Share on
×

Share

ดีป้า จับมือ กรมสรรพากร ดันมาตรการภาษี 200% สนับสนุนการใช้ซอฟต์แวร์

สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ร่วมแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายผู้ประกอบการ SMEs ในยุคโควิด-19 หลังจับมือ กรมสรรพากร ดันมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ปรับเปลี่ยนธุรกิจสู่เศรษฐกิจดิจิทัล (มาตรการภาษี 200%) ผ่านที่ประชุมคณะรัฐมนตรี

พร้อมมีมติอนุมติหลักการให้ SMEs หักค่าใช้จ่ายที่จ่ายเป็นค่าซื้อหรือจ้างทำโปรแกรมคอมพิวเตอร์ หรือค่าใช้จ่ายการใช้บริการโปรแกรมบริการ จากผู้ประกอบการที่ได้รับการขึ้นทะเบียนกับสำนักงานฯ เผยเตรียมพร้อมออกหลักเกณฑ์การรับขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการโปรแกรมคอมพิวเตอร์ รวมถึงผู้ให้บริการโปรแกรมบริการที่ต้องการเข้าสู่มาตรการฯ แล้ว

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ …) พ.ศ. … (มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ปรับเปลี่ยนธุรกิจสู่เศรษฐกิจดิจิทัล) เพื่อยกเว้นภาษีเงินได้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล* จำนวนรวม 200%** ของรายจ่ายที่ได้จ่ายเป็นค่าซื้อหรือจ้างทำโปรแกรมคอมพิวเตอร์ (Software) หรือค่าใช้จ่ายการใช้บริการโปรแกรมบริการ (Software as a Service: SaaS) ที่ผู้ใช้สามารถเรียกใช้บริการผ่านอินเทอร์เน็ตได้ตามความต้องการใช้งาน จากผู้ประกอบการที่ได้รับการขึ้นทะเบียนกับ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เฉพาะในส่วนที่ไม่เกิน 100,000 บาท สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม 2564 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565

จากกรณีดังกล่าว ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า เปิดเผยว่า ดีป้า บูรณาการการทำงานกับ กรมสรรพากร กระทรวงการคลัง ประกาศหลักเกณฑ์การรับขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการโปรแกรมคอมพิวเตอร์ และผู้ให้บริการโปรแกรมบริการที่ต้องการเข้าสู่มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ปรับเปลี่ยนธุรกิจสู่เศรษฐกิจดิจิทัล

“ขณะเดียวกันมาตรการดังกล่าวจะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้ผู้ประกอบการ SMEs ที่มีความประสงค์จะนำโปรแกรมคอมพิวเตอร์และโปรแกรมบริการที่ได้มาตรฐานมาใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาพัฒนาศักยภาพการดำเนินธุรกิจให้อยู่รอดท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) พร้อมรองรับชีวิตวิถีใหม่ก่อนก้าวสู่เศรษฐกิจดิจิทัลในอนาคตและจะช่วยสร้างแรงจูงใจให้ผู้ประกอบการโปรแกรมคอมพิวเตอร์และผู้ให้บริการโปรแกรมบริการเข้าสู่มาตรการฯและขึ้นทะเบียนกับดีป้าอย่างถูกต้องตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้เพิ่มขึ้น”

สำหรับผู้ประกอบการ SMEs ที่ต้องการนำใบเสร็จมาลดหย่อนภาษีจะต้องเลือกใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ หรือบริการโปรแกรมบริการจากผู้ประกอบการที่ขึ้นทะเบียนกับ ดีป้า เท่านั้น โดยขณะนี้มีผู้ประกอบการโปรแกรมคอมพิวเตอร์ และผู้ให้บริการโปรแกรมบริการที่ขึ้นทะเบียนกับ ดีป้า ในฐานะผู้ให้บริการดิจิทัล (Digital Provider) และมีมาตรฐาน ISO29110 และ 

CMMI จำนวนกว่า 100 ราย ซึ่งขณะนี้ยังเปิดรับผู้ประกอบการโปรแกรมคอมพิวเตอร์ และผู้ให้บริการโปรแกรมบริการที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ผ่านระบบฐานข้อมูลที่ www.depa.or.th/tax200

สำหรับประเภทและลักษณะของโปรแกรมคอมพิวเตอร์และโปรแกรมบริการที่สามารถใช้สิทธิได้ ประกอบด้วย

  1. ERP (โปรแกรมบริหารจัดการทรัพยากรองค์กร)
  2. CRM (โปรแกรมบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า)
  3. POS (โปรแกรมบริการ ณ จุดขาย)
  4. MRP (โปรแกรมบริหารจัดการและวางแผนการผลิต)
  5. Account (โปรแกรมบัญชี)
  6. Personnel (โปรแกรมบริหารงานบุคคล)
  7. Logistics (โปรแกรมบริหารการขนส่ง)
  8. Inventory (โปรแกรมบริหารงานคลังสินค้า)
  9. Service Management System (โปรแกรมบริหารงานบริการ)
  10. AI Software (โปรแกรมที่ใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์)
  11. Data Analytics (โปรแกรมวิเคราะห์ข้อมูล)
  12. IoT System (ชุดโปรแกรมอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง)
  13. Smart Farm (โปรแกรมบริหารจัดการฟาร์มอัจฉริยะ)
  14. e-Payment System (ชุดโปรแกรมชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์)

ผู้สนใจสามารถศึกษารายละเอียดและเงื่อนไขมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ปรับเปลี่ยนธุรกิจสู่เศรษฐกิจดิจิทัล ได้ทาง www.depa.or.th/tax200

×

Share

ผู้เขียน