ในเวทีเสวนาหัวข้อ ‘อินฟลูฯเฟ้อ ครีเอเตอร์เอาไงต่อ Creator Trends 2026’ จากงาน Creative Talk Conference 2025 สองผู้คร่ำหวอดในวงการอย่าง ขจร เจียรนัยพานิช Executive Editor จาก RAiNMaker และ สุวิตา จรัญวงศ์ CEO และผู้ร่วมก่อตั้ง Tellscore ได้ร่วมกันฉายภาพอนาคตของวงการคอนเทนต์ครีเอเตอร์ไทย ที่ในปีที่ผ่านมามีมูลค่ามหาศาลถึง 45,000 ล้านบาท คาดการณ์ว่ามูลค่าในปีนี้จะแตะ 1 ล้านล้านบาท ทว่าภายใต้การเติบโตนี้กลับเต็มไปด้วยความท้าทาย การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว และเส้นทางที่เปราะบางซึ่งครีเอเตอร์ทุกคนต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอด
ภาพรวมตลาด: TikTok ไล่บี้ Facebook และคอนเทนต์เฉพาะทางคือขุมทรัพย์ใหม่
ขจร กล่าวว่า ข้อมูลจาก iCreator Report ชี้ชัดว่าภูมิทัศน์ของวงการกำลังเปลี่ยนไป แม้ Facebook จะยังคงเป็นบ้านหลังใหญ่ที่มีครีเอเตอร์มากที่สุด (29%) แต่ TikTok ได้เติบโตอย่างก้าวกระโดดจนตามมาติด ๆ ที่ 25% เป็นสัญญาณว่าไม่มีแพลตฟอร์มใดที่ครองตลาดได้เบ็ดเสร็จอีกต่อไป
ในด้านเนื้อหา แม้หมวดไลฟ์สไตล์และบันเทิงจะยังคงแข็งแกร่ง แต่ขุมทรัพย์ใหม่กลับอยู่ในคอนเทนต์เฉพาะทางที่มาแรงอย่าง แม่และเด็ก สัตว์เลี้ยง (ซึ่งสะท้อนเทรนด์สังคมที่คนนิยมเลี้ยงสัตว์แทนการมีลูก) และครอบครัว ผู้สูงอายุ การเลือกแพลตฟอร์มให้เหมาะสมกับเนื้อหาจึงเป็นกุญแจสำคัญ โดยเฉพาะหมวดบิวตี้ที่ปัจจุบันสร้าง Engagement ได้อย่างถล่มทลายบน TikTok จนแซงหน้า Instagram ไปแล้ว
เจาะลึกอินไซต์: คอนเทนต์ยุคใหม่คือภาพสะท้อนสิ่งที่ “ผู้คนมองหา”
สุวิตา ได้วิเคราะห์ว่าคอนเทนต์ยอดนิยมในปัจจุบันไม่ใช่แค่ความบันเทิงผิวเผิน แต่คือภาพสะท้อนสิ่งที่ผู้คนกำลัง “มองหา” ในสังคมที่ซับซ้อน ตั้งแต่การมองหาความปลอดภัยผ่านเทรนด์ ‘Scam Alert’ หรือ คอนเทนต์เชิงข่าว ที่มี “หนุ่ม กรรชัย” เป็นดั่งสัญลักษณ์ การมองหาความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ ผ่านเทรนด์ ‘Joy Feed’ การมองหาทางรอดทางเศรษฐกิจ ผ่านคอนเทนต์สอนหารายได้เสริม ซึ่งสะท้อนความจริงที่ว่าคนไทยกว่า 67% มีรายได้แบบเดือนชนเดือน ไปจนถึงการมองหาความหวังและความเท่าเทียมผ่านเรื่องราวของ “ครูสุรเบล” ที่ใช้ความสนุกมาต่อสู้กับความเหลื่อมล้ำ และสุดท้ายคือการมองหา หน้าตาของความสำเร็จ ผ่านเรื่องราวเบื้องหลังของผู้ประกอบการอย่าง “ซุง Love Potion” ที่สร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่อย่างมหาศาล
สมรภูมิแบรนด์และครีเอเตอร์: เมื่อความคาดหวังสูงขึ้นในยุคแห่งการรัดเข็มขัด
ความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์และครีเอเตอร์กำลังซับซ้อนขึ้น แบรนด์จำนวนมากกำลังรัดเข็มขัดและยื่นโจทย์ที่ท้าทายว่า “ช่วยลดค่าใช้จ่ายหน่อย แต่คุณภาพงานห้ามลดนะ” ความคาดหวังไม่ได้หยุดแค่นั้น แบรนด์ต้องการเจาะกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะทางสุด ๆ (Hyper-niche) ถึงขั้นตามหาครีเอเตอร์เจ้าของ “หมาอ้วนที่ยังไม่ได้ไปหาหมอ” และคาดหวังให้ครีเอเตอร์สามารถวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกได้ ไม่ใช่แค่ส่งยอด Engagement หลังบ้านอีกต่อไป
นอกจากนี้ “สงครามแพลตฟอร์ม” ระหว่างสหรัฐฯ และจีน ยังสร้างความไม่แน่นอน ผลักดันให้ครีเอเตอร์ที่มองการณ์ไกลเริ่มสร้าง “บ้านของตัวเอง” อย่างเว็บไซต์ส่วนตัว เพื่อลดการพึ่งพิงและเป็นเจ้าของคอนเทนต์ของตนเองอย่างแท้จริง
AI ดาบสองคม: เครื่องมือปฏิวัติวงการหรือภัยคุกคามความน่าเชื่อถือ?
AI ได้เข้ามาปฏิวัติวงการอย่างแท้จริง ในแง่หนึ่ง มันคือเครื่องมือทรงพลังที่ช่วยให้ครีเอเตอร์ทำงานได้เร็วขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน แต่ในอีกแง่หนึ่ง มันคือดาบสองคมที่อันตราย สุวิตาเตือนว่า AI กำลังสร้าง “คอนเทนต์ปลอม” และ “คอนเทนต์โกง” ออกมาปะปนในสนามโซเชียลมีเดีย ซึ่งเป็นพื้นที่ทำมาหากินของครีเอเตอร์ตัวจริง สถานการณ์นี้น่ากังวลถึงขั้นอาจทำให้ “ครีเอเตอร์สายเทาหาเงินง่ายขึ้น แต่ครีเอเตอร์น้ำดีจะอยู่ยากขึ้น” เพราะความน่าเชื่อถือของทั้งวงการกำลังถูกกัดกร่อน
กลยุทธ์สู่ความยั่งยืน: จากครีเอเตอร์สู่ “สื่อ” และเจ้าของธุรกิจ
ในยุคที่การแข่งขันสูงเช่นนี้ การปรับตัวคือกุญแจสำคัญสู่ความยั่งยืน ครีเอเตอร์ไม่สามารถพึ่งพารายได้จากแบรนด์เพียงทางเดียวอีกต่อไป แต่ต้องผันตัวเป็นเจ้าของธุรกิจ ดังตัวอย่างของช่อง “รับทราบ” (Rubsarb)ที่รายได้กว่า 60-70% มาจากการขายสินค้าของตัวเอง
อีกประเด็นที่น่าขบคิดคือสถานะของครีเอเตอร์ที่กลายเป็น “สื่อ” แต่ยังขาดการรับรองและเกราะป้องกันทางกฎหมายเหมือนสื่อมวลชนดั้งเดิม เช่น การต้องเบลอหน้าคนในคลิป ในขณะที่นักข่าวไม่ต้องทำ ซึ่งเป็นช่องว่างที่ต้องได้รับการแก้ไขเพื่อยกระดับอาชีพนี้ในอนาคต ท้ายที่สุด การยึดมั่นในจรรยาบรรณเป็นสิ่งสำคัญที่สุดเพื่อหลีกเลี่ยงการตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มทุนสีเทา และเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในระยะยาว
บทสรุปของวงการครีเอเตอร์ไทยคือภาพของอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโตอย่างมหาศาล แต่ความสำเร็จไม่ได้มาง่าย ๆ อีกต่อไป มันต้องการครีเอเตอร์ที่เป็นมากกว่านักสร้างสรรค์ แต่ต้องเป็นนักธุรกิจ นักกลยุทธ์ และผู้ที่ยึดมั่นในหลักการ เพื่อนำพาตัวเองและวงการให้รอดพ้นจากความเปราะบางต่าง ๆ