ในโลกที่ความยั่งยืนได้กลายเป็นวาระสำคัญ ธุรกิจต่าง ๆ กำลังเผชิญหน้ากับทั้งความท้าทายและโอกาสในการผสานแนวคิดรักษ์โลกเข้ากับการดำเนินงานเพื่อความอยู่รอดและการเติบโต คำถามที่หลายคนตั้งคำถามคือ ธุรกิจจะเติบโตและสร้างผลกำไรได้อย่างไร ในขณะเดียวกันก็ต้องรับผิดชอบต่อโลกและสังคม
อมรพล หุวะนันท์ CEO & Co-founder, moreloop ธมลวรรณ วิโรจน์ชัยยันต์ COO & Co-founder, moreloop พิมพ์ลดา ไชยปรีชาวิทย์ ผู้ขับเคลื่อนด้านความยั่งยืนผ่านคอนเทนต์ กลยุทธ์ และโซลูชัน และ กมลนาถ องค์วรรณดี นักออกแบบ วิทยากรอิสระ และที่ปรึกษากลยุทธ์ด้านการออกแบบเพื่อคามยั่งยืน จะมาร่วมกัน แบ่งปันแนวคิดในการทำธุรกิจสีเขียวให้ประสบความสำเร็จบนเวที Creative Talk Conference 2025 ใน Session WSustainability in Action: How to Survive and Thrive in the Green Business รักษ์โลกอย่างไร ให้ธุรกิจรอดW
ถอดรหัส “ความยั่งยืน”: เมื่อนิยามต้องถูกตีความใหม่
หลายคนอาจยังเข้าใจคำว่าความยั่งยืน (Sustainability) คลาดเคลื่อน โดยเฉพาะมายาคติที่ว่าธุรกิจยั่งยืนคือการทำเพื่อสิ่งแวดล้อมโดยไม่มุ่งหวังกำไร ซึ่งแท้จริงแล้วไม่ใช่สาระสำคัญในโลกธุรกิจปัจจุบัน พิมพ์ลดา กล่าวว่า นิยามความยั่งยืน (Sustainability) ที่แท้จริงจาก UN ตั้งแต่ปี 1987 นั่นคือการตอบสนองความต้องการของคนในปัจจุบัน โดยไม่ทำลายหรือบีบรัดความสามารถของคนในอนาคต หรือยุคถัดไป
เมื่อนำมาประยุกต์ใช้กับธุรกิจ คำว่า Sustainable Business จึงหมายถึงการดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจที่ตอบโจทย์ระยะยาวโดยคำนึงถึงเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยที่กิจกรรมนั้นต้องไม่ทำร้ายคนในอนาคต ในอดีต ธุรกิจมักแยกแกน Profit (กำไร) People (ผู้คน) และ Planet (โลก) ออกจากกันอย่างสิ้นเชิง ทว่าในยุคสมัยใหม่นี้ ทั้งสามสิ่งกลับเชื่อมโยงกันอย่างแยกไม่ออก สอดคล้องกับแนวคิด Triple Bottom Line ของ John Elkington ที่ว่าองค์กรต้องสร้างกำไร ควบคู่ไปกับการดูแลผู้คนและโลกไปพร้อมกัน
ปักหมุดก้าวแรก: กลยุทธ์สู่ธุรกิจที่ยั่งยืน
กมลนาถ แชร์แนวทางสำคัญ 5 ประการสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นและขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความยั่งยืน สิ่งแรกที่ต้องทำคือเริ่มต้นด้วยวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน (Start with Purpose) ความยั่งยืนต้องมาจากเจตจำนงอันแน่วแน่ของผู้นำองค์กร ซึ่งเป็นแนวคิดแบบ Top-down Management ไม่ใช่แค่กิจกรรม CSR การตั้งคำถามว่าธุรกิจมีอยู่เพื่ออะไร และแก้ปัญหาอะไร ถือเป็นจุดกำเนิดที่สำคัญยิ่ง
สำหรับธุรกิจที่เพิ่งเริ่มต้น การผนวก Core Value ด้านความยั่งยืนเข้ากับ Business Model ตั้งแต่แรกเริ่มย่อมทำได้ง่ายกว่า ในขณะที่ธุรกิจที่ดำเนินการอยู่แล้วอาจต้องพิจารณาการปรับเปลี่ยนองค์กรครั้งใหญ่ (Pivot/Transform) หรือแม้กระทั่งแยกหน่วยธุรกิจใหม่ (Spin off New BU) ที่เน้นความยั่งยืนโดยเฉพาะ การเก็บข้อมูล (Life Cycle Assessment) เพื่อระบุจุดที่สร้างผลกระทบสูงสุด (Impact Hotspot) และการเลือกแก้ไขปัญหาที่ทำได้ง่ายก่อน (Low Hanging Fruits) จะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างแรงผลักดันและโมเมนตัมให้องค์กร
ประการต่อมา ความยั่งยืนไม่ใช่แค่โบนัสเสริม (Sustainability is not a bonus) แต่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อต้นทุนและโอกาสทางธุรกิจในระยะยาว การเพิกเฉยต่อต้นทุนทางสังคมและสิ่งแวดล้อมในวันนี้ อาจนำไปสู่ค่าใช้จ่ายมหาศาลในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นค่าปรับจากกฎหมายที่เข้มงวดขึ้น หรือความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติที่รุนแรง การปรับตัวตั้งแต่วันนี้จึงดีกว่ารอให้ถูกสถานการณ์บีบบังคับ
นอกจากนี้ ความยั่งยืนไม่ใช่สิ่งที่หยุดนิ่ง (Sustainability is not static) แต่คือการปรับตัวและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจต้องเปลี่ยนจากโมเดลเส้นตรงที่เน้นการผลิต ใช้แล้วทิ้ง ไปสู่เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ที่เน้นการนำทรัพยากรกลับมาใช้ซ้ำและยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานที่สุด การค้นหานวัตกรรมและ New S-Curve เพื่อต่อยอดธุรกิจอย่างยั่งยืนจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง
เพื่อทำความเข้าใจโมเดลธุรกิจหมุนเวียน กมลนาถ ได้แนะนำกรอบแนวคิด Value Hill ซึ่งแสดงให้เห็นถึงคุณค่าที่เพิ่มขึ้นตลอดวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ ธุรกิจยั่งยืนจะพยายามช้อนคุณค่าไม่ให้ตกลงจากเขา ด้วยการนำเสนอ Product as a Service การซ่อมแซม และการนำกลับมาใช้ใหม่ เพื่อสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้าและขยายอายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์
ท้ายที่สุด การผนึกกำลังความร่วมมือ (Synergize Collaboration) ถือเป็นสิ่งจำเป็น การสร้างเครือข่ายและความร่วมมือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นคู่ค้า ลูกค้า หรือแม้แต่คู่แข่ง จะสามารถสร้างโอกาสใหม่ ๆ และผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในวงกว้าง
ถอดบทเรียนจาก moreloop: เมื่อความยั่งยืนคือ DNA ของธุรกิจ
อมรพล และ ธมลวรรณ จาก moreloop แพลตฟอร์มผู้รวบรวมผ้าส่วนเกินจากโรงงานอุตสาหกรรม ร่วมแบ่งปันประสบการณ์จริงในการสร้างธุรกิจยั่งยืนที่ฝังรากอยู่ใน DNA ขององค์กร
อมรพล กล่าวว่า ความสำคัญของการ วางตำแหน่งสินค้า (Product Positioning) ในตลาด โดยจำแนกสินค้าออกเป็น 3 หมวดหมู่ ได้แก่ Dissonance ยั่งยืนแต่ประสิทธิภาพลดลง ซึ่งเหมาะกับลูกค้าที่ยินดีจ่ายพรีเมียมเพื่ออุดมการณ์ Independence ยั่งยืนและประสิทธิภาพเทียบเท่าสินค้าทั่วไป ซึ่งต้องกำหนดราคาให้เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้า และ Resonance ยั่งยืนและประสิทธิภาพดีกว่าสินค้าทั่วไป ซึ่งเปรียบเสมือน Holy Grail ที่เป็นที่ต้องการของตลาดกว้าง
ในด้านการบริหารจัดการในทางปฏิบัติ (Execution) ธมลวรรณ เล่าถึงความท้าทายในการสื่อสารและบริหารความคาดหวังของลูกค้า โดยเฉพาะในเรื่องของ “สี CI” ที่องค์กรต่าง ๆ มีข้อจำกัดเฉพาะตัว เนื่องจากผ้าส่วนเกินมีเฉดสีที่หลากหลาย moreloop จึงได้เปลี่ยนข้อจำกัดนี้ให้เป็นจุดเด่นด้วยการสร้างสรรค์ชุดยูนิฟอร์มที่มีหลายเฉดสีในองค์กรเดียวเพื่อสื่อสารถึงความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยย้ำว่าการที่พนักงานใส่เสื้อคนละเฉดไม่ได้ส่งผลกระทบต่อ KPI การทำงาน นอกจากนี้ Morloop ยังให้ความสำคัญกับการดูแล People behind the scene หรือแรงงานในกระบวนการผลิตให้เป็นไปตามมาตรฐาน และยังได้มองหา New S-Curve ใหม่ ๆ เช่น บริการ DIY สำหรับงานอีเวนต์ ซึ่งเป็นการขยายโอกาสทางธุรกิจที่สอดคล้องกับพันธกิจหลักของ moreloop ในการลดขยะจากผ้า
จุดหมายเดียวกัน: ธุรกิจรอด โลกรอด
อมรพล กล่าวว่า อย่าเพิ่งเข้าข้างตัวเองว่าการทำธุรกิจยั่งยืนจะขายดีเสมอไป แต่ให้ศึกษาลูกค้าและสถานะของธุรกิจตนเองให้ถ่องแท้ในภาวะเศรษฐกิจที่ท้าทาย การรู้เขารู้เราจึงเป็นกุญแจสำคัญ ในขณะที่ ธมลวรรณ เน้นย้ำถึงพลังของความร่วมมือและการสร้าง “Win-Win Solution” ให้กับทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นผู้ซื้อ ผู้ขาย ตัวธุรกิจเอง สิ่งแวดล้อม และแม้กระทั่งคนงาน
สำหรับธุรกิจที่ดำเนินการอยู่แล้ว กมลนาถ แนะนำให้ “Reskill คนในองค์กร” และเริ่มต้นจากจุดแข็งที่มีอยู่แล้ว ส่วนผู้ที่กำลังจะเริ่มต้นธุรกิจใหม่ให้ผนวกแนวคิดความยั่งยืนเข้ากับ Core Business Strategy หรือ Core Feature ของผลิตภัณฑ์ตั้งแต่แรกเริ่ม
สุดท้าย พิมพ์ลดา ชี้ว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการโฟกัสที่คำว่า Sustainable และทำความเข้าใจนิยามที่ถูกต้อง เพื่อให้ทุกการลงมือทำมีคุณค่าและไม่สูญเปล่า นำพาองค์กร สังคม และโลกให้ก้าวไปข้างหน้าร่วมกันอย่างยั่งยืน
การก้าวเข้าสู่ธุรกิจสีเขียวไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เป็นความจำเป็นเร่งด่วนในยุคปัจจุบันและอนาคต ด้วยความเข้าใจที่ลึกซึ้ง กลยุทธ์ที่ชัดเจน และความร่วมมือจากทุกภาคส่วน จะสามารถสร้างธุรกิจที่ยั่งยืนและทำให้โลกน่าอยู่ไปพร้อม ๆ กันได้