“เกือบ 10 ปีที่ดำรงตำแหน่งซีอีโอของบริษัทเทเลนอร์ ที่เป็นบริษัทระดับโลก ได้เรียนรู้การทำให้บริษัทโทรคมเปลี่ยนเป็นบริษัทเทคโนโลยีได้อย่างไร” ซิกเว่ เบรกเก้ ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มธุรกิจโทรคมนาคมและดิจิทัล เครือเจริญโภคภัณฑ์ และประธานคณะผู้บริหารกลุ่ม (Group CEO) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เกริ่นนำ
ก่อนจะขยายเพิ่มเติมว่า ตลอดเวลา 9 ปีที่ดำรงตำแหน่งซีอีโอ ของเทเลนอร์ ได้เรียนรู้ว่า ดิจิทัลได้สร้างความเปลี่ยนแปลงสังคมไปอย่างไร ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นทั่วโลก เป็นเทคโนโลยีที่มีพลังเปลี่ยนสังคม และธุรกิจ เป็นการ Disruption ที่ทำให้เปลี่ยนทั้งเอกชนและรัฐ ยกตัวอย่างหลายบริษัทในสหรัฐที่สร้างการเปลี่ยนแปลง เช่น กูเกิล อะเมซอน ไมโครซอฟท์
ดังนั้น หลังได้รับคำชวนจาก ศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ จึงได้กลับมาประเทศไทย เพื่อนำสิ่งที่เห็นความเปลี่ยนแปลงในหลายประเทศและหลายอุตสาหกรรมทั้งยุโรป และอื่นๆ ทั้งกำลังเกิดขึ้นในเอเชีย รวมถึงไทย ซึ่งจะพยายามทำให้ดีที่สุดในการเปลี่ยนผ่านบริษัทโทรคมนาคมเป็นบริษัทเทคโนโลยี
ทั้งนี้ การลงทุนในภาพรวมประมาณ 28,000 – 30,000 ล้านบาทของกลุ่มทรูนั้น จะมุ่งไปกับ Cloud และ AI ซึ่งการนำโครงข่ายขึ้น Cloud ทั้งหมด หรือเกือบทั้งหมดจะใช้เวลาหลายปี
ลูกค้า-เทค-ทีมงาน ภารกิจเสริมแกร่ง
ส่วนของการควบรวมกิจการระหว่างทรู-ดีแทค ซึ่งผ่านมา 2 ปี โดยมีเป้าหมายจะทำให้ธุรกิจของบริษัทแข็งแกร่งและก้าวสู่ผู้นำท่ามกลางคู่แข่งบริษัทระดับโลกทั้งหลาย โดยทั้งผู้ถือหุ้นและลูกค้าจะต้องพึงพอใจในบริษัทและบริการ ซึ่งที่ผ่านมา ได้เห็นศักยภาพอันเข้มแข็งจากการรวมความแข็งแกร่งของทั้งสององค์กรส่งผลให้ธุรกิจเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน
จากนี้ไปบริษัทจะมุ่งสู่ก้าวต่อไปด้วย 3 ภารกิจหลัก โดยให้ความสำคัญต่อ 1. ลูกค้า ด้วยการสร้างแบรนด์ที่ได้รับความเชื่อใจ(Trusted Brand) ไม่โกง ไม่หลอก ตอบโจทย์ สร้างแรงบันดาลใจแก่ลูกค้า มีส่วนร่วมในชีวิตของลูกค้า ก้าวสู่การเป็น Brand love
พร้อมสร้างประสบการณ์ลูกค้าเป็นหนึ่งเดียว (Unmatched customer experience) ไม่ใช่การแข่งขันกับคู่แข่งที่มีบริษัทจากหลากหลายประเทศ แต่ต้องดูความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก ซึ่งบริษัทเร่งรวมระบบให้เป็นหนึ่งเดียวระหว่างลูกค้าทรูและดีแทค เน้นให้การเปลี่ยนผ่านสู่ Digital touchpoint เป็นไปอย่างไร้รอยต่อ พร้อมทั้งรวมแอปพลิเคชันทรู-ดีแทคเข้าด้วยกัน และนำ AI มาใช้กับการบริการลูกค้า โดยพัฒนาประสบการณ์หลากหลายช่องทาง (Omnichannel) เชื่อมโยงการใช้งานทั้งแอปพลิเคชัน ศูนย์บริการลูกค้า และร้านค้าด้วย AI (chatbots, voice bots และผู้ช่วยพนักงาน) ปรับปรุงการเข้าถึงพนักงานที่ศูนย์บริการและลดเวลาในการให้บริการและทันสมัยขึ้น เปิดตัวแอปพลิเคชันใหม่ทั้งของทรูและดีแทค ที่ใช้ AI ล้ำสมัย เพื่อเปลี่ยนธุรกรรมจากหน้าร้านสู่ดิจิทัล และรวบรวมระบบ IT หลัก (CRM, ERP, การเก็บเงิน) ให้เป็นหนึ่งเดียวเพื่อสนับสนุนกลยุทธ์ดิจิทัล
ขณะเดียวกัน จะสร้างเครือข่ายที่เชื่อถือและรองรับอนาคต (Reliable and future-proof network) และพัฒนาเครือข่ายให้ทันสมัย (Network Modernization) กำหนดดำเนินการเสร็จสิ้นทั่วประเทศในไตรมาส 3 ของปีนี้ ภายในเดือนกันยายนจะได้เครือข่ายไร้รอยต่อทั่วประเทศ โดยมี “ภูเก็ตโมเดล” เป็นจังหวัดแรกที่พัฒนาเครือข่ายให้ทันสมัยเสร็จ 100% พร้อมเสริมทัพโซลูชันเครือข่ายสู่ประสบการณ์ใหม่เป็นที่แรก และจะดำเนินการต่อไปในจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ รวมถึงการรักษาฐานธุรกิจโทรคมนาคม และเติบโตในกลุ่มธุรกิจดิจิทัลตามวิถีที่กำหนด
–ทรูโชว์ ‘ภูเก็ตโมเดล’ ต้นแบบ Network Modernization เสร็จสมบูรณ์ 100%
พลัง AI เพื่อลูกค้าทุกกลุ่ม
2. เทคโนโลยี ประกอบด้วย ปัญญาประดิษฐ์เพื่อไทยทุกคน (AI for all Thais) ด้วยบริการ AI ที่ไม่ว่าจะเป็นบริษัทใหญ่และ SMEs รวมถึงทุกคน เข้าถึงได้ ซึ่งการนำ AI ไปใช้งานมักมีค่าใช้จ่ายสูง บริษัทจึงพัฒนา AI Model ที่ลดต้นทุนค่าใช้จ่าย และทำเป็นภาษาไทย
พร้อมให้บริการดิจิทัลเพื่อบุคคลด้วยพลัง AI (AI-powered personalized digital service) ให้ตรงใจลูกค้าทุกกลุ่ม โดยเข้าใจความต้องการและความสนใจของลูกค้าเป็นหลัก ตลอดจนขับเคลื่อนเมืองอัจฉริยะด้วย IoT และความปลอดภัย สนับสนุนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะผ่านเทคโนโลยี IoT และระบบความปลอดภัยที่ทันสมัย เชื่อมต่อทุกสิ่งได้ด้วย AI ไม่ว่าจะเป็นกล้องวงจรปิด สัญญาณจราจร เป็นต้น
หมดยุคสั่งการ ผู้นำต้องฟัง
3. ทีม ซึ่งการก้าวไปข้างหน้าต้องคำนึงถึงพนักงาน โดยเริ่มจากการสร้างวัฒนธรรมที่มีหัวใจคือลูกค้าพนักงานทุกคนทุกระดับเมื่อทำงานต้องคิดว่างานที่ทำจะกระทบต่อแผนกอื่นๆ อย่างไร ทำแล้วลูกค้าได้ประโยชน์อะไรบ้าง ซิกเว่ ยกตัวอย่างในอดีตที่เคยมีดีแทค แฮปปี้ เมื่ออยู่ที่ทรูก็จะสร้างขึ้นเช่นกัน ทุกวิถีทางจะมุ่งสู่การมีหัวใจ คือ “ลูกค้า” ร่วมกัน
ควบคู่กับการสร้างผู้นำขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านในองค์กร สร้างผู้นำในองค์กรที่มีทัศนคติและศักยภาพที่เหมาะกับการขับเคลื่อนในช่วงการเปลี่ยนผ่านองค์กร และการพัฒนาทีมสร้างแรงบันดาลใจ กระตุ้นทีมสู่เป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ
“การเป็นผู้นำไม่ใช่การสั่งอย่างเดียว ซึ่งวันเวลาเหล่านั้นผ่านไปแล้ว ผู้นำในวันนี้ ต้องเป็นผู้ฟังที่ดี และทำงานโดยทำให้ทุกคนทำงานเป็นทีมไดั และต้องโปร่งใส จากการทำงานมา 7-8 ประเทศ ทุกประเทศต่างต้องการความเคารพ และการยอมรับในสังคม”
ขณะเดียวกัน ต้องสร้างพันธมิตรเพื่อความสำเร็จร่วมกัน เพื่อก้าวสู่ความสำเร็จร่วมกันอย่างยั่งยืนในสู่บริษัทระดับโลก
หวังเติบโต 8-10%
ด้านผลประกอบการที่ประกาศพลิกฟื้นทำกำไรในไตรมาส 1/2568 ที่ผ่านมา หลังจากเว้นช่วงไปหลายปี ซิกเว่ ระบุว่า ยังไม่พึงพอใจกับรายได้ ซึ่งต้องการเติบโต 8-10% โดยจะควบคุมค่าใช้จ่าย และสร้างผลกำไรที่ดี ทำรายได้ Prepaid ให้เติบโตมากกว่านี้ ทั้งนี้ ปัจจุบันถือว่าอยู่ในตำแหน่งที่ดี Prepaid เติบโต และ Online มีรายได้ดี
ความท้าทายที่มีในปัจจุบันคือ คู่แข่งไม่ได้จำกัดอยู่ในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมเช่นเดิมแล้ว แต่ขยายขอบเขตออกไป เช่น บริษัทแพลตฟอร์ม และอื่นๆ ดังนั้น การมองคู่แข่งจะเปลี่ยนไป และลูกค้าก็เปลี่ยนเช่นกัน ทุกคนเป็นลูกค้าและความต้องการล้วนเปลี่ยน ซึ่งต้องพัฒนาบริการให้ดีมากขึ้น โดยหวังจะได้โชว์กำไรสุทธิและรายได้ที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2568
“การควบรวมเพิ่งผ่านไป 2 ปีอาจยังไม่เห็นผลการเปลี่ยนแปลงชัดเจน ขอเวลาอีก 2 ปีจะได้เห็นอะไรมากขึ้น และต้องการเห็นทรูเป็นบริษัทที่คนอยากมาทำงานด้วย เป็นตัวอย่างที่ดีแก่บริษัทอื่น ลูกค้าไว้วางใจ รับรู้ได้ว่า บริการดีที่สุด และจะเปลี่ยนจากบริษัทโทรคมนาคมดั้งเดิม เป็นบริษัทเทคโนโลยีให้ได้”
ลงสนามแข่งระดับโลก
ในการก้าวสู่ Tech Company ซิกเว่ มุ่งจะดึงจุดแข็งของบริษัทที่มีฐานโทรคมนาคมมาแต่แรกเข้ามาใช้ คือ การเป็นเจ้าของคลื่นความถี่ และโครงข่ายโทรคมนาคม ซึ่งคู่แข่งที่อยู่ในเทคโนโลยีมาดั้งเดิมไม่มี
นอกจากนี้ คู่แข่งอื่นๆ เป็นบริษัทจากต่างประเทศ ทำผลิตภัณฑ์และบริการระดับโลก อาจไม่คล่องตัวที่จะปรับเปลี่ยนให้เข้ากับบริบทความต้องการของประเทศ ต่างจากบริษัทในประเทศที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ ตรงตามความต้องการของลูกค้าทุกระดับในประเทศได้ครอบคลุมกว่า
อย่างไรก็ตาม ณ วันนี้ เป็นเพียงขั้นเริ่มต้นภารกิจในกลุ่มทรู และซีพีของซิกเว่ เบรกเก้ อดีตซีอีโอคนดังผู้สร้างปรากฏการณ์ทางการตลาดที่ตื่นตาตื่นใจแก่วงการโทรคมนาคมไทย เมื่อประมาณ 20 ปีก่อนครั้งเทเลนอร์เข้าซื้อหุ้นดีแทคจากกลุ่มเบญจรงคกุล จากนี้ไปเขาจะสร้างความเปลี่ยนแปลงที่น่าตื่นตะลึงเพียงใด
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
SCBX ปักธง AI-First! เปิด ‘พิมพ์เขียวอนาคต’ Whitepaper ฉบับแรก ชู ‘ไต้ฝุ่น’ นำทัพปฏิวัติการเงิน
เมื่อโลกเร่งเข้าสู่ยุคปัญญาประดิษฐ์แบบ AGI แต่ไทยยังไร้แผนรับมือ
