ดีเคเอสเอช (ประเทศไทย) ประกาศแผนการลงทุนครั้งประวัติศาสตร์ที่อาจปฏิวัติวงการโลจิสติกส์สาธารณสุขของไทย ด้วยการยกเครื่องเครือข่ายการจัดส่งทั่วประเทศ ตั้งเป้าแก้ปัญหาคอขวดที่หยั่งรากลึก ด้วยการเปิด “ศูนย์กระจายสินค้าระดับภูมิภาค” และนำเทคโนโลยี AI เข้ามาใช้เต็มรูปแบบ เพื่อลดระยะเวลาจัดส่งเครื่องมือแพทย์จากหลายวันเหลือเพียง 2 ชั่วโมง
การเคลื่อนไหวครั้งนี้ไม่เพียงตอบสนองนโยบาย “Medical & Wellness Hub” ของภาครัฐ แต่ยังเป็นการแก้โจทย์ใหญ่ที่ว่า ประเทศไทยพึ่งพาการนำเข้าเครื่องมือแพทย์สูงถึง 70% ซึ่งทำให้ระบบซัพพลายเชนที่รวดเร็วและแม่นยำกลายเป็นหัวใจสำคัญของความมั่นคงทางสาธารณสุข
เจาะปัญหาคอขวด: ต้นทุนที่มองไม่เห็นของโรงพยาบาล
ภาพที่คุ้นเคยสำหรับโรงพยาบาล โดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัด คือความจำเป็นในการสำรองเครื่องมือแพทย์มูลค่าสูงไว้ในคลังจำนวนมากเพื่อความอุ่นใจ สิ่งนี้ก่อให้เกิด “ต้นทุนที่มองไม่เห็น” ทั้งในแง่ของเงินทุนที่จมอยู่กับสต็อก และพื้นที่จัดเก็บที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ได้มากกว่า
ในอดีต การรออุปกรณ์เฉพาะทางจากคลังส่วนกลางอาจใช้เวลา 24-48 ชั่วโมง ซึ่งหมายถึงความเสี่ยงที่การผ่าตัดอาจต้องเลื่อนออกไป หรือผู้ป่วยอาจไม่ได้รับการวินิจฉัยที่รวดเร็วที่สุด ปัญหาคอขวดนี้คือสิ่งที่ ดีเคเอสเอช ตั้งเป้าจะทลายลง
กลยุทธ์ “เครือข่ายใยแมงมุม” และ AI อัจฉริยะ
ดีเคเอสเอชได้เปลี่ยนโฉมจากโมเดล “Hub-and-Spoke” ที่พึ่งพาคลังส่วนกลาง มาสู่เครือข่ายใยแมงมุมที่ยืดหยุ่นกว่า ได้แก่ Satellite Distribution Center จุดพักสินค้าเดิม 9 แห่งทั่วประเทศ ถูกยกระดับเป็น “คลังสินค้าย่อย” ที่มีสต็อกสินค้าหมุนเวียนเร็วและจำเป็นสำหรับพื้นที่นั้น ๆ โดยเฉพาะ เช่น อุปกรณ์สำหรับ โรคหัวใจ จักษุวิทยา และภาวะเบาหวาน ซึ่งเป็นกลุ่มโรคที่ต้องการความรวดเร็วในการรักษา
และเทคโนโลยี AI ตรวจสอบ (MVS) ที่เป็นหัวใจของความแม่นยำ ใช้ AI ตรวจสอบสินค้าที่ซับซ้อน โดยระบบจะสแกนและเปรียบเทียบข้อมูลทั้งบาร์โค้ด, ล็อตการผลิต, และลักษณะทางกายภาพของสินค้ากับภาพต้นฉบับในฐานข้อมูล เพื่อให้มั่นใจว่าถูกต้อง 100% ก่อนจัดส่ง กระบวนการนี้ลดเวลาจาก 1 ชั่วโมง เหลือเพียง 5 นาที และขจัดความผิดพลาดจากมนุษย์
จาก “2 วัน” สู่ “2 ชั่วโมง”: ความหมายต่อชีวิตผู้ป่วย
สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ การเปลี่ยนแปลงนี้มีความหมายมากกว่าตัวเลข “สำหรับศัลยแพทย์ในโรงพยาบาลจังหวัด การลดเวลาจัดส่งเหลือ 2 ชั่วโมงหมายความว่าพวกเขาสามารถเรียกดูชุดเครื่องมือผ่าตัดข้อเข่าเทียมที่ต้องการ และมั่นใจได้ว่าจะมาถึงทันเวลาผ่าตัด โดยไม่ต้องสั่งมาสต็อกไว้ล่วงหน้าเป็นสัปดาห์ หรือเสี่ยงเลื่อนนัดผู้ป่วย” กุลชนม์ ยิ่งชัยยะกมล ผู้จัดการทั่วไป แผนก Client Management ฝ่ายธุรกิจเฮลธ์แคร์อัลลายแอนซ์ บริษัท DKSH (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว
วิสัยทัศน์ที่ใหญ่กว่า: สร้างมาตรฐานใหม่ให้แก่อุตสาหกรรม
ด้วยประสบการณ์ในไทยที่สั่งสมมาเกือบ 120 ปี และเครือข่ายใน 16 ประเทศทั่วเอเชียแปซิฟิกและสวิตเซอร์แลนด์ ดีเคเอสเอชไม่ได้มองนี่เป็นเพียงการขยายธุรกิจ แต่คือการวางรากฐานใหม่ให้แก่อุตสาหกรรม
แพทริค แกรนเด หัวหน้าฝ่าย Commercial Outsourcing ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และ Cluster Head DKSH Healthcare กล่าวทิ้งท้ายว่า “การเข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่เชื่อถือได้คือหัวใจของการรักษาผู้ป่วย การขยายโครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะนี้ช่วยให้โรงพยาบาลทั่วไทยได้รับเครื่องมือแพทย์ที่จำเป็นได้เร็วขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ Medical & Wellness Hub ของภาครัฐ และสะท้อนถึงพันธกิจของเราในการส่งมอบการดูแลสุขภาพให้แก่ประชาชนไทยทุกคน”
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
สุขภาพดีใกล้บ้าน: ‘Expert Smart Easy OPD/IPD’ เปลี่ยน รพ.สต. ให้ทันสมัยเทียบเท่าเมืองใหญ่
ถอดรหัส ‘บรีฟชีวิต’ จาก 2 ครีเอทีฟ: เมื่อความสร้างสรรค์ไม่ใช่แค่เรื่องงาน
