Share on
×

Share

วางแผนการเงินตามช่วงวัย เริ่มต้นการลงทุนปีใหม่ให้ดีกว่าเดิม

สวัสดีปีใหม่ 2568 ครับ ผมขอเป็นตัวแทนทีมงาน Jitta Wealth ทุกคน มาร่วมสวัสดีปีใหม่และอวยพรให้คุณคนสำคัญของเราและครอบครัว ประสบพบเจอแต่สิ่งดี ๆ และขอให้พวกเราทุกคนมีความมุ่งมั่นตั้งใจกับการลงทุนของเราไปเรื่อยๆ และเข้าใจหลักการลงทุนในระยะยาว เพราะผมเชื่อว่า จะนำคุณบรรลุผลสำเร็จตามที่ตั้งใจ ทำ ให้คุณเข้าใกล้เป้าหมายทางการเงินได้อย่างเร็วที่สุดในวันข้างหน้าครับ

ในช่วงปีที่ผ่านมา หลาย ๆ คนคงพบบทเรียนประสบการณ์การลงทุนหลาย ๆ อย่าง ผมพูดเสมอว่า ในโลกการลงทุนมีสิ่งที่เราได้เรียนรู้ จดจำและพัฒนาตัวเองอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นปีที่ตลาดหุ้นขึ้นหรือลงเราก็จะได้เรียนรู้บางอย่างและปรับปรุงให้การลงทุนของเราให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ผมขอต้อนรับปีใหม่ด้วยการชวนคุยเรื่องดี ๆ เบา ๆ ครับ และมาเริ่มทำสิ่งนี้เพื่อชีวิตที่ดีกว่าเดิมกันครับ นั่นก็คือ “การวางแผนการเงินการลงทุน” ของคนแต่ละ generation ว่าเป็นอย่างไรกันบ้าง และคุณกำลังอยู่ตรงไหนกันแล้ว!! ผมจะพาคุณได้เริ่มต้นปีอย่างดีที่สุดกันครับ

ทุกวันนี้ทุกคนยังเลือกเก็บเงินผ่านเงินฝากกับธนาคารเป็นหลัก เพราะรู้สึกมีสภาพคล่องตุนในมือและได้ดอกเบี้ยฝากด้วยแม้จะน้อยนักก็ตาม แต่มั่นใจว่าเราอยากจะใช้เมื่อไหร่ก็ถอนได้ไม่สะดุด เว้นแต่เงินหมดบัญชีซะก่อน!!

จริง ๆ แล้ว การเก็บเงินเฉย ๆ ไว้กับธนาคารก็ไม่ผิด แต่ก็ไม่ถูกครับ!

เป็นเรื่องถูกต้องที่คุณจะต้องมีเงินสำรองเผื่อยามฉุกเฉิน ซึ่งการเก็บไว้ในธนาคารเพื่อให้ปลอดภัย แต่! ถ้าคุณมีเงินออมเยอะมาก ๆ ก็ไม่ควรฝากกับธนาคารเป็นทั้งหมดของเงินที่คุณมีครับ เพราะว่า ยังมีวายร้ายอย่าง ‘เงินเฟ้อ’ ที่จะกัดกร่อนให้มูลค่าเงินของคุณลดลงอยู่เรื่อยๆ เงินที่มีจำนวนมากแต่กลับมีมูลค่าน้อยลง ​

วิธีป้องกัน คือ ต้องทำให้เงินค่อย ๆ เติบโตขึ้น แต่อยู่ ๆ จะให้นำเงินที่หามาอย่างยากลำบาก ออกไปสร้างผลตอบแทน ก็ชวนให้คิดหนักไม่น้อยเลยใช่มั้ยครับ เรามีทางออกสำหรับคนที่อยากได้ผลตอบแทนมากกว่าเงินฝาก แต่ไม่อยากเสี่ยงมาก ก็คือการลงทุนสินทรัพย์ต่าง ๆ แต่ละสินทรัพย์มีความเสี่ยงในการลงทุนแตกต่างกันไป

เราควรวางแผนการเงินการลงทุนแบบไหนดี ที่จะสามารถตอบโจทย์การทำให้เงินเติบโตในระยะยาวได้จริง โดยหลักการลงทุนที่ดี มี 2-3 ข้อครับ

เรื่องแรก เลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่มีคุณภาพและมีอนาคตเติบโตในระยะยาว สอง การกระจายการลงทุนทั้งในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงที่อยู่คู่กับความเสี่ยง ไปจนถึงสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนต่ำที่มาคู่กับความเสี่ยงต่ำ ซึ่งก็จะมีกลยุทธ์ในการจัดพอร์ตลงทุนที่ผมจะเล่าในตอนหลัง

สาม การลงทุนตั้งแต่อายุน้อย ๆ จะมีโอกาสลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงซึ่งมาคู่กับผลตอบแทนที่สูงตาม แม้ในบางปีขาดทุนบ้างกำไรบ้าง แต่เมื่อเวลาผ่านไป 20-30 ปี เงินต้นและผลตอบแทนค่อย ๆ งอกเงยทบต้นทบดอก เมื่อเข้าสู่ช่วงอายุมากขึ้นก็สามารถปรับพอร์ตเพื่อลดทอนความเสี่ยงลงและมุ่งรักษาเงินต้นและดอกผลจากการลงทุนไว้ในช่วงเกษียณ

ลักษณะของกลุ่มคน 4 Generations

ที่นี้เรามาดูลักษณะของกลุ่มคน 4 Generations ว่ามีพฤติกรรม ทัศนคติการใช้ชีวิต นิสัยการใช้เงินการออมเงิน เป็นอย่างไร และแต่ละช่วงวัย และแต่ละกลุ่มควรเตรียมพร้อมการลงทุนอย่างไรดี

กลุ่ม Baby Boomer หรือ Gen B จะเป็นที่คนเกิดช่วงปี พ.ศ. 2489-2507 หรือ อายุ 60 ปีขึ้นไป เริ่มเข้าสู่วัยสูงอายุ กลุ่มนี้เติบโตมากกับชีวิตทำงานหนักทุ่มเทให้กับองค์กร มีความอดทนสูงและอยู่ติดองค์กรนานเพื่อรอรับเงินเกษียณ คน Gen B มีสไตล์ conservative มีความรอบคอบในการดำเนินชีวิตอย่างมาก นิสัยการเงินจะเน้นประหยัด ระมัดระวังการใช้จ่าย เน้นเก็บเงินในธนาคารมากกว่าการลงทุน เพราะกลัวความเสี่ยงหลังผ่านร้อนผ่านหนาวมากับวิกฤติเศรษฐกิจและการเงินต่างๆ อย่างไรก็ตาม กลุ่ม Gen B ส่วนใหญ่จะหมดภาระหนี้ทั้งบ้านและรถ

รูปแบบการลงทุนของคนที่อยู่ในวัย Gen B ส่วนใหญ่มีเงินฝากก้อนใหญ่เลือกกินดอกเบี้ยฝากในบั้นปลายชีวิต เรียกว่าเป็นกลุ่ม play safe และพร้อมจะส่งต่อมรดกให้ลูกหลาน แต่สมัยนี้การฝากเงินกินดอกเบี้ยทางเดียวไม่พอใช้แน่ๆ ผมแนะนำลงทุนผ่านกองทุนรวม โดยแบ่งเงินออมส่วนหนึ่งมาลงทุน ปัจจุบันกองทุนรวมมีนโยบายลงทุนสินทรัพย์ที่ความเสี่ยงต่ำนอกเหนือจากเงินฝาก ก็เป็นพวกพันธบัตร หุ้นกู้ ให้น้ำหนัก 80% ของเงินลงทุน ส่วนที่เหลือ 20%อาจจะเป็นหุ้น ทองคำหรือกองทุนอสังหาริมทรัพย์ ที่จะช่วยเพิ่มผลตอบแทนได้ พูดให้เห็นภาพก็เทียบกับกองทุน Global ETF แผนพอเพียง ของ Jitta Wealth ซึ่งสถิติผลตอบแทนเก่าเฉลี่ยปีละ 3.27% เป็นต้น แต่บางคนก็ไม่ลงทุนหุ้นเลยจะเลือกเป็นกองทุนพันธบัตรล้วน ๆ นอนหลับแบบสบายใจก็มีเยอะครับ

กลุ่ม Gen X คนที่เกิดในช่วง พ.ศ. 2508 – 2522 หรือปัจจุบันมีอายุราว 45 ปี – 59 ปี เติบโตมากับคุณภาพชีวิตที่ดีกว่ารุ่นพ่อแม่ รักความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต และมีความเป็นตัวของตัวเองสูง ไม่ยึดกับขนบธรรมเนียม กล้าเปิดกว้างรับสิ่งใหม่ ๆ เพราะอยู่ในช่วงยุคเปลี่ยนผ่านโลกเก่าสู่โลกใหม่เทคโนโลยี ถือเป็นกลุ่มที่มีครอบครัว มีลูก ๆ ที่เติบโตกันแล้ว และภาระหนี้สินบ้านและรถใกล้หมดหรือหมดแล้ว กลุ่มนี้จะแสวงหา work life balance และหันมาให้ความสำคัญกับการลงทุนมากขึ้น เพราะอยากเร่งเมคมันนี่ พร้อมจะกล้าได้กล้าเสี่ยงเมื่อเห็นโอกาสทำเงินให้เติบโตเร็วทันใช้ในยามเกษียณ

คำแนะนำการลงทุนของกลุ่ม Gen X ที่เป็นผู้ใหญ่มีความพร้อมในการลงทุนมากที่สุดแล้ว เพราะมีรายได้ที่เพิ่มมากขึ้นตามอายุงาน มีความรู้ความสามารถและฐานะการเงินที่ดีขึ้น ต้องการสร้างความมั่นคงมั่งคั่งในชีวิตยามเกษียณ เพราะฉะนั้น นิสัยการเงินของผู้ใหญ่วัยนี้ เลือกจัดสรรเงินลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษีเพราะเมื่อมีรายได้มากก็จะต้องเสียภาษีมากตามไปด้วย ซึ่งก็มีให้เลือกผ่านการลงทุนกองทุน RMF ที่มีสูตรลงทุนผสมพันธบัตรและหุ้น และกองทุน ThaiESG ที่เน้นลงทุนหุ้นยั่งยืน รวมไปถึงกระจายออกไปลงทุนกองทุนต่างประเทศมากขึ้น เพื่อคว้าโอกาสรับผลตอบแทนสูงแม้จะเสี่ยงสูง

แต่ก็กระจายน้ำหนักลงทุนในสินทรัพย์ที่เสี่ยงปานกลางจนถึงระดับต่ำด้วย

นอกจากนี้ ยังมีอีกช่องทางการออมเพื่อลดหย่อนภาษีสำหรับประกันคุ้มครองชีวิต ประกันสะสมทรัพย์ และประกันสุขภาพ ซึ่งการลงทุนเหล่านี้ ถือเป็นเก็บเงินไว้ใช้ในระยะยาว 10 – 20 ปีข้างหน้า พร้อมรับมือกับปัญหาสุขภาพที่จะตามมาในยามแก่ชรา

ส่วนใครที่อายุ 50+ แล้วยังไม่เริ่มลงทุน ผมขอยืนยันว่า คุณเริ่มวันนี้ก็ไม่สายครับ เพียงแต่คุณอาจจะเลือกลงทุนในทรัพย์สินที่มีความผันผวนน้อย เผื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน หรือมีความจำเป็นจะต้องใช้เงิน จะได้สามารถนำเงินออกมาใช้ได้สะดวกครับ

อย่าลืมครับว่า ไม่มีคำว่าสายเกินไปสำหรับการลงทุน แต่เมื่อคุณรู้ตัวเร็วก็ยิ่งได้เปรียบครับ เริ่มต้นลงทุนตั้งแต่ตอนนี้ ปล่อยเงินให้ทำงานเกษียณสุขรออยู่ไม่ไกลครับ

คน Gen Y เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เกิดในปี พ.ศ. 2523 – 2543 อายุอยู่ที่ราวๆ 24 -44 ปี เริ่มเข้าสู่วัยทำงานและสร้างเนื้อสร้างตัว ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ที่เติบโตมากับเทคโนโลยี มีความสามารถในการใช้ไอทีและชอบทำงานที่เกี่ยวกับไอที มีความคิดสร้างสรรค์ ชอบความท้าทายและพิสูจน์ความสามารถ จะเป็นคนไม่ชอบถูกเอาเปรียบ พวกเขาต้องการทำงานเพื่อให้ได้เงินเดือนสูงๆ และหาช่องทางมีรายได้อื่นๆ และใช้ชีวิตให้คุ้มค่า ไลฟ์สไตล์หลังเลิกงานชอบผ่อนคลาย เช่น ไปเล่นฟิตเนส สังสรรค์กับเพื่อน ชอบช้อปปิ้งซื้อของ เล่นเกมส์นั่งเล่นสมาร์ทโฟน ไอแพดได้นานๆ คน Gen Y แบ่งย่อยเป็นกลุ่มคนเริ่มต้นทำงาน หรือ First Jobber และวัยทำงานสร้างเนื้อสร้างตัวมีครอบครัว

ด้วยนิสัยคนรุ่นใหม่ที่เป็น First Jobber จะไม่ถนัดกับการเก็บออม และชอบใช้จ่ายไปเพื่อสนองความสุข ความต้องการของตัวเอง แต่ก็มีความกล้าได้กล้าเสีย พร้อมแบกรักความเสี่ยงสูง ดังนั้น แนะนำลงทุนสำหรับคนที่กล้าเสี่ยงสูง สามารถลงทุนในหุ้นและกองทุนหุ้นในและนอกประเทศได้ จัดสัดส่วนลงทุนรวมกันไม่เกิน 80% และควรลงทุนในส่วนที่ความเสี่ยงต่ำติดไว้ในพอร์ตด้วย เพราะการลงทุนหุ้นมักคู่กับความผันผวน หากขาดทุนก็ยังมีเงินอีกส่วนนึงเหลืออยู่ อย่างไรก็ตาม คนกลุ่มนี้อายุยังน้อย จะได้เปรียบในเรื่องการเริ่มลงทุนเร็วก็จะมีเวลาสร้างผลตอบแทนที่มากกว่า และหากพอร์ตหุ้นมีปัญหาก็ยังมีโอกาสกลับมาเริ่มต้นลงทุนใหม่ให้ถูกทิศถูกทางได้เช่นกัน

ส่วนรุ่นใหม่ Gen Y ที่กำลังสร้างเนื้อสร้างตัวเตรียมแต่งงาน ถือเป็นช่วงวัยก่อหนี้ผ่อนรถ คอนโดฯ หรือเรือนหอ และหากสร้างครอบครัวมีลูกก็จะมีภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ เพิ่มขึ้น ดังนั้น มุมมองเรื่องการเงินจะให้ความสำคัญกับเรื่องความเสี่ยงมากกว่า และเน้นไปที่การออมเงิน หากเป็นการลงทุน ผมแนะนำให้ออมเงินในธนาคารไม่ต่ำกว่า 50% ของเงินออมทั้งหมด โดยควรออมที่ได้ดอกเบี้ยสูง เช่น ฝากประจำปลอดภาษี หรือโครงการพิเศษต่าง ๆ และควรเริ่มมองการลงทุนระยะยาว อาจจะเป็นตราสารการเงินที่คุ้มครองเงินต้น หรือหุ้นระยะยาว กองทุนลดหย่อนภาษี เพื่อสร้างผลตอบแทนหลาย ๆ ช่องทาง

คน Gen Z เป็น Genใหม่ที่เกิดหลังปี พ.ศ. 2543 เป็นต้นไป หรือมีอายุต่ำกว่า 24 ปี เติบโตมากับเทคโนโลยีและสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย จึงมีนิสัยรักสบาย มีความสามารถใช้งานเทคโนโลยีต่าง ๆ ได้ดี เรียนรู้เร็วและสามารถปรับตัวต่อสถานการณ์ต่างๆ ได้ง่ายท่ามกลางโลกที่ความผันผวนทางการเงินและเศรษฐกิจ เด็กรุ่นนี้รักสบาย ชีวิตขาดอินเทอร์เน็ตไม่ได้ เรื่องการใช้เงิน คือมีอำนาจในการซื้อสูง รู้ว่าตัวเองชอบอะไรต้องการอะไร และยอมจ่ายเพื่อสิ่งนั้น กล้าซื้อของออนไลน์ และแชร์ให้โลกรู้ มุมมองด้านการเงินของคน Gen Z จะยอมลงทุนใช้เงินไปกับการเดินทางท่องเที่ยวเป็นสิ่งที่คุ้มค่าเสมอ และให้ความสำคัญการออมเงินน้อยกว่าการท่องเที่ยว

การเลือกออมของ Gen Z เหมาะกับการเริ่มต้นลงทุนมากที่สุด เมื่อเรียนจบออกมาจะเป็นวัยที่จบใหม่ ยังไม่ค่อยมีภาระใดๆ แต่ก็มีบางคนที่มีรายได้หรือเงินเก็บรอตั้งแต่ยังเรียนหนังสืออยู่แล้ว หากเริ่มต้นทำงาน จะมีความมั่นใจและยอมรับความเสี่ยงได้สูง แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นกับจำนวนเงินหรือรายได้ที่มีด้วย เพราะฉะนั้นถ้าคุณยังไม่ค่อยภาระใดๆ ผมแนะนำให้จัดสรรเงินออมมาลงทุนในหุ้น VI (หุ้นเน้นคุณค่า) ระยะยาว โดยสัดส่วนลงทุนหุ้นอาจสูงราว 60-90% ขึ้นกับระดับความเสี่ยงที่ระดับได้ด้วย

หลักการเลือกหุ้น VI คือ หุ้นคุณภาพพื้นฐานดีมีอนาคต และราคาลงทุนที่ถูกหรือเหมาะสม หรือเลือกลงทุนสินทรัพย์อื่นๆ ที่คาดจะได้ผลตอบแทนในระยะยาวที่คุ้มค่า เช่นกองทุนรวม ทองคำ และแบ่งเงินเก็บอีก 10-40% ฝากไว้กับธนาคารที่ให้ดอกเบี้ยสูง หรือกระจายลงทุนซื้อหุ้นกู้คุณภาพ พันธบัตรรัฐบาล หรือลงทุนในช่องทางที่สร้างความมั่นคง และมีความเสี่ยงน้อยกว่าการลงทุนในหุ้นเอาไว้ด้วย เพื่อสร้างรากฐานความมั่นคงให้ชีวิต

หากคุณอยู่ใน Gen Z และ Gen Y เริ่มต้นลงทุนเร็วก็จะยิ่งดี คุณคงได้ยินอยู่บ่อยๆ ครับว่า…ลงทุนตั้งแต่อายุน้อยๆ ยิ่งดี ด้วยพลังดอกเบี้ยทบต้น การลงทุนหุ้นก็เช่นกันครับ

ผมฉายภาพรวมของแต่ละ Gen มีวิธีการออมเงินและลงทุนที่ต่างกันออกไป แม้คุณจะมีอายุมากหรือน้อย แต่ “การออมเงิน” ไม่มีคำว่าเร็วเกินไป หรือว่าสายเกินไปนะครับ แค่คุณคิดจะเริ่มออมเงิน ก็ถือว่าคุณมาได้ครึ่งทางแล้ว

ดังนั้น คุณดูว่าตอนนี้ ตัวเองอยู่ในวัยไหน และจะวางแผนการออมและลงทุนอย่างไรดีตาม Gen ของคุณ ผมเชื่อว่าทุกคนอยากมีอิสรภาพทางการเงินกันทั้งนั้น

‘อิสรภาพทางการเงิน’ ก็สร้างได้ตั้งแต่วันนี้!

‘การลงทุน’ เปรียบเสมือนการปลูกต้นไม้ครับ ยิ่งคุณเริ่มต้นลงทุนได้เร็วเท่าไหร่ เงินของคุณก็มีโอกาสงอกเงย สร้างผลตอบแทนที่น่าทึ่งได้ในระยะยาวครับ แต่ทั้งนี้สินทรัพย์ที่จะลงทุนก็ต้องเลือกให้ดีด้วยนะครับ เพราะฉะนั้น ก่อนตัดสินใจลงทุน คุณต้องศึกษาทำการบ้านและทำความเข้าใจกับความเสี่ยงที่ต้องรับมือในระหว่างเส้นทางลงทุนระยะยาวด้วย การขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญการลงทุนหรือมืออาชีพที่ปรึกษาการลงทุน จะช่วยเพิ่มความมั่นใจในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง

คำเตือนที่สำคัญของวิถีชีวิตนักลงทุน คือ “การลงทุนระยะยาว” ไม่ได้หมายถึงการใส่เงินลงทุนแล้วปล่อยพอร์ตทิ้งไว้ไม่ติดตามดูแลนะครับ เพราะทุกวันนี้ ไม่ว่าคุณลงทุนในหุ้นหรือตราสารใดๆ มีความเสี่ยงสูงหรือต่ำ ก็มีความผันผวนเกิดขึ้นคู่กันเสมอ

ผมขอย้ำตลอดๆ ว่า คุณต้องหมั่นทำการบ้าน ตรวจสุขภาพสินทรัพย์ที่ลงทุนอย่างสม่ำเสมอ เพราะจะช่วยให้พอร์ตของคุณทั้งเงินต้นและผลตอบแทนเติบโตอย่างมีคุณภาพและคงอยู่ให้คุณใช้ในวัยเกษียณครับ

นักลงทุนไอดอล VI “Warren Buffett” เคยกล่าวเอาไว้ว่า “Successful investing takes time, discipline and patience.” ก็คือการลงทุนที่ประสบความสำเร็จใช้เวลา วินัย และความอดทนครับ

เพราะฉะนั้น ฤกษ์ดีปีใหม่ เริ่มได้เลย วางแผนการเงินและการลงทุน ถ้าคุณเริ่มต้นวันนี้ ก็เท่ากับนับหนึ่ง จากนี้คุณก็แค่นับถอยหลังรอถึงเป้าหมายอิสรภาพทางการเงินได้เลย

บทความอื่น ๆ ของผู้เขียน

จังหวะนี้ควรลงทุนแบบไหน ที่ไหนดี

ตราสารหนี้ระยะสั้นมีดีอย่างไร ทำไมต้องมีติดพอร์ต 

3 วิธีสร้างวินัย ออมยังไงให้มีเงิน DCA

×

Share

ผู้เขียน