ธนาคารไทยพาณิชย์ หนุนเอสเอ็มอียกระดับธุรกิจสู่ความยั่งยืน เดินหน้าโครงการ “เริ่ม เพื่อ รอด” อัดฉีดสินเชื่อเพื่อความยั่งยืนปีละ 2,000 ล้านบาท ทั้งผนึกภาครัฐมอบแคมเปญพิเศษค่าปรึกษาทางด้านการปรับตัวธุรกิจ พร้อมเปิดตัว Mentor 4 Sustainability นำรัฐ-เจ้าของกิจการที่เชี่ยวชาญด้านความยั่งยืน ร่วมถ่ายทอดประสบการณ์ตรงและเทคนิคการวางยุทธศาสตร์การทำงาน หวังสร้างผลลัพธ์ได้เร็วและเป็นรูปธรรม ตั้งเป้าเอสเอ็มอีเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืนไม่น้อยกว่า 1,000 กิจการ
พิกุล ศรีมหันต์ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอี ธนาคารไทยพาณิชย์กล่าวว่า ธุรกิจเอสเอ็มอียังคงเผชิญความท้าทายสำคัญจากราคาพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์ผันผวน ตามด้วยต้นทุนค่าแรงที่ปรับเพิ่มขึ้น ขณะที่ความกังวลทางเศรษฐกิจ ทำให้สถาบันการเงินเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ รวมถึงการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นจากคู่แข่งใหม่ๆ
ธนาคารไทยพาณิชย์มุ่งเน้นการให้ความช่วยเหลือลูกค้าเพื่อปรับตัวรับกับความท้าทายเสมอมา ทั้งในรูปแบบสินเชื่อ การจัดกิจกรรมสัมมนาและหลักสูตรการให้ความรู้ต่างๆ ส่งผลให้การบริหารจัดการคุณภาพพอร์ตสินเชื่อลูกค้าเอสเอ็มอีมีประสิทธิภาพ โดย ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2567 พอร์ตสินเชื่อลูกค้าเอสเอ็มอีมีจำนวน 250,893 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นสินเชื่อเอสเอ็มอีปล่อยใหม่อยู่ที่ 4 หมื่นล้านบาท
ทั้งยังมีอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพปรับตัวดีขึ้น มีหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อยู่ที่ 2.9% และมั่นใจว่าจะคงที่ในระดับนี้ไปจนถึงสิ้นปีนี้ ซึ่งเมื่อเทียบกับสิ้นปี 2566 NPL อยู่ที่ 3.2%
สถานการณ์ที่ดีขึ้นของลูกค้า สืบเนื่องจากตั้งแต่ช่วงโควิดถึงปัจจุบัน ธนาคารหนุนช่วยลูกค้าปรับโครงสร้างหนี้รวมมูลค่า 5 หมื่นล้านบาท ปัจจุบันมีสัดส่วนลูกค้าที่ยังต้องช่วยเหลือลดลง รวมมูลค่าประมาณ 3,500 ล้านบาท
เอสเอ็มอีต้องปรับตัวสู่ความยั่งยืน
อย่างไรก็ตาม แม้ไม่มีข้อกำหนด แต่เอสเอ็มอีทั้งหลายต่างต้องเผชิญคลื่นความท้าทายใหม่ที่กำลังสร้างผลกระทบ คือ การปรับตัวการดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับแนวคิดดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม-สังคม-ธรรมาภิบาล (ESG) เพราะเอสเอ็มอีเป็นส่วนใหญ่ของซัพพลายเชนที่ต้องปรับตัวตามธุรกิจขนาดใหญ่ หากไม่เร่งดำเนินการจะเสียโอกาสทางการค้าและสูญเสียขีดความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว
ทั้งนี้ จากการทำกิจกรรมร่วมกับเอสเอ็มอีในหลักสูตรต่างๆ ที่ผ่านมา พบว่า จุดอ่อนของเอสเอ็มอีในการปรับตัวเข้าสู่กระแส ESG มี 5 ข้อใหญ่ ๆ ได้แก่ 1. ขาดความรู้และความเข้าใจ 2. กังวลต่อต้นทุนที่จะสูงขึ้นจากการปรับตัว 3. เงินทุนและสภาพคล่องที่อาจไม่เพียงพอ 4. คู่ค้ายังไม่ให้ความสำคัญและอาจจะยังไม่เห็นผลกระทบ และ 5. ความตระหนักรู้ของพนักงานค่อนข้างจำกัด
“กลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอี ธนาคารไทยพาณิชย์ให้ความสำคัญในการสนับสนุนให้ลูกค้าปรับตัวอย่างต่อเนื่องด้วยกิจกรรมสร้างความตระหนักรู้และความเข้าใจด้านความยั่งยืน อาทิ โครงการ Bootcamp โครงการ IEP โครงการ DSM โครงการ IBE โครงการ The Dots โครงการ ITP และล่าสุด โครงการ Phuket ESG Start Now ซึ่งมีผู้ประกอบการมากกว่า 1,000 รายจากหลากหลายอุตสาหกรรมผ่านการอบรมการปรับตัวสู่ความยั่งยืน”
จัดสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อความยั่งยืน
นอกจากนี้ ธนาคารได้นำเสนอสินเชื่อเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Financing) ดอกเบี้ยต่ำกว่าสินเชื่อทั่วไป เพื่อให้ผู้ประกอบการนำไปยกระดับการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม อาทิ การติดตั้งโซลาร์เซลล์ในกิจการ การจัดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า การติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน การเปลี่ยนขยะให้เป็นพลังงาน การติดตั้งระบบบำบัดน้ำเสียและบำบัดมลพิษ โดยนับตั้งแต่ปี 2566 จนถึงปัจจุบัน ธนาคารอนุมัติวงเงินสินเชื่อไปจำนวนมากกว่า 3,000 ล้านบาท
จากแนวคิดธนาคารไทยพาณิชย์ “อยู่ อย่าง ยั่งยืน” เป็นหลักปฏิบัติที่จะนำการเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืนให้เกิดขึ้นแก่ทุกภาคส่วน กลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอี พร้อมสานต่อแนวคิดดังกล่าว โดยประกาศแนวทาง “เริ่ม เพื่อ รอด” ให้แก่ลูกค้าเอสเอ็มอีสู่การเป็นธุรกิจสีเขียวอย่างยั่งยืน ประกอบด้วย
โครงการสินเชื่อเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Financing) ดอกเบี้ยพิเศษ 3.99% ต่อปี และโครงการที่ปรึกษาทางธุรกิจ SCB SME Mentor รุ่นที่ 4 Sustainability เป็นที่ปรึกษาให้ธุรกิจเอสเอ็มอีก้าวข้ามผ่านสู่ความยั่งยืน โดยผนึกกำลัง 3 หน่วยงานรัฐ คือ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (หรือ NIA) และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) และบริษัทเอกชน 1 แห่งคือ บริษัท แพค คอร์ปอเรชั่น จำกัด

การผนึกกำลังครั้งนี้ เพื่อร่วมกันนำความรู้ ประสบการณ์ และเชี่ยวชาญการสร้างความยั่งยืนในธุรกิจและใส่ใจดูแลสิ่งแวดล้อมให้แก่นักธุรกิจเอสเอ็มอีรายอื่นๆ เพื่อร่วมวางยุทธศาสตร์การสร้างความยั่งยืนแก่ธุรกิจเอสเอ็มอีในระยะยาว รวมถึงการให้ทุนสนับสนุนเอสเอ็มอีเปลี่ยนสู่ความยั่งยืน เช่น การร่วมมือกับภาครัฐ ได้แก่ สสว. จัดแคมเปญเพื่อผู้ประกอบการเอสเอ็มอี โดยสนับสนุนค่าบริการสนับสนุนด้านการพัฒนาธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการยกระดับผู้ประกอบการอย่างยั่งยืน หรือ ESG วงเงินช่วยเหลือ อุดหนุนแบบไม่มีเงื่อนไขการชำระคืน (Grant) สูงสุดรายละไม่เกิน 200,000 บาทต่อปี รวมทั้งหมดไม่เกิน รายละ 500,000 บาทต่อนิติบุคคล โดยมี SCB เป็นช่องทางหลักในการ ทำให้ผู้ประกอบการเข้าถึงการสนับสนุนดังกล่าว
“การปรับตัวเพื่อรับกับกระแส ESG ต้องดำเนินการควบคู่ทั้งการอบรมให้ความรู้ การให้คำปรึกษาและการช่วยเหลือทางการเงินเพื่อเสริมสภาพคล่อง ด้วยแนวทาง “เริ่ม เพื่อ รอด” จะมีส่วนสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยเพิ่มความตระหนักรู้และเข้าใจถึงแนวทางการดำเนินธุรกิจยุคใหม่ที่ต้องคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล เอสเอ็มอีที่เริ่มก่อน มีโอกาสรอดก่อน และนำมาซึ่งโอกาสทางธุรกิจมากมาย อาทิ การเข้าถึงสินเชื่อที่มีต้นทุนทางการเงินต่ำ การส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดี การดึงดูดนักลงทุนและลูกค้ายุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับธุรกิจสีเขียว ตั้งเป้าจำนวนลูกค้าเอสเอ็มอีเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืนไม่น้อยกว่า 1,000 กิจการ และสินเชื่อเพื่อความยั่งยืน ประมาณปีละ 2,000 ล้านบาท”
เปิด 2 ประสบการณ์ ปรับแล้วรอด
ธนาคารยังนำผู้ประกอบการที่ปรับตัวแล้ว และประสบความสำเร็จ 2 รายร่วมถ่ายทอดประสบการณ์การดำเนินธุรกิจตามหลัก ESG คือ

บริษัท เอ็นจีเอ็ม – เอ็กซ์ จำกัด โดยกนกพงษ์ พงษ์ธรรมรักษ์ กรรมการผู้จัดการ เล่าว่า ได้เริ่มทำ Solution Down Gauging เป็นการลดปริมาณการใช้เม็ดพลาสติกในการผลิต โดยการใช้วัตถุดิบคุณภาพสูง ทำให้สามารถลดขนาดความหนาของพลาสติกลงได้ แต่ยังคงประสิทธิภาพดังเดิม

และบริษัท บีซีแอล 2002 จำกัด ผู้พัฒนาเส้นใยนวัตกรรม “PERMA Nano Zinc” ภายใต้แบรนด์ PERMA ซึ่งเชาว์ เมธาเพิ่มสุข Head of R&D ให้ข้อมูลว่า เส้นใยที่พัฒนาขึ้นมีคุณสมบัติช่วยลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรียได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ด้วยการฝัง Nano Zinc ลงในเนื้อเส้นใยโดยไม่ใช้สารเคลือบหรือโลหะหนัก จึงไม่หลุดลอกในระหว่างการใช้งาน
“ผลิตภัณฑ์ได้รับการรับรองจากการทดสอบ Cytotoxicity ตามมาตรฐาน ISO 10993-5 ซึ่งเป็นมาตรฐานความปลอดภัยทางการแพทย์ มั่นใจได้ว่าปลอดภัยต่อผู้ใช้และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเป็นวัตถุดิบการผลิตเครื่องนอน ผ้าเช็ดตัวที่ใช้ในโรงแรมชั้นนำ และผลิตภัณฑ์สิ่งทอที่ผลิตในต่างประเทศ”
การจัดงานแถลงข่าว “เริ่ม เพื่อ รอด” จัดขึ้นในรูปแบบสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral Event) ด้วยการดำเนินกิจกรรมภายในงานในรูปแบบคาร์บอนต่ำ อาทิ การเลือกใช้วัสดุรีไซเคิลหรือย่อยสลายได้ในการจัดงาน การจัดอาหารและเครื่องดื่มด้วยภาชนะที่สามารถใช้ซ้ำและบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การแนะนำการเดินทางด้วยระบบสาธารณะ โดยแสดงผลการคำนวณคาร์บอนฟุตพรินต์จากการเดินทางของผู้ที่เข้าร่วมงานจากการลงทะเบียนเข้างานล่วงหน้า และได้รับการตรวจสอบจากสถาบันที่น่าเชื่อถือ พร้อมกันนี้ ธนาคารจะซื้อคาร์บอนเครดิตจากชุมชนที่มีการแยกขยะ เพื่อนำมาชดเชยจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกิดขึ้นในงาน
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
KBTG ร่วมทัพ 3 สถานศึกษา เพื่อพัฒนา 3 หลักสูตรใหม่สำหรับการศึกษาไทย
นูทานิคซ์ ส่ง Nutanix Cloud Platform เปิดเกมรุก Cloud Native Application
นกกระเรียนฟื้นคืน พื้นที่ชุ่มน้ำ บุรีรัมย์ วัฏจักรหมุนเวียนเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ