คนชอบพูดถึง Sustainability ในเรื่องโลกร้อน Net Zero ฯลฯ ซึ่งอาจจะไม่ครอบคลุมเรื่องของ Sustainability ได้ 100% เลยอยากจะมาอธิบายกันให้เข้าใจก่อนว่า Sustainability หมายถึงอะไร ซึ่ง จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้งและประธานบริษัท บิทคับ แคปปิตอล ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ในงาน The Story Thailand Forum 2024 ภายใต้หัวข้อ AI and Sustainability Solution ว่า Sustainability คือ ความยั่งยืน ซึ่งไม่ใช่แค่ความยั่งยืนในด้านธรรมชาติ แต่ต้องยั่งยืนในหลายมิติ ไม่ได้มองแค่ตัว E ที่หมายถึง Environmental เท่านั้น แต่ยังต้องรวมถึง Social และ Governance ด้วย
การสร้าง Sustainability ต้องไม่ใช่การทำแค่ Career แต่ต้องมี Role
เราต้องทำการแยก Career กับ Role ก่อน ซึ่งทุกคนต้องมีทั้งหมวกที่เป็น Career เช่น การมีครอบครัว มีงาน มีค่าใช้จ่าย ต้องทำเงิน ฯลฯ แต่ทุกอาชีพที่ต้องการความยั่งยืนควรที่จะมีหมวกอีกใบขึ้นมาคือ Role เช่น ทุกคนต้องมีความโปร่งใส ความดี ความซื่อสัตย์ ฯลฯ ดังนั้น ทุกคนควรสวมหมวก 2 ใบ แต่นักธุรกิจส่วนใหญ่มักจะมีแค่หมวกใบเดียวคือ หมวก Career จากการคิดที่จะทำเงินเพียงอย่างเดียว มองแต่ Output GDP หรือ Performance ทั้ง ๆ ที่เป็นอาชีพที่เปลี่ยนโลกได้มากที่สุด
แต่ตอนนี้ทั่วโลกเริ่มหันมาโฟกัสกับการทำ Contributive Strategy กันมากขึ้น มากกว่าการวาง Competitive Strategy แบบเดิม ๆ เพื่อทำให้ชีวิตมี Value System ที่ดี ดังนั้น หากนักธุรกิจอยากสร้าง Sustainability Solution ก็ต้องหัดสวมหมวกสองใบมากขึ้น
นักธุรกิจยุคใหม่จึงต้องตื่นขึ้นมาแล้วคิดว่า ทุกวันนี้เราทำเพื่อให้เกิด Sustainability หรือเพื่อตัวเงินอย่างเดียว เพราะอาชีพอื่นกำลังช่วยทำให้โลกก้าวไปข้างหน้าด้วยการมี Role ที่ชัดเจน
เราควรที่จะสร้าง diversity ให้เกิดขึ้นในองค์กร
เพราะขาอื่นๆ ของ ESG คือเรื่องของ Social และ Governance การที่มี diversity ให้เกิดขึ้นในองค์กรก็เป็นการช่วยสร้างความยั่งยืนให้เกิดขึ้นในองค์กรด้วยเช่นเดียวกัน เพราะช่วยทำให้การตัดสินใจในเรื่องต่าง ๆ มีความแม่นยำมากขึ้น ดังนั้น ในอนาคตจะมีการมองในแง่ของการทำธุรกิจจะมี Dimension ที่มากกว่า KPI เหมือนเดิมในการวัดผล เพราะฉะนั้นหากต้องการความยั่งยืนต้องไม่ใช่การดูแค่ Peroformance แต่ควรมองเรื่อง Sustainability ให้มากขึ้น
ตัดสินใจทำอะไรด้วย Identity ช่วยให้องค์กรยั่งยืน
เพราะบริษัทที่คนไม่ลืม คือ บริษัทที่มี Role และคาแรกเตอร์ที่ชัดเจนมาก เพราะทุกคนทำอาชีพที่เหมือน ๆ กันหมด แต่การที่มี Identity หรือ Role ที่ชัดเจนจะช่วยให้องค์กร Outstanding และการสื่อสารการตลาดก็จะมีความเป็นเอกลักษณ์และเป็นที่จดจำ และทุกการตัดสินใจจะ Make Choices แต่ไม่ได้จาก Make Decision เท่านั้น
ดังนั้น เราจึงควรบริหารหมวกทั้งสองฝั่งให้เริ่มที่จะ Contribute ให้ธุรกิจมีหมวกในฝั่ง Role มากขึ้นสัก 10% ก็ยังดี เพื่อทำให้องค์กรมี Sustainability และช่วยให้โลกอยู่รอดมากขึ้น ซึ่งก็ไม่ได้ดูแค่เรื่องของโลกร้อนเพียงอย่างเดียว แต่ยังครอบคลุมไปอีกหลาย Dimension ที่อยู่ใน ESG ด้วย
AI ทำให้เกิดการควบรวมตำแหน่งงานมากขึ้น
หนึ่งคนมี Job Description มากอยู่แล้ว และจากการเข้ามาของ AI ที่ทำงานหลายงานแทนคนได้ ทำให้หลายตำแหน่งถูกควบรวม คนหนึ่งคนจึงจะภาคภูมิใจในตำแหน่งสิ่งที่ตัวเองจะทำได้อย่างแท้จริง ดังนั้น องค์กรจึงควรที่จะวางแผนเรื่องนี้ให้เกิดตรงกลางด้วยการเพิ่ม Value System ให้กับการทำงาน ไม่อย่างนั้นอาจเกิดการต่อต้านตามมา และนี่คือสิ่งที่ทำให้มนุษย์มีความยั่งยืนกว่า AI
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
สรุปจาก ดร.พิเชษฐ ฤกษ์ปรีชา ในหัวข้อ Humanized AI : AI adaptation for everyday life
สรุปจาก ปริชญ์ รังสิมานนท์ ในหัวข้อ The Real used cases of AI in Business
บทสรุป ปิยธิดา ตันตระกูล ในหัวข้อ Generative AI: Cyberworld with Double Edge