Share on
×

Share

IBM จับมือ L’Oréal สร้างโมเดล AI ต่อยอดการสร้างสรรค์เครื่องสำอางอย่างยั่งยืน

IBM ประกาศความร่วมมือกับ L’Oréal บริษัทความงามชั้นนำ ในการใช้เทคโนโลยี Generative Artificial Intelligence (GenAI) และความเชี่ยวชาญของ IBM เพื่อเปิดมุมมองเชิงลึกใหม่ ๆ สู่ข้อมูลการพัฒนาสูตรเครื่องสำอาง ช่วยให้ L’Oréal ใช้วัตถุดิบที่ยั่งยืนเพื่อลดการใช้พลังงานและลดของเสียจากกระบวนการผลิต

ความร่วมมือครั้งนี้จะนำสู่การพัฒนา AI foundation model ที่ออกแบบเฉพาะ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้ทีมวิจัยและนวัตกรรมของ L’Oréal สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางในทุกประเภทและทุกภูมิภาคทั่วโลกได้ด้วยศักยภาพเหนือระดับ โดย foundation model ด้านการพัฒนาสูตรนี้เชื่อว่าจะเป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรม ถือเป็นการกำหนดนิยามใหม่ให้กับนวัตกรรม AI ที่ผสานความงาม วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน

ความร่วมมือนี้ถือเป็นการผสมผสานความเชี่ยวชาญด้านศาสตร์เครื่องสำอางของ L’Oréal เข้ากับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ของ IBM เพื่อการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ และจะสามารถช่วยกำหนดหรือจัดลำดับความสำคัญให้กับโซลูชันที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกันก็มีนวัตกรรมด้วยเช่นกัน โดยจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมองถึงการใช้วัตถุดิบที่สามารถหมุนเวียนได้และมาจากแหล่งที่ยั่งยืนในการพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับผู้บริโภค เพื่อรักษาทรัพยากรธรรมชาติของโลกให้คงอยู่ ความพยายามนี้จะช่วยให้ L’Oréal บรรลุเป้าหมาย L’Oréal for the Future ในการพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่โดยใช้วัตถุดิบจากแหล่งชีวภาพหรือเศรษฐกิจหมุนเวียนภายในปี 2573

สเตฟาน ออร์ติซ Head of Innovation Métiers & Product Development – L’Oréal Research & Innovation กล่าวว่า “ความร่วมมือนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันของเรา ที่จะช่วยเร่งสปีดและขยายไปป์ไลน์ด้านกระบวนการนวัตกรรมและการพัฒนาสูตร พร้อมยกระดับมาตรฐานด้านการยอมรับความแตกต่าง-หลากหลาย ความยั่งยืน และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อตอบโจทย์เฉพาะของแต่ละบุคคล”

อเลสซานโดร คูริโอนี IBM Fellow, Vice President Europe and Africa and Director IBM Research Zurich กล่าว “การใช้เทคโนโลยี AI ล่าสุดของ IBM จะช่วยให้ L’Oréal สามารถถอดรหัสข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณค่าจากข้อมูลสูตรและผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่มากมาย เพื่อสร้างโมเดล AI เฉพาะที่จะช่วยให้บรรลุเป้าหมายการดำเนินงานและการพัฒนาผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงที่ยั่งยืน”

กิลโยม เลอรัว-เมลีน IBM Distinguished Engineer, Business Transformation Services CTO ของ IBM Consulting ฝรั่งเศส กล่าวว่า “ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นการผนวกรวมความเชี่ยวชาญเฉพาะทางในด้านปัญญาประดิษฐ์และเครื่องสำอาง ที่นำสู่การสร้างการพลิกโฉมการพัฒนาสูตรเครื่องสำอาง ถือเป็นการนำพลังของการวิจัยที่เน้น AI-augmented เข้าสนับสนุนความยั่งยืนและความหลากหลาย”

การสร้างโมเดล AI นี้จะใช้สูตรและข้อมูลส่วนประกอบจำนวนมากเพื่อเร่งสปีดภาระงานในหลาย ๆ ด้านที่จะดำเนินการโดย L’Oréal รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ การพัฒนาสูตรใหม่ของเครื่องสำอางที่มีอยู่ และการปรับระบบให้รองรับการผลิตในสเกลที่ใหญ่ขึ้น เครื่องมือเหล่านี้จะช่วยเสริมศักยภาพนักวิจัย 4,000 คนทั่วโลกของ L’Oréal ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

นอกจากนี้ IBM Consulting จะสนับสนุน L’Oréal ในการคิดค้นและออกแบบกระบวนการการค้นพบสูตรใหม่ โดยการเข้าใจคุณลักษณะของส่วนประกอบที่สามารถหมุนเวียนได้ในสูตรเครื่องสำอางจะช่วยให้ L’Oréal สร้างผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืนมากขึ้นพร้อมทั้งตอบสนองความหลากหลายและการพัฒนาผลิตภัณฑ์เฉพาะสำหรับแต่ละบุคคลให้กับผู้บริโภคทั่วโลก

Foundation model เป็นประเภทของโมเดล AI ที่ถูกฝึกด้วยชุดข้อมูล unlabeled ซึ่งสามารถจัดการกับภาระงานได้หลายอย่างและประยุกต์ใช้ข้อมูลจากสถานการณ์หนึ่งไปยังอีกสถานการณ์หนึ่งได้ โมเดลเหล่านี้สร้างความก้าวหน้าให้กับเทคโนโลยีประมวลผลภาษาธรรมชาติ (NLP) อย่างมีนัยสำคัญในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และ IBM กำลังเป็นผู้นำในการประยุกต์ใช้ foundation model ในด้านอื่น ๆ เช่น เคมี ชุดข้อมูลลำดับเวลา และข้อมูลเชิงพื้นที่ เทคโนโลยี AI ของ IBM มีศักยภาพในการเสริมความคิดสร้างสรรค์ของ L’Oréal ในการค้นหาสูตรเครื่องสำอางใหม่ ๆ เพื่อทรานส์ฟอร์มอุตสาหกรรมความงาม L’Oréal

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

วางแผนการเงินตามช่วงวัย เริ่มต้นการลงทุนปีใหม่ให้ดีกว่าเดิม

×

Share

แท็กที่เกี่ยวข้อง

ผู้เขียน