Share on
×

Share

ฉางอานเดินหน้าลงทุนไทย เตรียมตั้งศูนย์วิจัยรถ EV พวงมาลัยขวา ดันไทยฮับผลิตภูมิภาค

ผู้บริหาร ฉางอาน ออโต้โมบิล เข้าพบนายกรัฐมนตรี แพทองธาร หารือแผนลงทุนต่อเนื่อง หลังเปิดโรงงานแห่งแรกนอกประเทศจีนอย่างเป็นทางการ 16 พฤษภาคมนี้ เตรียมผุดศูนย์วิจัยและพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าพวงมาลัยขวา พร้อมจัดตั้งสำนักงานภูมิภาคในประเทศไทย เพิ่มจ้างงานบุคลากรไทยกว่า 2,000 คน ยกระดับไทยสู่ฐานผลิตในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

นฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2568 จู ฮวาหลง ประธานบริษัท ฉางอาน ออโต้โมบิล พร้อมคณะผู้บริหาร ได้เข้าพบนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร ในโอกาสเดินทางมาเปิดโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ในวันที่ 16 พฤษภาคม 2568 ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้แสดงความขอบคุณที่เชื่อมั่นในประเทศไทยและสนับสนุนให้ไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในระดับโลก พร้อมกันนี้ ได้มีการหารือถึงแผนการจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนา รวมถึงจัดตั้งสำนักงานภูมิภาคโดยย้ายจากนครฉงชิ่งมายังประเทศไทย เพื่อดูแลกิจการของบริษัทในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลไทยที่ต้องการส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาเพื่อช่วยยกระดับเทคโนโลยีและนวัตกรรม และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ

ฉางอาน ออโต้โมบิล เป็น 1 ใน 4 กลุ่มบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในประเทศจีน เข้ามาจัดตั้งบริษัทในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2566 และตัดสินใจเลือกไทยเป็นที่ตั้งโรงงานแห่งใหม่ ซึ่งถือเป็นฐานการผลิตแห่งแรกนอกประเทศจีน สำหรับผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบพวงมาลัยขวาเพื่อจำหน่ายในประเทศไทยและส่งออกไปยังภูมิภาคต่าง ๆ โดยได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ มีเงินลงทุนในเฟสแรกมากกว่า 10,000 ล้านบาท กำลังการผลิต 100,000 คันต่อปี และคาดว่าจะสามารถเพิ่มเป็น 200,000 คันต่อปีได้ในอนาคต และสำนักงานใหญ่ในประเทศจีน ยังได้อนุมัติให้จัดตั้ง “Technology and Engineering Center” ในประเทศไทย เพื่อให้เป็นศูนย์กลางด้านการพัฒนาเทคโนโลยีและวิศวกรรมศาสตร์สำหรับรถยนต์พวงมาลัยขวาในภูมิภาค

“การจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาในประเทศไทยของฉางอานในครั้งนี้ มีแผนคัดเลือกบุคลากรไทยเข้าร่วมทีม โดยบีโอไอพร้อมเป็นตัวกลางในการประสานกับสถาบันการศึกษาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสนับสนุนบุคลากรทักษะสูงให้มีโอกาสร่วมงานในศูนย์วิจัยดังกล่าว รวมทั้งดึงผู้ผลิตชิ้นส่วนไทยให้เข้ามามีส่วนร่วมในการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับรถยนต์พวงมาลัยขวา เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในเอเชียแปซิฟิกซึ่งจะช่วยยกระดับการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของบุคลากรไทยและผู้ประกอบการไทย รองรับการเป็นฐานผลิตของอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ในอนาคต” นฤตม์ กล่าว

ทั้งนี้ บริษัท ฉางอาน ออโต้ เซ้าท์อีส เอเชีย จำกัด จะจัดพิธีเปิดโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าพวงมาลัยขวา ณ นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 4 จังหวัดระยอง อย่างเป็นทางการในวันที่ 16 พฤษภาคม 2568 โดยตั้งเป้าที่จะใช้วัตถุดิบและชิ้นส่วนในประเทศ ร้อยละ 65 ภายในปีนี้ และเพิ่มเป็นร้อยละ 80 ในปี 2571 อีกทั้งมีแผนถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับผู้ผลิตชิ้นส่วนไทย รวมถึงเพิ่มการจ้างงานบุคลากรคนไทย จากปัจจุบันมีจำนวน 600 คน เป็น 2,000 คน ในปี 2569 หรือคิดเป็นร้อยละ 90 ของการจ้างงานทั้งหมด

ด้าน จู หัวหรง ประธานบริษัท CHANG-AN Automobile กล่าวว่า “CHANG-AN ดำเนินกลยุทธ์ Vast Ocean Plan ในการขยายธุรกิจไปยังภูมิภาคต่าง ๆ พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับแนวคิดเรื่องความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ซึ่งประเทศไทยมีความพร้อมทั้งโครงสร้างพื้นฐาน นโยบายสนับสนุนยานยนต์ไฟฟ้าที่ชัดเจน และมีความสัมพันธ์อันดีกับประเทศจีน จึงเป็นจุดหมายแรกของเราในแผนการขยายธุรกิจระดับโลก เราขอขอบคุณรัฐบาลไทยและ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีสำหรับการต้อนรับและการสนับสนุนเป็นอย่างดีมาโดยตลอด เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมขับเคลื่อนการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า และเชื่อมั่นว่าการลงทุนของ CHANG-AN จะช่วยสร้างงาน พัฒนาทักษะแรงงาน ยกระดับห่วงโซ่อุปทานในประเทศ ส่งเสริมการถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรม ตลอดจนเปลี่ยนผ่านประเทศไทยสู่เป้าหมายการเป็นฐานการผลิตรถยนต์พลังงานใหม่ที่ทั้งล้ำสมัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อตอบสนองความต้องการทั้งในประเทศและส่งออกไปยังภูมิภาคอาเซียน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อังกฤษ และแอฟริกาใต้ ในอนาคตได้อย่างเป็นรูปธรรม”

ทั้งนี้ CHANG-AN ได้นำเสนอแผนการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยอย่างยั่งยืน โดยมีประเด็นสรุป ดังนี้

  1. การเปิดโรงงานผลิตรถยนต์ฉางอานในประเทศไทย แห่งแรกนอกประเทศจีน ที่นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 4 จังหวัดระยอง กำลังการผลิตเริ่มต้น 100,000 คันต่อปี และมีแผนขยายเป็น 200,000 คันต่อปีในอนาคต โดยพิธีเปิดอย่างเป็นทางการมีขึ้นในวันที่ 16 พฤษภาคมนี้
  2. การเพิ่มสัดส่วนการใช้ชิ้นส่วนในประเทศ ตั้งเป้าเพิ่มจาก 60% ในปี 2024 เป็น 80% ภายในปี 2028 ปัจจุบันบริษัทได้ร่วมมือกับผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศไทยมากกว่า 37 ราย และคาดว่าจะบรรลุเป้าหมาย 68% ในปี 2025 ซึ่งเป็นปีแรกที่เริ่มการผลิตที่โรงงานจังหวัดระยอง
  3. การพัฒนาบุคลากรไทย บริษัทมีแผนเพิ่มการจ้างงานคนไทยจาก 611 คน (80% ของพนักงานทั้งหมด) ในปี 2024 เป็นประมาณ 2,000 คน (90%) ภายในปี 2026 พร้อมทั้งคัดเลือกคนไทยที่มีความสามารถเข้าร่วมทีมผู้บริหารระดับสูง
  4. การจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนา (R&D Center) เพื่อเป็นศูนย์กลางการพัฒนาเทคโนโลยีและวิศวกรรมสำหรับรถยนต์พวงมาลัยขวาในภูมิภาค โดยมุ่งเน้นการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานใหม่และปัญญาประดิษฐ์ รวมถึงการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับบุคลากรและผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศไทย
  5. การจัดตั้ง International Business Center (IBC) เพื่อเป็นศูนย์กลางการวางแผนกลยุทธ์ด้านการผลิต การจำหน่าย และการส่งออกสำหรับตลาดในภูมิภาค

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

เมื่อโลกเร่งเข้าสู่ยุคปัญญาประดิษฐ์แบบ AGI แต่ไทยยังไร้แผนรับมือ

พลิกโฉมเศรษฐกิจท่องเที่ยวไทย ด้วย Mobility Data

×

Share

ผู้เขียน