Share on
×

Share

จาก “เป็ด” สู่ “พลเมืองแห่งการเรียนรู้”: เส้นทางสู่ชีวิตที่ “ดีที่สุดในแบบคุณ”

การเดินทางของ กษิดิษ สตางค์มงคล (Senior Data Analyst จาก DataRockie และ SAMSUNG) ที่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การแบ่งปันความรู้ ในหัวข้อ “Generalism Art of Living: How Should We Suppose to Work and Live in The Future วิถีการใช้ชีวิตแบบที่ควรจะเป็นในอนาคต” ในงาน Creative Talk Conference 2025 แต่เป็นการชวนให้ทุกคนหันมาตั้งคำถามกับชีวิตตัวเองอย่างลึกซึ้ง และค้นหา “ความเป็นตัวเองในเวอร์ชันที่ดีที่สุด” ซึ่งเป็นแก่นแท้ของปรัชญาที่เรียกว่า Generalism ในแบบฉบับของเขา

ชีวิตที่เปราะบาง และเวลาอันล้ำค่า

“ชีวิตเรามันเปราะบางมาก ๆ เลย” ประโยคนี้สะกิดใจให้ฉุกคิดถึงความไม่แน่นอนของชีวิต ดังเช่นโศกนาฏกรรมของ ดิโอโก้ โชต้านักเตะผู้มีอนาคตไกลที่จากไปในวัยเพียง 28 ปี เรื่องราวนี้ตอกย้ำให้เห็นว่า ความน่าเศร้าที่แท้จริงอาจไม่ใช่การจากไปก่อนวัยอันควร แต่เป็นการมีชีวิตอยู่จนแก่ชราโดยที่ไม่ได้สร้างสรรค์อะไรที่มีความหมายเลย

สิ่งนี้เชื่อมโยงกับแนวคิดของ Stoicism ที่มองว่า “ความตายคือหน้าที่” และ “การใช้ชีวิตทุกวันให้ดี คือการเตรียมตัวที่จะตายให้ดี” เรามักกลัวความตาย แต่แท้จริงแล้วสิ่งที่เราควรกลัวคือการที่ “เราไม่ได้ใช้ชีวิต” อย่างเต็มที่ในแต่ละวัน ผู้คนจำนวนมากใช้ชีวิตตามแบบแผนที่ถูกส่งต่อมาจากรุ่นสู่รุ่น โดยไม่เคยตั้งคำถามว่านี่คือชีวิตที่เราต้องการจริง ๆ หรือไม่

เวลาเป็นทรัพยากรที่มีค่าที่สุด และเรามักจะเห็นค่าของมันเมื่อกำลังจะสูญเสียไป เรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่ากษิดิษกับคุณพ่อสะท้อนให้เห็นถึงความปรารถนาใน “เวลา” ที่จะใช้กับคนที่รัก สิ่งนี้สอดคล้องกับแนวคิดเรื่อง หนังสือ “The 5 Types of Wealth” โดย Sahil Bloom ที่มองว่าความมั่งคั่งไม่ได้มีแค่เรื่องเงิน แต่รวมถึงเวลา ความสัมพันธ์ สุขภาพกาย สุขภาพจิต และการเงิน หากมิติใดมิติหนึ่งเป็นศูนย์ สมการความมั่งคั่งก็จะพังทลายลง เพราะฉะนั้นการให้ความสำคัญกับเวลาและคนที่เรารักจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง

ความสำเร็จที่แท้จริง: มากกว่าแค่เงินและชื่อเสียง

แล้วอะไรคือสิ่งที่เราควรมองหาในชีวิต? คำตอบไม่ได้อยู่ที่เงิน ชื่อเสียง หรือสถานะทางสังคม อริสโตเติลกล่าวว่า “จุดประสงค์ของการเป็นมนุษย์ คือการได้รู้ ได้ทำ ได้สร้างสิ่งที่ดี” สำหรับกษิดิษแล้ว “คุณธรรมความดีงาม” (Virtue) คือสิ่งสูงสุดในชีวิต ไม่มีสิ่งใดสามารถอยู่เหนือสิ่งนี้ได้ เงินทองและชื่อเสียงควรเป็นเพียง “ฐาน” ไม่ใช่ปัจจัยที่นำมาซึ่งความสุขที่แท้จริง

โลกปัจจุบันมักให้คุณค่ากับ “Market Value” หรือมูลค่าทางการตลาด เรามักให้ความสำคัญกับยอดไลก์ ยอดแชร์ หรือจำนวนผู้ติดตาม มากกว่าคุณค่าของความเป็นมนุษย์ ดังเช่นซีรีส์ Squid Game ที่สะท้อนสังคมที่ให้ค่าเงินมากกว่าชีวิตคน แต่เมื่อถึงจุดหนึ่ง “กีฮุน” ก็เลือกที่จะทำในสิ่งที่ดี เลือกที่จะรักษาความเป็นมนุษย์เอาไว้

กษิดิษเชื่อว่าโลกของเรากำลังถูก “คอร์รัป” ด้วยค่านิยมที่ผิดเพี้ยน แต่เราทุกคนมีทางเลือกที่จะไม่เป็นเช่นนั้น หากเราเลือกที่จะเป็นคนดีและทำในสิ่งที่ดี สิ่งดีงามอื่น ๆ ก็จะตามมาเอง รวมถึงเรื่องเงินที่สามารถหล่อเลี้ยงชีวิตและนำไปสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ ให้กับสังคมได้

“เป็ดโปร” สร้างชีวิตด้วย “กรอบแห่งความเป็นเลิศ”

Generalism ในแบบฉบับของกษิดิษไม่ใช่แค่การเป็น “เป็ด” ที่ทำได้หลายอย่าง แต่เป็นการเป็น “เป็ดโปร” ที่มีปรัชญาเป็นแก่นนำชีวิต คือการถามว่า “เก่งไปเพื่ออะไร” หากเก่งแล้วแต่เป็นคนไม่ดี ก็ไร้ความหมาย

หัวใจของ “เป็ดโปร” คือการดำเนินชีวิตภายใต้กรอบของ Stoic Triangle ซึ่งประกอบด้วย:

  • Focus on what you control: สนใจเฉพาะสิ่งที่ควบคุมได้ เช่น ความคิดและการกระทำของเรา
  • Live with Excellence (Arete): ใช้ทุกวินาทีเพื่อเป็นตัวเองในเวอร์ชันที่ดีที่สุด ซึ่งประกอบด้วย Wisdom (ปัญญา)  Courage (ความกล้า) Justice (ความยุติธรรม) และ Discipline (วินัย)
  • Take Responsibility: รับผิดชอบต่อชีวิตตัวเอง ไม่โยนภาระให้ผู้อื่น

กรอบนี้ช่วยให้เราตัดตัวเลือกที่ไม่จำเป็นทิ้งไป เช่น การเลือกอ่านหนังสือแทนการเล่นโซเชียลมีเดียหรือดู Netflix เพราะกิจกรรมเหล่านี้ช่วยให้เราเข้าถึงคุณสมบัติทั้ง 4 ของ Arete (ในภาษากรีกโบราณ มีความหมายว่า ความเป็นเลิศ คุณธรรม หรือความดี) ได้ดียิ่งขึ้น

“อิสรภาพที่แท้จริง” มาจาก “ข้อจำกัด”

แนวคิดที่น่าสนใจคือ “Freedom of Excellence” จากนักบุญโทมัส อไควนัส (Saint Thomas Aquinas) ที่มองว่า อิสรภาพไม่ได้หมายถึงการทำอะไรก็ได้ตามใจปรารถนา แต่คือการสร้าง “กรอบ” ในการใช้ชีวิตขึ้นมาเอง ตราบใดที่เราเป็นผู้สร้างกรอบนั้น เราก็ยังคงมีอิสรภาพ แต่เป็นอิสรภาพที่นำไปสู่การพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น

หากเราไร้ซึ่งข้อจำกัด ชีวิตก็จะสูญเสียอิสรภาพไปในที่สุด ลองจินตนาการถึงการกินตามใจปาก หรือการใช้เวลาไปกับสิ่งไร้สาระ ชีวิตใน 5-10 ปีข้างหน้าอาจไม่เป็นอย่างที่ต้องการ อิสรภาพที่แท้จริงจึงมาจากการควบคุมตัวเอง และการเลือกทำในสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ใช่สิ่งที่ง่ายดาย

กล้าหาญที่จะเผชิญหน้ากับ “ปีศาจ”

ในบรรดาคุณสมบัติทั้ง 4 ของ Arete ความกล้าหาญ” (Courage) ถูกเน้นย้ำว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เรื่องราวจากซีรีส์ Secret Level ในตอน “They Shall Know No Fear” สะท้อนให้เห็นว่า “ปีศาจ” ในที่นี้คืออุปสรรคและความท้าทายต่าง ๆ ในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตเศรษฐกิจ หรือปัญหาอื่น ๆ ที่จะเข้ามา เราไม่สามารถหยุดยั้งมันได้ แต่เราสามารถเตรียมตัวให้ “เก่งพอ” ที่จะรับมือกับมันได้

“โชคชะตาอยู่ข้างผู้กล้าเสมอ” (Fortune Favor The Brave) เป็นประโยคที่กระตุ้นให้เราลุกขึ้นมาเผชิญหน้ากับความกลัว และกล้าที่จะเป็นตัวเองในเวอร์ชันที่ดีขึ้น การมีความกล้าที่จะแสวงหาความรู้ กล้าที่จะช่วยเหลือผู้อื่น และกล้าที่จะมีวินัย ล้วนเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตที่แตกต่าง

“ความรักที่แท้จริง” คือการ “ฝึกฝน”

ความรักที่แท้จริงไม่ได้หมายถึงการตามใจ แต่คือการ “ฝึกฝน” ให้เราและคนที่เรารักเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ดังเช่นการเลี้ยงลูก เราไม่ควรสปอยล์เขาด้วยการให้ทุกอย่างที่ต้องการ แต่ควรสอนให้เขาเรียนรู้ที่จะแลกเปลี่ยน ให้คุณค่ากับสิ่งต่าง ๆ และเผชิญกับความยากลำบาก เพราะความยากลำบากนี่แหละที่จะหล่อหลอมให้เป็นผู้ใหญ่ที่เข้มแข็ง

เช่นเดียวกันกับความรักต่อตัวเอง เรามักสปอยล์ตัวเองด้วยการใช้เวลาไปกับสิ่งที่ไม่เกิดประโยชน์ เช่น การติดโซเชียลมีเดียที่ออกแบบมาเพื่อดึงดูดสายตาเรา ไม่ใช่เพื่อพัฒนาชีวิตเราให้ดีขึ้น การตั้งคำถามว่า “ร้อยคอนเทนต์ที่ดู มีกี่คอนเทนต์ที่ช่วยให้ชีวิตเราไปถึงเป้าหมายที่ต้องการจริง ๆ” เป็นสิ่งสำคัญ

“เรียนรู้ที่จะคิด” เพื่อ “อยู่รอดในอนาคต”

ในยุคที่ AI กำลังเข้ามามีบทบาท การ “เรียนรู้ที่จะคิด” อย่างลึกซึ้งเป็นทักษะสำคัญที่ไม่อาจละเลย จอร์จ เบอร์นาร์ด ชอว์ กล่าวว่า “คนส่วนใหญ่ยอมตายดีกว่าที่จะได้คิด” และในปัจจุบัน ผลการวิจัยของ MIT ยังชี้ให้เห็นว่าการพึ่งพา AI มากเกินไปอาจทำให้ความคิดและตรรกะของเราแย่ลง

การคิดอย่างชาญฉลาดคือการเข้าใจ “Long Term Consequences” ของทุกทางเลือกที่เราตัดสินใจในวันนี้ การรู้จัก “Delay Gratification” หรือการยอมเหนื่อยในวันนี้เพื่อความสบายในวันข้างหน้า เป็นสิ่งที่จะกำหนดอนาคตของเรา Kevin O’Leary กล่าวว่าคนที่ประสบความสำเร็จจะโฟกัสเพียง 3-4 สิ่งสำคัญในแต่ละวัน ส่วนที่เหลือเป็นเพียง “Noise” หรือเสียงรบกวนที่เราไม่ควรให้ความสำคัญมากนัก

อนาคตคือการ “Earn with your mind, not your time” รายได้ไม่ควรผูกติดกับเวลาที่เราทำงาน แต่ควรผูกติดกับพลังความคิดสร้างสรรค์ของเรา หากเรายังคงขายได้เพียง “แรงงาน” ในยุคที่ AI เข้ามาแทนที่ กษิดิษ เชื่อว่านั่นคือ “Serious Trouble” งานที่เน้นความคิดสร้างสรรค์จึงจะอยู่รอดในอนาคต

“เป็นตัวเองในเวอร์ชันที่ดีกว่าเมื่อวาน”

สิ่งสุดท้ายที่ กษิดิษทิ้งท้ายไว้คือ “หน่วยวัด” เดียวที่จะบอกได้ว่าชีวิตเราก้าวหน้าไปมากแค่ไหน คือการเปรียบเทียบกับ “ตัวเราเองเมื่อวานนี้” ไม่จำเป็นต้องเปรียบเทียบกับใคร หรือพยายามเป็น “Specialist” ที่เก่งที่สุดในโลกใบนี้ หรือแม้กระทั่งในจักรวาลอันกว้างใหญ่

ดังที่ Ernest Hemingway กล่าวไว้ว่า “ไม่มีอะไรน่าภูมิใจในการเอาตัวเองไปเทียบกับคนอื่น ความน่าภูมิใจหนึ่งเดียวในชีวิตของเรา คือการเทียบกับตัวเองเวอร์ชันเมื่อวานนี้”

ฉะนั้นแล้ว การเดินทางสู่ “ความเป็นตัวเองในเวอร์ชันที่ดีที่สุด” คือการตั้งคำถามกับชีวิต การสร้างกรอบแห่งความดีงาม การกล้าหาญที่จะเผชิญหน้า การเรียนรู้ที่จะรักอย่างแท้จริง และที่สำคัญที่สุดคือการ “เรียนรู้ที่จะคิด” อย่างลึกซึ้งและไม่หยุดนิ่ง

×

Share

ผู้เขียน