Share on
×

Share

ยอด ชินสุภัคกุล เผย 3 ขั้นใช้ AI พลิกโฉม LINE MAN Wongnai

LINE MAN Wongnai ประกาศผลสำเร็จ “AI Hackathon” ปั้นพนักงานสู่ขุนพล AI เผย 3 ระดับการใช้งานจริง ตั้งแต่ลดต้นทุนถึงสร้างประสบการณ์ใหม่ให้ลูกค้า

LINE MAN Wongnai เผยผลสำเร็จจากโครงการ “AI Hackathon” ที่จัดขึ้นภายในองค์กรเป็นเวลากว่า 5 สัปดาห์ ซึ่งไม่เพียงแต่สร้างผลงานที่นำไปต่อยอดใช้งานได้จริง แต่ยังเป็นบทพิสูจน์สำคัญในการเปลี่ยนผ่านสู่การเป็น “AI-Driven Company” อย่างเต็มรูปแบบ โดย ยอด ชินสุภัคกุล ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง ได้เปิดเผยถึงบทเรียนสำคัญที่ได้จากการลงมือทำจริง คือการแบ่งระดับการใช้ AI ออกเป็น 3 ขั้น ซึ่งกำลังจะกลายเป็นพิมพ์เขียวในการทรานส์ฟอร์มองค์กรต่อไป

จากการแข่งขันของ 12 ทีมจากหลากหลายฝ่าย ตั้งแต่การตลาด ซัพพลายเชน ไปจนถึงฝ่ายกฎหมายและบัญชี คุณยอดสรุปว่า การนำ AI มาประยุกต์ใช้ในองค์กรสามารถแบ่งได้เป็น 3 ระดับ คือ:

  1. Use Less (Resource): การใช้ AI เพื่อทดแทนกระบวนการทำงานที่ซ้ำซ้อนและต้องใช้แรงงานคนจำนวนมาก ช่วยให้ประหยัดเวลาและทรัพยากร
  2. Achieve More (Scope): การใช้ AI เพื่อขยายขีดความสามารถในการทำงานให้ทำได้มากขึ้นอย่างก้าวกระโดด เช่น การใช้ AI ช่วยตรวจสอบธุรกรรมที่น่าสงสัยจากวันละ 1,000 เคสต่อคน เป็น 100,000 เคสต่อวัน
  3. Spark Joy (to Users): ขั้นสูงสุด คือการใช้ AI สร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่ที่น่าประทับใจให้กับผู้ใช้งาน ซึ่งบริษัทได้เริ่มนำมาใช้แล้ว เช่น การส่งข้อความ Push Notification ผ่านแอป LINE MAN ที่สร้างโดย AI ให้ตรงใจผู้ใช้งานกว่า 500 รูปแบบ (Persona)

กิจกรรม AI Hackathon ถูกออกแบบมาเพื่อ “เน้นความเร็วมากกว่าความสมบูรณ์” โดยให้อิสระแก่พนักงานกว่า 100 คนในการทดลองใช้เครื่องมือ AI ชั้นนำอย่าง Gemini และ OpenAI พร้อมทลายกำแพงด้านกระบวนการจัดซื้อและกฎระเบียบภายในชั่วคราว เพื่อให้เกิดความคล่องตัวสูงสุด ผลลัพธ์ที่ได้คือต้นแบบนวัตกรรมที่เกินความคาดหมาย และบางส่วนพร้อมนำไปใช้งานจริงแล้ว

เบื้องหลังการขับเคลื่อนครั้งใหญ่นี้มาจากวิสัยทัศน์ของคุณยอด ชินสุภัคกุล ที่เล่าถึงการเดินทางไปพบปะนักลงทุนและคนในวงการเทคโนโลยีกว่าร้อยคนทั่วโลก ทำให้ตระหนักว่า “ยุคสมัยของ AI มาถึงแล้ว” และเป็นคลื่นการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงเทียบเท่ากับยุคแรกของ iPhone

“ความรู้สึกระทึกมันชัดเจน…ว่าการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีสู่ยุค AI กำลังเกิดขึ้น ณ ตอนนี้ เดี๋ยวนี้ ต้องรีบแล้ว” ยอดกล่าวถึงแรงผลักดันที่ทำให้เขาประกาศภารกิจทรานส์ฟอร์ม LINE MAN Wongnai สู่การเป็นบริษัทที่ขับเคลื่อนด้วย AI

ก่อนหน้าที่จะมี Hackathon บริษัทได้ริเริ่มโครงการที่นำโดยผู้บริหาร (Top-down project) ในแผนกที่เป็น “กล้ามเนื้อใหญ่” ขององค์กร เช่น การนำ Gen AI มาเสริมทัพทีม Contact Center และการให้ทีม Tech ใช้ AI ช่วยเขียนโค้ด อย่างไรก็ตาม การจัด Hackathon ถือเป็นการจุดประกายให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจากฐานราก (Bottom-up) ไปพร้อมกัน

ยอดเชื่อว่าประโยชน์สูงสุดของกิจกรรมนี้ คือการที่พนักงานได้ลงมือทำและค้นพบว่า AI สามารถ “Supercharge” ยกระดับการทำงานของตนเองได้จริง ซึ่งเป็นการสร้าง Mindset ใหม่ที่จำเป็นต่อการอยู่รอดและเติบโตในยุคนี้ พร้อมทิ้งท้ายด้วยประโยคที่ทรงพลังว่า “ความเสี่ยงคือการไม่ทำอะไรครับ” ซึ่งสะท้อนถึงความจำเป็นเร่งด่วนที่องค์กรต้องปรับตัวและเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

Bitkub Moonshot เผยกลยุทธ์ใช้ AI พลิกโฉมองค์กร

ธุรกิจสีเขียว: รักษ์โลกอย่างไรให้ธุรกิจรอด?

×

Share

แท็กที่เกี่ยวข้อง

ผู้เขียน