้งแรกของประเทศ ได้แก่ ไทยลีก 1 ไทยลีก 2 ไทยลีก 3 ฟุตบอลถ้วย เอฟเอ คัพ ลีก คัพ รวมถึงฟุตบอลลีกหญิง และลีกเยาวชน

ความร่วมมือครั้งนี้คือพลังสามัคคีที่จุดประกายความหวังครั้งใหม่ โดยมีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ในการยกระดับมาตรฐานวงการฟุตบอลไทยในทุกมิติ ตั้งแต่การถ่ายทอดสดด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย ภาพคมชัดคุณภาพสูง ไปจนถึงการพัฒนาศักยภาพนักเตะ ผู้ฝึกสอน และผู้ตัดสิน โดยจะมีความร่วมมือกับพรีเมียร์ลีกอังกฤษ เพื่อปูรากฐานอันมั่นคงในการพัฒนาอุตสาหกรรมกีฬาไทยอย่างยั่งยืน และขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ

นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ กล่าวขอบคุณพันธมิตรทั้งสามที่เล็งเห็นความสำคัญของฟุตบอลไทยลีก “ในช่วงเวลาที่ยากลำบากของสมาคมฯ ต้องขอขอบคุณ GULF, AIS และ JAS ที่เข้ามาสนับสนุน เพราะฟุตบอลไทยเป็นกีฬาที่คนไทยรับชมมากที่สุด และไทยลีกในปัจจุบันมีมูลค่าสูงสุดในอาเซียน มีค่าสัมประสิทธิ์สูงกว่าลีกของประเทศจีน การร่วมมือครั้งนี้จะช่วยต่อยอดสู่ชุมชนและเศรษฐกิจของประเทศ”

“วันนี้คือวันประวัติศาสตร์ ย้อนกลับไปเมื่อ 2 ปีก่อน ฟุตบอลไทยลีกไม่มีผู้ถือลิขสิทธิ์อย่างเป็นทางการ แต่วันนี้ลีกของเรากลับมามีมูลค่าอีกครั้ง ภายใต้พันธมิตรที่แข็งแกร่งอย่าง GULF, AIS และ JAS ที่จะเข้ามาสร้างความมั่นคงให้กว่า 100 สโมสรสมาชิก และที่สำคัญนี่ยังเป็นครั้งแรกที่จะมีการถ่ายทอดสดครบทุกระดับ โดยเฉพาะฟุตบอลลีกหญิง ซึ่งตรงกับความตั้งใจของดิฉัน เชื่อว่าการเข้ามาของทั้ง 3 บริษัทจะทำให้การแข่งขันสนุกเข้มข้นขึ้น ทั้งในแง่คุณภาพการถ่ายทอด การแข่งขัน และการตัดสินด้วยเทคโนโลยี VAR เพื่อพาวงการฟุตบอลไทยกลับสู่จุดสูงสุดอีกครั้ง” นวลพรรณ กล่าว

สำหรับข้อตกลงครั้งนี้ กลุ่มพันธมิตร GULF, AIS และ JAS ชนะการประมูลสิทธิ์ด้วยมูลค่ากว่า 350 ล้านบาท และยังรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการผลิตและถ่ายทอดสดไทยลีก 1 และ 2 ด้วยตนเอง รวมเป็นมูลค่าการลงทุนกว่า 500 ล้านบาทต่อปี นอกจากนี้ ยังมีข้อเสนอในการถ่ายทอดสดฟุตบอลลีกหญิง (T1, T2) และลีกเยาวชน U21 ซึ่งถือเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาวงการฟุตบอลไทยในระยะยาว

การเข้ามาของ GULF, AIS และ JAS ที่เต็มไปด้วยพลังของเทคโนโลยี จะทำให้การแข่งขันสนุกและเข้มข้นมากขึ้น ทั้งในแง่คุณภาพการถ่ายทอดสด, คุณภาพการแข่งขันที่มีการเพิ่มโควตานักกีฬาต่างชาติ และคุณภาพการตัดสิน ที่สมาคมฯ มีเทคโนโลยีช่วยตัดสิน VAR Cross Hair 3D ลีกเดียวในอาเซียน ทั้งหมดนี้เพื่อพาวงการฟุตบอลไทยกลับไปอยู่ในจุดสูงสุดอีกครั้ง

สารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF กล่าวถึงแรงผลักดันสำคัญว่า “GULF สนับสนุนวงการฟุตบอลไทยมานานกว่า 10 ปี ความฝันของผมคืออยากเห็นบอลไทยไปบอลโลก การเข้ามาสนับสนุนสมาคมฯ ในครั้งนี้ จึงเป็นก้าวสำคัญที่จะทำให้ฝันนั้นเป็นจริง” พร้อมเผยว่าได้มีการหารือเบื้องต้นกับสมาคมฟุตบอลอังกฤษถึงแนวทางการส่งผู้เชี่ยวชาญมาช่วยพัฒนาผู้ตัดสินไทย และยังตั้งเป้าแก้ปัญหาการถ่ายทอดสดลีก T2 และ T3 ในพื้นที่ห่างไกล โดยอาจร่วมมือกับดาวเทียมไทยคมเพื่อให้สัญญาณครอบคลุมทั่วถึง”

สารัชถ์ยังเล่าต่อว่า ช่วงที่ผ่านมา ตนมีโอกาสพูดคุยกับสมาคมฟุตบอลอังกฤษถึงการก่อตั้งอะคาเดมีในเมืองไทย หรือส่งผู้เชี่ยวชาญมาฝึกสอนผู้ตัดสินของไทย ซึ่งทางสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศอังกฤษเองก็เห็นด้วย จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทั้ง 3 บริษัทได้เข้ามาสนับสนุนสมาคมฟุตบอลฯ ในครั้งนี้

จุดสำคัญที่ทั้ง 3 บริษัทให้ความสนใจ และเป็นความท้าทายในการเข้ามาร่วมงานในครั้งนี้คือการถ่ายทอดสดลีก T2 และ T3 เนื่องด้วยทั้งสองลีกนี้เป็นลีกที่มักจะจัดในจังหวัดห่างไกลและเข้าถึงได้ยาก นี่จึงเป็นโจทย์สำคัญในครั้งนี้ที่จะแพร่ภาพกระจายสัญญาณให้ผู้ชมทุกคนสามารถเข้าถึงได้ โดยเฉพาะลีก T3 ที่สถานที่หลายแห่งไม่ตอบโจทย์การถ่ายทอดสด ทางคุณสารัชถ์จึงได้พูดคุยกับทางดาวเทียมไทยคมหวังช่วยเชื่อมต่อสัญญาณเข้ากับ AIS เพื่อให้สามารถถ่ายทอดฟุตบอลได้ โดยหวังว่าการเพิ่มช่องทางในการรับชมครั้งนี้ จะสร้างความชัดเจนในการรับชมและพัฒนาเศรษกิจมอุตสาหกรรมฟุตบอลไปพร้อม ๆ กัน

ดร. โสรัชย์ อัศวะประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “จากการที่ JAS ได้รับลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษและเอฟเอคัพถึง 6 ฤดูกาล เราไม่เพียงมุ่งมั่นมอบความสนุกจากกีฬาระดับโลกเท่านั้น แต่ยังร่วมมือกับพรีเมียร์ลีกในการพัฒนา 3 แกนหลักสำคัญ ได้แก่ นักเตะ กรรมการผู้ตัดสิน และโค้ชผู้ฝึกสอน เพื่อยกระดับคุณภาพฟุตบอลไทยให้ก้าวไกลในระยะยาว ซึ่ง JAS มีการร่วมมือพันธมิตรอย่าง MONO เพื่อให้ผู้ชมสามารถรับชมได้จากทางสถานีโทรทัศน์ช่อง MONO29 และสมาชิกแอปพลิเคชั่น Monomax ที่รวบรวมคอนเทนต์คุณภาพทั้งหนังซีรีส์ และกีฬาระดับโลกฟุตบอลพรีเมียร์ลีกและเอฟเอคัพอังกฤษ ในครั้งนี้จึงขอเชิญชวนให้แฟนบอลไทยลีก ช่วยกันสนับสนุนการรับชมในช่องทางถูกลิขสิทธิ์ เพื่อให้พวกเราที่เป็นผู้สนับสนุนมีพลังในการพัฒนาวงการฟุตบอลไทยให้ทัดเทียมนานาชาติไปด้วยกัน”

ด้าน สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า AIS ในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยีดิจิทัล เราพร้อมนำความแข็งแกร่งของ Digital Infrastructure และประสบการ์การถ่ายทอดสดกีฬาชั้นนำ อย่างเอเชียนเกม และโอลิมปิค มาพัฒนาการถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยลีกครบทุกลีกบน AIS PLAY แพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อความบันเทิงของคนไทย ด้วยเทคโนโลยีการถ่ายทอดสดความคมชัดสูง และความสามารถที่ไร้ขีดจำกัดเรื่องช่องทางกระจายสัญญาณ โดยการร่วมมือในครั้งนี้ AIS ไม่ใช่เพียงแค่สปอนเซอร์สำหรับการกระจายสัญญาณเพียงอย่างเดียว แต่ AIS ยังมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนวงการฟุตบอลไทยให้ก้าวไปข้างหน้า และขอประกาศอย่างเป็นทางการว่า ‘ต่อจากนี้คนไทยดูฟุตบอลลีกไทยฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย’

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

ส่องอนาคต Green Tech ไทย: CVC เผยสเปคสตาร์ตอัพที่พร้อมลงทุน

BOL ชี้ทางรอดธุรกิจยุคใหม่ ชู ‘Data-Driven Transformation’ เป็นเข็มทิศฝ่าเศรษฐกิจผันผวน

วิกฤติคือโอกาส: ถอดมุมมอง 4 บิ๊กธุรกิจ ชี้ทางรอด-รุก

×

Share

ผู้เขียน