หลายครั้งที่ผลิตภัณฑ์หรือธุรกิจจำนวนมากถือกำเนิดขึ้นจากแรงบันดาลใจของผู้ก่อตั้ง พวกเขาค้นพบว่าตนเองเก่งในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง มีลูกค้ารายแรกที่ชื่นชอบ และตัดสินใจทุ่มสุดตัวเพื่อสร้างธุรกิจขึ้นมา โดยที่ยังไม่ได้สำรวจอย่างลึกซึ้งว่าตลาดนั้นใหญ่แค่ไหน หรือลูกค้ามีความสุขจริงหรือไม่ สุดท้ายจึงกลายเป็นการทุ่มงบประมาณมหาศาลไปกับการตลาด โดยปราศจากความเข้าใจในข้อมูลเชิงลึกที่แท้จริง
นี่คือจุดเริ่มต้นและเหตุผลการมีอยู่ของ Wisesight บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลสัญชาติไทยที่เชื่อว่า “ข้อมูลเชิงลึก” คือหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ
กล้า ตั้งสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไวซ์ไซท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า อาวุธสำคัญของ Wisesight คือ 4 เสาหลักแห่งข้อมูล เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนแรก เพื่อให้ได้มุมมองที่ครบถ้วน 360 องศาและนำไปใช้ได้จริง Wisesight ได้สร้างโมเดลการเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลที่ครอบคลุมทุกมิติ โดยเริ่มต้นจาก Social Listening ซึ่งเปรียบเสมือนรากฐานที่แข็งแกร่งที่สุด เป็นการดักจับ “เสียงที่ไม่ได้ผ่านการปรุงแต่ง” ของผู้บริโภคจากทุกแพลตฟอร์ม เพื่อทำความเข้าใจความคิดและความรู้สึกที่แท้จริง ในขณะเดียวกัน ก็ทำการวิเคราะห์ Brand Insight หรือสิ่งที่แบรนด์พยายามสื่อสารออกไป เพื่อเปรียบเทียบว่าสิ่งที่แบรนด์ “พูด” กับสิ่งที่ลูกค้า “ได้ยิน” นั้นตรงกันหรือไม่
แต่เมื่อตระหนักว่าผู้บริโภคอาจไม่เชื่อแบรนด์โดยตรง เสาหลักที่สามอย่าง KOL/Influencer Insight จึงเข้ามามีบทบาทในฐานะสะพานเชื่อมความไว้วางใจ วิเคราะห์เสียงของคนกลางผู้ทรงอิทธิพลเพื่อทำความเข้าใจกลไกการโน้มน้าวใจ และสุดท้ายเรื่องราวทั้งหมดจะสมบูรณ์ด้วย E-commerce Data ซึ่งเป็นบทพิสูจน์ที่จับต้องได้ว่า “สิ่งที่คนคิดและพูด” นั้นแปรเปลี่ยนไปเป็น “การซื้อจริง” ณ จุดขายหรือไม่ การทำงานประสานกันของข้อมูลทั้งสี่ด้านนี้ ทำให้ Wisesight สามารถมอบภาพรวมตลาดที่สมบูรณ์ ตั้งแต่การรับรู้ไปจนถึงการตัดสินใจซื้อจริง
–เทคนิคปั้นทีมขาย B2B ฉบับ Wisesight: ปิดดีลใหญ่ ขยายทีมโต
เมื่อ ‘สูตรสำเร็จ’ ที่เคยใช้ในไทยใช้ไม่ได้อีกต่อไป
หลังจากดำเนินธุรกิจในไทยมากว่า 10 ปี ในปี 2018 Wisesight ตัดสินใจขยายธุรกิจสู่ระดับภูมิภาค โดยปักหมุดที่ประเทศมาเลเซียเป็นแห่งแรก จากการเดินทางครั้งนี้ เขาได้สรุปบทเรียนล้ำค่าที่ทุกธุรกิจซึ่งกำลังจะสเกลอัพควรเรียนรู้ บทเรียนประการแรกคือการต้อง ประเมินจุดแข็งของคุณใหม่อีกครั้ง
Wisesight ซึ่งมีวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่งในไทย ค้นพบว่าสิ่งที่เคยใช้ได้ผลอาจใช้ไม่ได้ในต่างแดน การจัดปาร์ตี้สังสรรค์ที่มีแอลกอฮอล์ซึ่งเป็นเรื่องปกติในออฟฟิศกรุงเทพฯ กลายเป็นสิ่งต้องห้ามในมาเลเซียซึ่งเป็นประเทศมุสลิม
“เหมือนการฝึกซ้อมในสระว่ายน้ำทุกวัน แล้วต้องไปแข่งขันจริงในมหาสมุทร ที่ซึ่งสภาพแวดล้อม วัฒนธรรม และความเชื่อได้เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง”
บทเรียนต่อมาคือการ ประเมินคู่แข่งและสมรภูมิใหม่ในตลาดใหม่ เขากล่าวว่า Wisesight ต้องเผชิญหน้ากับทั้งคู่แข่งระดับโลกที่มีจุดอ่อนเรื่องการเข้าใจภาษาท้องถิ่น และคู่แข่งท้องถิ่นที่แตกต่างจากในไทย โดยเฉพาะความท้าทายด้านภาษาที่ซับซ้อนอย่างยิ่งในมาเลเซีย ซึ่งคนหนึ่งคนอาจใช้ถึง 5 ภาษาในประโยคเดียว ทำให้ AI ที่เคยเชี่ยวชาญภาษาไทยต้องถูกพัฒนาใหม่ทั้งหมดเพื่อรับมือกับความหลากหลายนี้
และบทเรียนที่น่าทึ่งที่สุดคือการค้นพบว่า “ฐานลูกค้า” และ “คุณค่า” ที่เขาต้องการนั้นแตกต่างกัน แม้จะเป็นสินค้าชนิดเดียวกัน แต่ผู้บริโภคในแต่ละประเทศกลับให้ความหมายกับมันไม่เหมือนกัน ตัวอย่างที่เห็นภาพชัดคือ “รองเท้า” ซึ่งในมาเลเซียและสิงคโปร์จะเน้นเรื่องน้ำหนักเบาและความสบาย แต่สำหรับคนไทยจะให้ความสำคัญกับความสวยงาม ราคาที่สมเหตุผล และที่สำคัญคือต้องเป็น “ของแท้” ซึ่งคำนี้ไม่ได้มีความสำคัญในสองประเทศแรกเลย สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาตลาดสินค้าลอกเลียนแบบในไทย และเป็นข้อมูลเชิงลึกที่แบรนด์สามารถนำไปปรับกลยุทธ์ได้อย่างมหาศาล
Playbook เล่มใหม่: โตไปด้วยกันผ่านพลังของพาร์ตเนอร์
บทสรุปจากการเดินทางครั้งนี้คือ ในสมรภูมิอาเซียนที่มีความซับซ้อน การเข้าไปตั้งบริษัทใหม่โดยลำพังเป็นกลยุทธ์ที่เสี่ยงและอาจไม่ยั่งยืน Wisesight จึงเลือกใช้ปรัชญา “เขียน playbook เล่มใหม่ร่วมกับพาร์ตเนอร์”
โดยสร้างความร่วมมืออย่างเป็นลำดับขั้นเพื่อสร้างความไว้วางใจอย่างมั่นคง จุดเริ่มต้นคือการเป็น Work Partners เพื่อทดลองทำงานร่วมกันในโปรเจกต์ต่าง ๆ เป็นการเรียนรู้วัฒนธรรมและทดสอบเคมีในการทำงาน เมื่อความร่วมมือในระดับแรกเป็นไปด้วยดีและความไว้วางใจเริ่มก่อตัว
ความสัมพันธ์จะถูกยกระดับขึ้นสู่การเป็น Trade Partners ซึ่งเป็นคู่ค้าทางธุรกิจที่มีธุรกรรมทางการเงินเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างเต็มรูปแบบ และในระดับสูงสุดของความร่วมมือ คือการเป็น Ownership Partners ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อทั้งสองฝ่ายมีวิสัยทัศน์ที่สอดคล้องกันอย่างสมบูรณ์ จนนำไปสู่การแลกเปลี่ยนหุ้น การลงทุนเชิงกลยุทธ์ หรือแม้กระทั่งการควบรวมกิจการเพื่อกลายเป็นบริษัทเดียวกันที่แข็งแกร่งขึ้นในภูมิภาค โมเดลแบบขั้นบันไดนี้เองที่ช่วยลดความเสี่ยงและทำให้การขยายธุรกิจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
–โซเชียลมีเดีย เครื่องมือการตลาดในภาวะวิกฤติ
ขยายหรือถูกกลืน: ทางรอดของ Tech ท้องถิ่นในยุค AI
เขาทิ้งท้ายว่า โลกกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ในอดีตบริษัทท้องถิ่นอาจมีความได้เปรียบจากการเข้าใจบริบท วัฒนธรรม และภาษาที่ซับซ้อนซึ่งคู่แข่งระดับโลกเข้าถึงได้ยาก แต่การมาถึงของ AI และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยกำลังทำลายกำแพงนั้นลง
ช่องว่างระหว่าง “ความได้เปรียบของท้องถิ่น” และ “ความสามารถในการขยายตัวของระดับโลก” กำลังลดน้อยลงทุกขณะ AI ที่ทรงพลังสามารถเรียนรู้และเข้าใจภาษาถิ่นที่ซับซ้อนได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ป้อมปราการที่เคยปกป้องบริษัทท้องถิ่นไว้เริ่มสั่นคลอน
ดังนั้น การหยุดนิ่งและพึงพอใจกับความสำเร็จในประเทศของตนเองจึงไม่ใช่ทางเลือกที่ปลอดภัยอีกต่อไป แต่เป็นความเสี่ยงอย่างมหันต์ เขาย้ำว่า “หากคุณไม่ขยายตัวให้เร็วพอ คุณจะถูกเทคโนโลยีระดับโลกกลืนกิน และท้ายที่สุด ตลาดอาจจะถูกรวมศูนย์อยู่บนแพลตฟอร์มระดับโลกเพียงไม่กี่ราย”
เรื่องราวการขยายธุรกิจของ Wisesight จึงไม่ใช่แค่กลยุทธ์เพื่อการเติบโต แต่เป็น “ทางรอด” ที่จำเป็นในยุคที่ทางเลือกมีเพียงแค่การขยายตัวออกไป หรือรอวันที่จะถูกกลืนหายไปในกระแสธารแห่งเทคโนโลยีระดับโลกนั่นเอง
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
‘Deep Tech’ โอกาสและความท้าทายของไทยในเวทีโลก
เบื้องหลังความสำเร็จ ‘สมฤดี ชัยมงคล’ อดีต CEO บ้านปูที่ไม่ได้เริ่มจากศูนย์