Share on
×

Share

ชีวิตมีทางลัดไหม? … ถนนอาจจะมีทางลัด แต่ความสำเร็จมีทางลัดไหม

เดือนนี้ทั้งเดือน สังคมไทยรับทราบข่าวเกี่ยวกับข่าวสารที่พูดเรื่องบริษัทขายตรงที่ถูกตั้งข้อหามีวิธีการทำธุรกิจที่เข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ มีผู้เสียหายจำนวนมาก จำนวนเงินที่ว่ากันว่ามีการฉ้อโกงไปนับพันล้านบาท และจนวันนี้ก็ยังไม่สรุปว่าเป็นธุรกิจขายตรงประเภทไหน ขาว ดำ หรือสีเทา!

จำนวนคนที่เสียหายจากธุรกิจประเภทนี้ มีตั้งแต่คนที่เข้ามาเพราะมีความฝันอยากมีรายได้จำนวนมาก ๆ โดยที่หลายคนไม่รู้จักธุรกิจขายตรงเลย และก็มีบางคนที่รู้ แต่คิดว่าตนนั้นเอาตัวรอดได้ 

สุดท้ายบทสรุปของธุรกิจดังกล่าวจะจบลงอย่างไร คงต้องใช้เวลาอีกพักใหญ่ ๆ เพราะมีผู้เสียหายจำนวนมาก แต่สิ่งหนึ่งที่เรียนรู้จากเรื่องราวดังกล่าว ทำให้คิดได้ว่า คนเรานั้นจะไปพบความสำเร็จนั้น มันมีทางลัดหรือเปล่า

ขึ้นชื่อว่าทางลัด หมายถึงระยะทางที่สั้น สามารถร่นเวลาในการถึงเป้าหมาย ซึ่งในปัจจุบันโดยเฉพาะในสังคมปัจจุบันที่มีสื่อสังคม (Social Media) เป็นปัจจัยที่ 5 ในการดำรงชีวิต การเห็นผู้คนที่ใช้ชีวิตกับสื่อสังคม เห็นความสำเร็จในการใช้ชีวิตของผู้คน ไม่ว่าจะเป็นภาพของรถสปอร์ตราคาแพง ๆ การใช้ชีวิตหรูหรา อยู่ในบ้าน-คอนโดราคาหลายสิบล้าน แม้กระทั่งการอวดความสำเร็จมีเงินให้เห็นเป็นฟ่อน ๆ ซี่งภาพความสำเร็จแบบนี้ถูกฉายซ้ำ ๆ จนคนเชื่อแล้วว่าอันนี้เป็นทางลัดไปสู่ความสำเร็จ จนลืมข้อเท็จจริงทางลัดที่ว่านี้ไม่ใช่ทุกคนจะเดินไปถูกทาง (ไม่หลง) การเห็นความสำเร็จจากสื่อสังคมไม่ได้บอกว่าเป็นวิถีทางที่ถูกต้อง

เหมือนกับคุณจะไปทางลัดทั้งที่คุณไม่รู้จักเส้นทางนั้นเลย สุดท้ายคุณหลงทาง ไปไม่ถึงเป้าหมาย หมดเงินเสียเวลา

ประการสำคัญคือ หากเป็นคนที่ไม่รู้จักจุดอ่อนจุดแข็งของตนเอง ก็ยากที่จะใช้เส้นทางลัดนี้ได้ราบรื่น

ในโลกของความเป็นจริงทางลัดไม่ได้เหมาะกับคนทุกคน ยังมีทางปกติที่คุณสามารถไปถึงเป้าหมายที่ต้องการได้ เพียงแต่ไม่ได้ใช้เวลาที่สั้นลง ได้เร็วแบบที่สังคมโซเชียลเขามาเผยแพร่กัน

ข้อเท็จจริงที่มักจะไม่พูดกันก็คือ การที่คนเราจะมีเงินสำหรับการทำสิ่งใดนั้น หากไม่ได้เกิดจากครอบครัวที่มั่งคั่ง ก็ต้องขวนขวายหาทุนด้วยตนเอง เคล็ดลับที่คนรู้แต่ไม่สามารถทำได้ก็คือ ต้องเก็บมากกว่าจ่าย อันนี้เป็นหลักการเบื้องต้นแต่ไม่ค่อยมีคนทำ

สังคมไทยส่วนใหญ่ใช้ชีวิตอยากมีความสุขแค่วันนี้ (พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน) เราจึงละเลยการวางแผน มุ่งหวังลาภยศแบบทันด่วน เราจึงพึ่งพาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หาโชคหาลาภ ใครว่าดีใครว่าแม่นต้องไปหาไปขอ มีความสามารถในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แค่ให้วางแผนสั้น ๆ สัก 3-5 ปี กลายเป็นเรื่องยาก 

การที่คนส่วนใหญ่ไม่ประสบความสำเร็จนั้น คิดว่าส่วนหนึ่งเกิดจากการไม่มีการวางแผนให้กับชีวิต การไม่มีเป้าหมายเลยเป็นคนไม่ชอบวางแผน กลายเป็นคนชอบการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า จนกลายเป็นนิสัย

การมีเป้าหมายเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับการวางแผนการเงิน หรือจะมองอีกทีก็เป็นการเป้าหมายให้กับชีวิตด้วย การมีเป้าหมายจึงจะสามารถวางแผนให้กับชีวิตได้ด้วย

เป็นการวางแผนว่าเพื่อตอบสนองเป้าหมาย จะกำหนดวิธีการอย่างไร ใช้เวลาตอนไหนอย่างไร ข้อสำคัญที่ต้องไม่ลืมคือ ต้องเก็บมากกว่าใช้ แบ่งรายได้ที่ได้มาเป็นส่วน ๆ ตามเป้าหมายที่กำหนด โดยไม่ทุ่มรายได้ที่มีอยู่ไปกับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง การทุ่มหมดตัวเป็นวิธีการฆ่าตัวตายที่เยือกเย็นที่สุด

การใช้ชีวิตที่เรียบง่ายค่อยเป็นค่อยไป ไม่ใช้ทางลัดอาจไม่ใช่ชีวิตในอุดมคติของคนในยุคปัจจุบัน แต่บทเรียนที่เข้ามาในช่วงเวลานี้ คงจะสอนใจพวกเราได้ไม่มากก็น้อย

Personal Finance ชิ้นอื่น ๆ

Home is where the Heart is

“รู้งี้” กับดักทางการเงิน: เมื่อความฝันมีบ้านกลายเป็นหนี้ท่วมหัว

และแล้วก็มีวันนี้ !!

×

Share

ผู้เขียน