Share on
×

Share

ZUPPORTS สตาร์ตอัพจากรั้ว SCG กับภารกิจพลิกโลกโลจิสติกส์

ท่ามกลางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยที่พึ่งพาการส่งออกเป็นสัดส่วนกว่า 60% ของ GDP อุตสาหกรรมโลจิสติกส์และการขนส่งระหว่างประเทศซึ่งเป็นหัวใจสำคัญ กลับยังคงติดอยู่ในวังวนของกระบวนการแบบดั้งเดิมที่ใช้เวลานานและมีต้นทุนแฝงสูงอย่างน่าประหลาดใจ สตาร์ตอัพสัญชาติไทยชื่อว่า ZUPPORTS กำลังเข้ามาทลายกำแพงดังกล่าวด้วยแพลตฟอร์มดิจิทัลครบวงจร

นี่ไม่ใช่เรื่องราวความสำเร็จที่เกิดขึ้นชั่วข้ามคืน แต่เป็นบทบันทึกการเดินทางของอดีตพนักงาน 3 คนจากองค์กรยักษ์ใหญ่อย่าง SCG ที่ปฏิเสธเส้นทางอันมั่นคง สู่ความไม่แน่นอนของผู้ประกอบการ ที่ถือกำเนิดขึ้นจากความล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำเล่า และความมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาที่ใหญ่กว่าตัวเอง เรื่องราวนี้ไม่ได้เริ่มต้นในโรงรถ แต่ก่อตัวขึ้นภายในตึกสูงของ SCG ที่นี่ที่คนสามคนซึ่งมีเส้นทางชีวิตแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงได้โคจรมาพบกัน

เส้นทางของ ZUPPORTS เริ่มต้นขึ้นในปี 2019 ภายในโครงการ Zero to One ของ SCG เวทีทดลองที่เปิดโอกาสให้พนักงานได้สวมบทบาทผู้ประกอบการ เรื่องราวของ ZUPPORTS ไม่ได้ถือกำเนิดจากไอเดียที่สมบูรณ์แบบ แต่มาจาก “การตกรอบ” ซ้ำแล้วซ้ำเล่าในโครงการบ่มเพาะสตาร์ตอัพภายในของ SCG

เอกชัย งามพิทักษ์จิตต์ CTO และ Co-Founder วิศวกรเหมืองแร่จากจุฬาฯ ผู้กรำงานอยู่ที่ปูนซีเมนต์ไทย แก่งคอย คุ้นเคยกับเครื่องจักร การบริหารต้นทุน และการปฏิบัติการในโรงงาน เขาคือคนที่ลงลึกในทุกรายละเอียดของโปรดักต์ คือผู้เข้าแข่งขันใน Batch แรกที่ไม่ผ่านเข้ารอบ ในขณะที่ ธัญมน ธนะเพิ่มพูล COO และ Co-Founder บัณฑิตบัณฑิตนิติศาสตร์ จากธรรมศาสตร์ ที่ชีวิตพลิกผันมาทำงานคลุกคลีในสายงานโลจิสติกส์และพิธีการศุลกากรของ SCG Logistics โดยตรง เธอคือผู้ที่หายใจเข้าออกเป็น “ปัญหา” ของอุตสาหกรรมนี้ คือผู้เข้าแข่งขันใน Batch ที่ 2 ซึ่งตกรอบเช่นกัน

ความพ่ายแพ้ในแต่ละครั้งได้มอบบทเรียนและทำให้ทั้งสองตัดสินใจจับมือกันเพื่อกลับมาสู้อีกครั้งใน Batch ที่ 3 พร้อมกับการเข้ามาของจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้าย คือ ก้องกิติ ลิ่วเจริญชัย CEO และ Co-Founder วิศวกรเครื่องกลจากจุฬาฯ ผู้ได้รับทุนจาก SCG ไปคว้าปริญญา MBA จากสวิตเซอร์แลนด์ และกลับมาดูแลการลงทุนในสตาร์ตอัพให้กับ SCG Chemicals เขามองทุกอย่างผ่านเลนส์ของนักลงทุนและนักวางกลยุทธ์

การรวมตัวของ 3 ผู้ร่วมก่อตั้งที่มีความเชี่ยวชาญแตกต่างกัน ทั้งด้านวิศวกรรมกระบวนการ การลงทุนเชิงกลยุทธ์ และความเข้าใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์อย่างลึกซึ้ง ได้กลายเป็นรากฐานที่แข็งแกร่งของทีม แต่ถึงแม้จะมีทีมที่แข็งแกร่ง ไอเดียแรกของพวกเขากลับไม่ใช่ ZUPPORTS แต่เป็นแพลตฟอร์มสำหรับเด็กฝึกงานชื่อ “Semester” ซึ่งท้ายที่สุดก็ไปไม่รอด เพราะสเกลไม่ได้ ไปต่อไม่ได้ Market Size ไม่ใหญ่พอ เติบโตแบบสตาร์ตอัพไม่ได้ นี่คือบทเรียนแรกที่สอนให้พวกเขารู้ว่า แพชชั่นอย่างเดียวไม่พอ แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานของตลาดที่เป็นจริงและมีขนาดใหญ่พอ

หลังจากลองผิดลองถูก และผ่านการเปลี่ยนโมเดลธุรกิจมาถึง 5 ครั้ง ตั้งแต่เรื่องเด็กฝึกงานไปจนถึง IoT ในโรงงาน ก็ค้นพบว่า “การขนส่งระหว่างประเทศ” คือโจทย์ที่ใหญ่และตอบโชว์ความสามารถของทีมได้ดีที่สุด

ธัญมน กล่าวว่า จากผลสำรวจผู้ประกอบการกว่า 100 บริษัท พบว่ากว่า 90% ของผู้ตอบแบบสอบถามใช้เวลามากกว่าครึ่งหนึ่งของวันไปกับงานเอกสารและการคีย์ข้อมูลซ้ำซ้อนด้วยมือ กระบวนการเหล่านี้ไม่เพียงแต่ล่าช้า แต่ยังเสี่ยงต่อความผิดพลาดของข้อมูลที่อาจนำไปสู่การกักกันสินค้าและค่าปรับมหาศาล วิกฤติการณ์โควิด-19 ยิ่งซ้ำเติมสถานการณ์ให้เลวร้ายลง ราคาตู้คอนเทนเนอร์พุ่งสูงขึ้น 10-20 เท่า สร้างความโกลาหลและความไม่แน่นอนให้กับผู้นำเข้า-ส่งออกอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

พวกเขาจึงตัดสินใจเปลี่ยนทิศทางอย่างสิ้นเชิง มุ่งเป้าไปที่การปฏิวัติอุตสาหกรรมที่หลับใหลแห่งนี้ และชื่อ “ZUPPORTS” ก็ถือกำเนิดขึ้น จากคำว่า ‘Support’ ที่ S ถูกเปลี่ยนเป็น Z เพื่อสื่อถึง “เส้นทาง” และ ‘Port’ ที่เติม s เพื่อหมายถึงท่าเรือทั่วโลก

สร้าง “ระบบปฏิบัติการ” ไม่ใช่แค่ “เครื่องมือ”

ด้วยความเข้าใจในปัญหาอย่างลึกซึ้ง ZUPPORTS จึงพัฒนานวัตกรรมในรูปแบบของระบบปฏิบัติการเพื่อการค้าระหว่างประเทศที่เข้ามาจัดการกระบวนการตั้งแต่ต้นจนจบ เริ่มจากการแก้ปัญหาเร่งด่วนที่สุดในช่วงโควิด-19 คือการสร้างระบบเปรียบเทียบราคา (Bidding) และจองขนส่ง (Booking) ผ่านช่องทางออนไลน์ ช่วยลดขั้นตอนที่เคยใช้เวลาหลายชั่วโมงให้เหลือเพียงไม่กี่นาที

“ZUPPORTS ไม่ใช่แค่เว็บไซต์ แต่คือระบบปฏิบัติการ ที่ออกแบบมาเพื่อจัดการความโกลาหลทั้งหมด มันคือแพลตฟอร์มบนคลาวด์ (Cloud-based) ที่ผู้ใช้สามารถล็อกอินเข้าใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องติดตั้งโปรแกรม และเชื่อมต่อกับระบบหลังบ้านของลูกค้าอย่าง SAP หรือ Oracle ผ่านเทคโนโลยี API ได้”

จากนั้นแพลตฟอร์มได้ถูกพัฒนาต่อยอดให้ครอบคลุมส่วนอื่น ๆ ทั้งระบบติดตามสถานะสินค้า (Tracking) แบบเรียลไทม์ และนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาช่วยในการจัดการเอกสารและวางบิล โดย AI จะทำหน้าที่อ่านข้อมูลจากไฟล์เอกสารต่าง ๆ เช่น PDF เพื่อลดภาระการคีย์ข้อมูลด้วยมือและตรวจสอบความถูกต้อง 

“AI เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีหัวใจสำคัญ ที่เข้ามาช่วยอ่านเอกสาร ที่ไม่ใช่แค่การอ่านตัวอักษร (OCR) แต่ยังทำหน้าที่เป็น “ผู้ช่วย” ที่คอยให้คำแนะนำเบื้องต้นเกี่ยวกับพิกัดภาษี ช่วยลดความเสี่ยงที่ร้ายแรงที่สุดของการนำเข้า-ส่งออก สิ่งที่เราทำคือลดขั้นตอน Manual ของลูกค้าลงให้ได้ถึง 80% จากเดิมที่ต้องใช้เวลาเป็นชั่วโมง ๆ ในการเปรียบเทียบราคา ตอนนี้เหลือแค่ไม่กี่คลิกบนหน้าจอ” เอกชัย กล่าว

ก้องกิติกล่าวว่า ZUPPORTS ไม่ได้เป็นเพียงแพลตฟอร์มเปรียบเทียบราคา แต่คือ “Operating System for Global Trade” ที่ให้บริการครอบคลุมตลอดทั้ง Value Chain ตั้งแต่ต้นจนจบ ประกอบด้วย Bidding & Booking เปรียบเทียบราคาจากผู้ให้บริการขนส่ง (Freight Forwarder) กว่า 30 ราย และจองบริการได้ทันทีผ่านระบบออนไลน์ ช่วยลดเวลาจากที่เคยใช้ 2-3 ชั่วโมง เหลือเพียงไม่กี่คลิก Tracking ติดตามสถานะสินค้าได้แบบเรียลไทม์ เหมือนการเช็คพัสดุทั่วไป Document Management นำเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยอ่านและจัดการเอกสารสำคัญ ลดความผิดพลาดจากการคีย์ข้อมูลด้วยมือ ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาสินค้าโดนกักหรือค่าปรับมหาศาล และ Billing & Payment จัดการเรื่องการวางบิลและค่าใช้จ่ายทั้งหมดในที่เดียว

เผชิญวิกฤติ: บททดสอบในหุบเขาแห่งความตาย 

การเดินทางของสตาร์ตอัพไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ การมี SCG เป็นใบเบิกทางช่วยสร้างความน่าเชื่อถือในการเข้าถึงลูกค้ารายใหญ่ แต่ในขณะเดียวกันก็สร้างแรงกดดันและความคาดหวังที่สูงลิ่ว ซึ่งกิตติ มองว่าเป็นความท้าทายที่ผลักดันให้ต้องรักษามาตรฐานและพิสูจน์ตัวเองอยู่เสมอ แต่เมื่อพวกเขาตัดสินใจแยกตัวออกมา (Spin-off) ในปี 2022 หลังจากบ่มเพาะและพัฒนาระบบในโครงการเป็นเวลาเกือบ 3 ปี โดยมี SCG และบริษัท LEO Global Logistics ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์รายแรก ๆ เข้าร่วมลงทุนด้วย ก็ต้องเผชิญหน้ากับ “หุบเขาแห่งความตาย” (Valley of Death) ทันที

วิกฤติแรกคือการพังทลายของโครงสร้างรายได้ ธัญมน กล่าวว่า ในช่วงโควิด-19 ZUPPORTS สร้างรายได้หลักจากค่าคอมมิชชั่นบนค่าระวางเรือที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ แต่เมื่อสถานการณ์คลี่คลายและค่าระวางเรือทั่วโลกกลับสู่ภาวะปกติอย่างรวดเร็วภายในเวลาเพียง 1-2 เดือน รายได้ของบริษัทซึ่งผูกอยู่กับค่าคอมมิชชั่นนั้นหายไปกว่า 10 เท่าแทบจะในทันที วิกฤติที่สองซ้ำเติมเข้ามาคือการสูญเสียทีมเทคโนโลยีซึ่งเป็นหัวใจหลักของบริษัทพร้อมกัน โดยบางส่วนลาออกเพื่อไปศึกษาต่อต่างประเทศ และอีกส่วนหนึ่งย้ายไปร่วมงานกับสถาบันการเงินที่กำลังขยายทีมเทคโนโลยีและเสนอผลตอบแทนที่สูงกว่า

ZUPPORTS เผชิญวิกฤติใหญ่เมื่อทีมงานหลักลาออกไป ทำให้องค์ความรู้สำคัญในการพัฒนาซอฟต์แวร์เกือบทั้งหมดหายไปด้วย สิ่งนี้ชี้ให้เห็นจุดเปราะบางของการเป็นองค์กรใหม่ที่พึ่งพาความสามารถของคนเพียงไม่กี่คน แทนที่จะแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการหาคนใหม่ พวกเขาเลือกที่จะแก้ปัญหาที่รากฐาน ตัดสินใจหยุดการพัฒนาชั่วคราวและนำมาตรฐานสากล “ISO 29110” มาวางเป็นโครงสร้างการทำงานใหม่ทั้งหมด

การลงทุนในครั้งนั้นช่วยถอดความรู้จาก “ตัวบุคคล” มาสู่ “ระบบขององค์กร” ทำให้เกิดกระบวนการและเอกสารที่ชัดเจน ตั้งแต่การเก็บความต้องการลูกค้าไปจนถึงการส่งมอบซอฟต์แวร์ ZUPPORTS จึงกลายเป็นองค์กรที่แข็งแกร่ง มีระบบรองรับการเติบโต และไม่หวั่นไหวกับการเปลี่ยนแปลงด้านบุคลากรอีกต่อไป

หลังผ่านพ้นมรสุม ZUPPORTS กลับมาเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ก้องกิติกล่าว่า ปัจจุบัน ZUPPORTS เปิดให้บริการมาแล้วกว่า 5 ปี มีผู้ใช้งานใน Ecosystem มากกว่า 100 บริษัทนำเข้า-ส่งออก พาร์ทเนอร์โลจิสติกส์กว่า 30 ราย และมีผู้ขายในระบบกว่า 2,000 บริษัท โดยมีทั้งบริษัทไทยและบริษัทต่างชาติที่จดทะเบียนในไทยเป็นลูกค้าหลัก

การเข้ามาของ ZUPPORTS ไม่เพียงแต่ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพให้ผู้ใช้งาน แต่ยังสร้างแรงกระเพื่อมต่อทั้งอุตสาหกรรม โดยการสร้างความโปร่งใสด้านราคา ทำให้เกิดการแข่งขันที่สมเหตุสมผลมากขึ้น และเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก (SMEs) สามารถเข้าถึงบริการขนส่งระหว่างประเทศที่มีประสิทธิภาพในราคาที่แข่งขันได้

โมเดลรายได้ของ ZUPPORTS มาจาก 2 ส่วนหลัก คือค่าบริการรายเดือน/รายปี (SaaS fee) และค่าคอมมิชชั่นจากธุรกรรมที่เกิดขึ้นบนแพลตฟอร์ม โดยมี SCG และนักลงทุนเชิงกลยุทธ์ในธุรกิจโลจิสติกส์ร่วมถือหุ้น และผู้ก่อตั้งทั้งสามยังคงเป็นผู้ถือหุ้นหลัก

ปักธงไทยสู่เวทีโลก 

ก้องกิติ กล่าวว่า แผนขั้นต่อไปของ ZUPPORTS คือการยึดตลาดประเทศไทยให้แข็งแกร่ง ก่อนจะระดมทุนระดับ Series A ประมาณ 5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในช่วงต้นปี 2569 เพื่อขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ โดยมีเป้าหมายหลักที่ญี่ปุ่นและกลุ่มประเทศอาเซียน

ปณิธานของผู้ก่อตั้งทั้งสามสะท้อนเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่าความสำเร็จทางธุรกิจ เขาตั้งเป้าว่าอยากให้สินค้าไทยไปขายได้ทั่วโลกเหมือน Alibaba

ก้องกิติ กล่าวว่า “อยากพิสูจน์ให้ต่างชาติเห็นว่า คนไทยก็สร้างแพลตฟอร์มระดับโลกได้ ไม่ได้ด้อยไปกว่าใคร และการที่เราไปได้ มันหมายถึงการพาผู้ประกอบการไทยไปด้วยกัน”

เรื่องราวของ ZUPPORTS เป็นมากกว่าความสำเร็จของสตาร์ตอัพหนึ่งราย แต่มันคือภาพแทนของการปฏิวัติอุตสาหกรรมเก่าแก่ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล และเป็นข้อพิสูจน์อันทรงพลังว่า การเริ่มต้นจากความล้มเหลวในองค์กรใหญ่ สามารถแปรเปลี่ยนเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ได้ ขอเพียงมีสามสิ่ง คือ ความเข้าใจในปัญหาอย่างแท้จริง ทีมที่ยอดเยี่ยม และความมุ่งมั่นไม่ย่อท้อ เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนให้กับประเทศ

บทสัมภาษณ์อื่น ๆ ที่น่าสนใจ

เมื่อโทรศัพท์ดังกลายเป็นภัย: ‘แมนวู จู’ กับภารกิจสร้างโลกการสื่อสารที่ไว้วางใจได้ของ Gogolook

‘สันติ โหลทอง’ กับบทบาทอีสปอร์ตไทยบนเวทีโลก

“เศรษฐศิริ เศรษฐภากรณ์” กับภารกิจขับเคลื่อน กรุงศรี นิมเบิล สู่ความเป็นเลิศ

×

Share

ผู้เขียน