ปัจจุบันเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามามีบทบาทสำคัญ ด้านการพัฒนาสังคมและมนุษย์มากขึ้น ตามแนวคิดของ “Cyborg Society” เทคโนโลยีไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือช่วยให้มนุษย์ทำงานง่ายขึ้นเท่านั้น แต่ยังเสริมสร้างศักยภาพทางความคิด การเรียนรู้ และการใช้ชีวิตให้ดียิ่งขึ้น หากเลือกใช้อย่างถูกวิธี ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อแทนที่มนุษย์ แต่เพื่อช่วยให้มนุษย์เป็นมนุษย์ได้ดีขึ้น ผ่านการสร้างแรงบันดาลใจ ความคิดสร้างสรรค์ และเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดสินใจ
ดร. พัทน์ ภัทรนุธาพร นักวิจัยไทยจากสถาบัน MIT Media Lab เผยวิสัยทัศน์เกี่ยวกับการผสมผสานระหว่างสิ่งมีชีวิตและเทคโนโลยี หรือที่เรียกว่า Bio + Digital ภายใต้แนวคิด “Cyborg Society” ซึ่งกล่าวถึงบทบาทของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงสังคมในอนาคต นับเป็นมุมมองใหม่ของการนำเทคโนโลยีเข้ามาประยุกต์ใช้ในสังคมโลก โดยให้มุมมองว่า “ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ไม่ได้มาแทนที่มนุษย์ แต่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเสริมศักยภาพมนุษย์ ทำให้มนุษย์มีความสามารถที่ดียิ่งขึ้น”
AI อาจลดคุณค่าความเป็นมนุษย์ แนะควรออกแบบ AI ด้วย Cyborg Psychology เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน
ล่าสุด ผลการวิจัยจาก MIT “Cyborg Psychology Designing and Evaluating Human-AI Systems for Human Flourishing” พบว่า การนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ ไม่ได้เพิ่มศักยภาพของมนุษย์ตามที่คาดหวัง หากไม่ได้คำนึงถึงพฤติกรรมและจิตวิทยามนุษย์ ย้ำชัดจำเป็นต้องเร่งพัฒนาแนวทางการออกแบบ AI ที่ผสมผสานกับมนุษย์ให้สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Cyborg Psychology เป็นแนวคิดที่ผสมผสานเทคโนโลยี AI กับจิตวิทยามนุษย์ เพื่อให้เทคโนโลยีสามารถทำงานร่วมกับมนุษย์ได้อย่างกลมกลืน แนวคิดนี้เน้นการออกแบบระบบ AI ที่เข้าใจพฤติกรรมและความต้องการของมนุษย์ โดยไม่ทำให้สูญเสียคุณค่าความเป็นมนุษย์ในระยะยาว
ผลการสำรวจจาก MIT ระบุถึงความเสี่ยงของ AI ดังนี้
- การลดทักษะ (Deskilling) การพึ่งพา AI มากเกินไป อาจทำให้ทักษะของมนุษย์ลดลง
- การตัดขาดจากการเชื่อมต่อ (Disconnection) AI อาจลดความสัมพันธ์และการเชื่อมต่อของมนุษย์ในสังคม
- การเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือน (Disinformation) ระบบ AI ที่ไม่มีการออกแบบอย่างเหมาะสมอาจเป็นแหล่งข้อมูลที่ไม่น่าเชื่อถือ
- การลดคุณค่าความเป็นมนุษย์ (Dehumanization) การมองมนุษย์เป็นเพียงส่วนประกอบในระบบ AI อาจทำให้สูญเสียความเป็นมนุษย์ที่แท้จริง
แนวทางการออกแบบ AI ที่เหมาะสม
การออกแบบ AI ต้องพิจารณาถึงจิตวิทยาและพฤติกรรมของมนุษย์ ร่วมกับการเข้าใจกระบวนการทำงานของ AI ผ่านศาสตร์ Cyborg Psychology โดยเน้นให้ AI สามารถทำงานร่วมกับมนุษย์อย่างกลมกลืน และสร้างผลผลิต (output) ที่เป็นประโยชน์และตอบสนองต่อพฤติกรรมที่มนุษย์ต้องการ การออกแบบระบบ AI ต้องมี 4 ขั้นตอนหลัก
- เข้าใจ (Understand) สำรวจจิตวิทยาของการปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และ AI และผลกระทบที่มีต่อกระบวนการคิดและพฤติกรรมที่สำคัญ
- ออกแบบ (Design) สร้างต้นแบบที่ส่งเสริมปัญญา (Wisdom) ความมหัศจรรย์ (Wonder) และความเป็นอยู่ที่ดี (Wellbeing) เพื่อออกแบบให้มนุษย์และ AI สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- พัฒนา (Develop) สร้างแพลตฟอร์มและเทคนิคที่เสริมศักยภาพให้นักวิจัยสามารถออกแบบ AI เพื่อการพัฒนาที่ดีของมนุษย์
- ประเมิน (Evaluate) กำหนดวิธีการวิจัยที่เข้มงวดและหลากหลายเพื่อประเมินระบบมนุษย์+AI อย่างครอบคลุม
แนวทางที่เสนอ (Proposed Approach)
การออกแบบระบบ AI ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ต้องผสานพฤติกรรมของมนุษย์และปัญญาประดิษฐ์เข้าด้วยกัน การไม่เข้าใจมนุษย์อย่างลึกซึ้งในกระบวนการออกแบบ AI อาจก่อให้เกิดผลกระทบระยะยาว เช่น การลดทักษะและความเชื่อมโยงของมนุษย์ ดังนั้น Cyborg Psychology จึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาระบบที่สอดคล้องกับความต้องการของมนุษย์ และสร้างอนาคตที่ยั่งยืน
– “ดร.พัทน์ ภัทรนุธาพร” Postdoc จาก MIT กับสมการ “โดราเอมอน=AI+จิตวิทยา”
จากรากฐานอดีต IA สู่อนาคตแห่ง AI เส้นทางการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อเสริมศักยภาพมนุษย์
เดิมอดีตมีแนวคิดที่คล้ายคลึงกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในปัจจุบัน เช่น แนวคิดเรื่องการใช้เทคโนโลยีเพื่อเสริมสร้างความสามารถของมนุษย์ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์หลายคนได้พูดถึงแนวทางเหล่านี้มานานแล้ว แต่สิ่งที่แตกต่างคือแนวคิด Intelligence Augmentation (IA) ที่ไม่ได้มุ่งเพียงแค่ให้เทคโนโลยีทำงานแทนมนุษย์ แต่เน้นการเสริมสร้างและสนับสนุนการพัฒนาทางปัญญาและสังคมของมนุษย์ให้ดียิ่งขึ้น โดยแบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอนหลัก
- Artificial Intelligence (AI) – ปัญญาประดิษฐ์ หมายถึง ระบบที่มีความสามารถในการทำงานได้อย่างอัตโนมัติ
- Intelligence Augmentation (IA) – การเพิ่มศักยภาพปัญญา หมายถึง ระบบที่เพิ่มศักยภาพทางความคิดของมนุษย์
- AI for Human Flourishing – AI เพื่อการพัฒนาของมนุษย์ หมายถึง ระบบที่สนับสนุนการพัฒนาและเติบโตของมนุษย์ในหลายมิติ
เป้าหมายสำคัญ คือการสร้างระบบที่ไม่เพียงแค่ทำงานแทนมนุษย์ แต่ช่วยเพิ่มศักยภาพและสนับสนุนการพัฒนาทางปัญญาและสังคมของมนุษย์ให้ดียิ่งขึ้น
ไอเดียโลกอนาคต “AI ช่วยเสริมศักยภาพมนุษย์ให้เติบโตอย่างมีคุณภาพใน 3 มิติหลัก” – สติปัญญา (Wisdom) แรงบันดาลใจ (Wonder) และความเป็นอยู่ที่ดี (Wellbeing)
มิติที่ 1 Wisdom สติปัญญา “ระบบการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดสินใจ”
ทำอย่างไรให้มนุษย์มีสติปัญญามากขึ้น สามารถเลือกใช้กระบวนการตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง ถูกที่และถูกเวลา? ยกตัวอย่างเช่น
- Towards Enhanced Human Rationality Through A Collaboration with Explainable AI Assistant (มุ่งสู่การเสริมสร้างความมีเหตุผลของมนุษย์ผ่านการทำงานร่วมกันกับผู้ช่วย AI ที่อธิบายได้) Valdemar Danry, Pat Pataranutaporn, Yaoli Mao, Pattie Maes Published in ACM Augmented Humans 2020
การนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาเป็นสมองที่ 2 ของมนุษย์ ยกตัวอย่างเช่น การนำ (AI) ใส่ลงไปในแว่นตาหรืออุปกรณ์อัจฉริยะ (Smart Devices) AI จะมีการตอบโต้เมื่อมนุษย์ได้ยินข่าวปลอมหรือสิ่งอันตรายอย่างเป็นเหตุเป็นผล “ผลวิจัย MIT ระบุว่า การนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาทำสิ่งนี้ส่งผลให้มนุษย์ตัดสินใจได้ดีขึ้น มีแนวโน้มการเห็นด้วยกับข้อมูลที่เป็นเหตุเป็นผล และเห็นด้วยน้อยลงกับข้อมูลที่ไม่เป็นเหตุเป็นผล”
- Don’t just tell me, ask me: AI systems that intelligently frame explanations as questions improve human logical discernment accuracy over causal AI explanations (อย่าแค่บอกฉัน ถามฉันด้วย – ระบบ AI ที่จัดกรอบคำอธิบายเป็นคำถามอย่างชาญฉลาดช่วยปรับปรุงความแม่นยำในการวิเคราะห์เหตุผลของมนุษย์ เมื่อเทียบกับคำอธิบายเชิงเหตุผลจาก AI ระบบปกติ) Valdemar Danry, Pat Pataranutaporn, Yaoli Mao, Pattie Maes Published in ACM CHI 2022
การนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ในกระบวนการตัดสินใจแบบถามกลับ หรือการตั้งคำถามกลับไปหาคนๆ นั้น ยกตัวอย่างเช่น เขาเรียนรู้ได้ดีแค่ไหน หรือเขาเรียนรู้อะไรบ้าง “ผลวิจัย MIT ระบุว่า การใช้ AI เข้ามาตั้งคำถามช่วยลดตรรกะวิบัติ หรือการที่คนทำอะไรแบบไม่ทันคิด และสามารถช่วยกระตุ้นการมี Critical Thinking ได้”
มิติที่ 2 Wonder แรงบันดาลใจ “ระบบการปรับให้เหมาะสมเฉพาะบุคคล เพื่อการเรียนรู้เกี่ยวกับตนเองและโลกอย่างมีประสิทธิภาพ”
ทำอย่างไรให้มนุษย์มีแรงบันดาลใจมากขึ้น? ยกตัวอย่างเช่น
- AI-generated virtual instructors based on liked or admired people can improve motivation and foster positive emotions for learning. (ครูสอนเสมือนที่สร้างโดย AI ซึ่งอิงจากบุคคลที่ชื่นชอบหรือชื่นชม ส่งผลให้สามารถเพิ่มแรงจูงใจและส่งเสริมอารมณ์เชิงบวกสำหรับการเรียนรู้) Pat Pataranutaporn, Joanne Leong, Valdemar Danry, Alyssa P. Lawson, Pattie Maes, Misha Sra Published in IEEE Frontier in Education (IEEE FIE) 2022
การนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาสร้างคาแรคเตอร์เป็นบุคคลที่ชื่นชอบหรือชื่นชมเช่น EINSTEIN, MONROE, HARRY POTTER เพื่อให้เด็กมีแรงบันดาลใจและเรียนรู้ “ผลวิจัย MIT ระบุว่า เด็กที่เรียนรู้กับคาแรคเตอร์ที่เขาชื่นชอบส่งผลให้มีแนวโน้มผลการเรียนดีขึ้น ตื่นเต้นกับการเรียนมากขึ้น”
- Effects of Proactive Interaction and Instructor Choice in AI-Generated Virtual Instructors for Financial Education (การเลือกผู้สอนในครูเสมือนที่สร้างโดย AI สำหรับการศึกษาด้านการเงิน) Thanawit Prasongpongchai, Pat Pataranutaporn, Auttasak Lapapiroj, Chonnipa Kanapornchai, Joanne Leong, Pichayot Ouppaphan, Kavin Winson, Monchai Lertsutthiwong, Pattie Maes Under Review at IEEE FIE 2024
การนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาสร้างคาแรคเตอร์เพื่อเป็นสื่อสอนเรื่องการเงิน “ผลวิจัย MIT ระบุว่า เด็กที่มีการสื่อสารกับคาแรคเตอร์บ่อยที่สุด ส่งผลให้มีการเรียนรู้เรื่องการเงินที่ดีขึ้น”
– KBTG Fellowship โมเดลขับเคลื่อนประเทศไทย ร่วมสร้างเทคโนโลยีโลกอนาคต
ดังนั้นจะเห็นได้ว่า AI มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมแรงบันดาลใจและช่วยให้มนุษย์เรียนรู้ได้ดีขึ้น โดยการศึกษาถือเป็นปัจจัยหลักในการพัฒนาประเทศ ดังนั้น AI ไม่ได้มาแทนที่ระบบการศึกษา แต่เข้ามาช่วยให้การศึกษาเป็นกระบวนการที่สนุกสนานและน่าสนใจยิ่งขึ้น
มิติที่ 3 Wellbeing ความเป็นอยู่ที่ดี “ระบบการสนับสนุนสุขภาพจิตและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม”
ทำอย่างไรให้มนุษย์มีสุขภาพที่ดีขึ้น? ยกตัวอย่างเช่น
- Future You: A Conversation with an AI-Generated Virtual Future Self Reduces Anxious Feelings and Increases Motivation (คุณในอนาคต: การสนทนากับตัวตนเสมือนในอนาคตที่สร้างโดย AI ช่วยลดความกังวลและเพิ่มแรงจูงใจ)Pat Pataranutaporn, Kavin Winson, Peggy Yin, Auttasak Lapapiroj, Pichayot Ouppaphan, Monchai Lertsutthiwong, Pattie Maes, Hal Hershfield Under review at IEEE Frontier in Education (IEEE FIE)
การนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาสร้าง Time Machine ที่ช่วยให้มนุษย์สามารถสนทนากับตัวตนในอนาคตของตนเองได้ หรือสร้างตัวแทนในอนาคต เพื่อสนทนากับตัวเราปัจจุบัน ยกตัวอย่างเช่น นักเรียนที่ยังไม่แน่ใจว่าจะประกอบอาชีพใด หากเลือกที่จะประกอบอาชีพหมอ ทหาร หรือตำรวจ เราจะรู้สึกชอบหรือไม่ ซึ่ง AI จะจำลองอนาคตดังกล่าว และช่วยให้เราได้เห็นและพูดคุยกับตัวเองในเวอร์ชันนั้นๆ “ผลวิจัยของ MIT ระบุว่า มนุษย์มีการคิดระยะยาวมากขึ้น มองเห็นภาพอนาคตได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ลดความเครียด และทำให้สิ่งที่ไม่แน่นอนมีความเป็นไปได้มากขึ้น”
- AI Theatre: Interactive Conversational Interfaces with Virtual Agents Can Increase Confidence and Self-Efficacy in Devising Solutions for Interpersonal Conflict Scenarios (การสนทนาเชิงโต้ตอบกับตัวแทนเสมือน AI สามารถเพิ่มความมั่นใจและความสามารถในตนเอง ในการหาแนวทางแก้ไขความขัดแย้งระหว่างบุคคล) D Pillis, Pat Pataranutaporn, Misha Sra, Pattie Maes To Appear in ACM IUI 2024 / Under Review at ACM DIS 2024
การนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาผนวกกับความคิดเห็นถึงสังคมในอนาคต เช่นการบูลลี่กันภายในสังคม การกีดกันคนอื่น เพศ หน้าตา ฐานะ การนำ AI มาจำลองการสนทนาเชิงโต้ตอบกับตัวแทนเสมือนจะช่วยกระตุ้นให้มนุษย์เห็นอกเห็นใจผู้อื่นมากขึ้น มีความสามารถในการช่วยเหลือผู้อื่นมากขึ้น “ผลวิจัย MIT ระบุว่า การนำ AI มาสร้างสิ่งเหล่านี้ทำให้คนมีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นมากขึ้น มีความพร้อมในการแก้ไขปัญหาในชีวิตจริงได้”
นอกจากนี้ การใช้เทคโนโลยีเช่น AI ยังสามารถเปลี่ยนแปลงและส่งเสริมวัฒนธรรมไปสู่อนาคต ตัวอย่างเช่น แอปพลิเคชันหนังตะลุงที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สร้างหนังตะลุงในแบบของตนเอง ช่วยให้วัฒนธรรมไทยยังคงอยู่และปรับตัวไปตามยุคสมัย หรือการสร้าง AI ที่เรียนรู้นาฏศิลป์ไทย ซึ่งสามารถนำท่ารำใส่ลงไปใน AI เพื่อสร้างการเต้นคู่กับนักเต้นจริง เป็นการนำวัฒนธรรมท้องถิ่นไปสู่ความร่วมสมัยและอนาคตอย่างสร้างสรรค์
จากผลการวิจัยทั้งหมดนี้ เป็นกระบวนการออกแบบ AI ที่สอดคล้องกับหลักจิตวิทยา (Conceptualizing Cyborg Psychology) โดยไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อเข้ามาแทนที่มนุษย์ แต่เพื่อช่วยส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของมนุษย์ให้ดีขึ้นในทุกด้าน
อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญของการพัฒนาแนวคิดจิตวิทยาไซบอร์ก (Cyborg Psychology) คือการเข้าใจพฤติกรรมมนุษย์และวิธีการแก้ไขพฤติกรรมเหล่านั้น ซึ่งมีเป้าหมายในการส่งเสริมการเติบโตและความเป็นอยู่ที่ดีของมนุษย์ โดยเพิ่มขีดความสามารถผ่านการผสานเทคโนโลยี ที่สะท้อนถึงความสัมพันธ์ระหว่างสติปัญญาของมนุษย์กับปัญญาประดิษฐ์ (AI) และปัญญารูปแบบอื่น ๆ นอกจากนี้ แนวคิดไซบอร์กยังออกแบบมาเพื่อปลดปล่อยศักยภาพของมนุษย์ในการสำรวจ สร้างสรรค์ และคิดอย่างอิสระ (Manfred E. Clynes & Nathan S. Kline, 1960)
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
“รู้งี้” กับดักทางการเงิน: เมื่อความฝันมีบ้านกลายเป็นหนี้ท่วมหัว
วิเคราะห์เมืองโคราชผ่านเครื่องมือ Social Listening เครื่องมือฟังเสียงผู้บริโภคบนโซเชียลมีเดีย
โอกาสของโคราชในการพัฒนาเป็น Smart City ผ่านการแก้ปัญหาด้านการคมนาคม