Share on
×

Share

SiS จับมือ Dobot บุกตลาดหุ่นยนต์โคบอท รับความต้องการในประเทศโต

เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น เดินหน้ารุกตลาดหุ่นยนต์ร่วมปฏิบัติงาน ทดแทนการขาดแรงคนในภาคอุตสาหกรรม คว้าเป็นตัวแทนจำหน่าย ดูบอท ผู้ผลิตหุ่นยนต์โคบอทชั้นนำ ตั้งเป้ากลุ่มการผลิต ยานยนต์ โลจิสติกส์ และการศึกษา

สมชัย สิทธิชัยศรีชาติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้จัดจำหน่ายสินค้าไอทีรายใหญ่ในประเทศไทย เปิดเผยว่า การใช้หุ่นยนต์แทนแรงงานมนุษย์แพร่หลายมากขึ้นทั่วโลก ทั้งในภาคการผลิตและบริการ เมื่อปัญหาการขาดแคลนแรงงานกลายเป็นปัญหาเร่งด่วนในสังคมสูงวัย ในกรณีของประเทศไทย รายงานของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ระบุว่า 1 ใน 5 ของประชากรหรือประมาณ 13 ล้านคน มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ดังนั้น งานที่มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัย เช่น พนักงานขนส่งในธุรกิจโลจิสติกส์หรือพนักงานในสายการผลิตจึงต้องพึ่งพาหุ่นยนต์มากขึ้น

ตามรายงานของเวิลด์ โรโบติกส์ 2023 (World Robotics 2023) โดยสหพันธ์หุ่นยนต์นานาชาติหรือไอเอฟอาร์ (International Federation of Robotics (IFR)) ระบุว่า ประเทศไทยมีการนำเข้า เพื่อใช้งานหุ่นยนต์ในภาคอุตสาหกรรมของประเทศไทยไปแล้วกว่า 3,600 ตัวในปี 2566 สะท้อนถึงความก้าวหน้าในการใช้หุ่นยนต์ของประเทศ ทำให้ประเทศไทยเป็นอันดับที่ 15 ของโลกและเป็นอันดับที่ 1 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในด้านจำนวนผู้ใช้หุ่นยนต์รายใหญ่ที่สุด  

ทั้งนี้ เห็นได้ชัดว่าประเทศไทยใช้ประโยชน์จากหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติอย่างกว้างขวางในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น ยานยนต์ อาหารและเครื่องดื่ม อิเล็กทรอนิกส์ งานโลหะ การแพทย์และเครื่องสำอาง พลาสติกและโพลีเมอร์ และการศึกษาและวิทยาศาสตร์ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและผลผลิตในขณะที่สามารถลดต้นทุนได้

“ตลาดหุ่นยนต์เป็นตลาดที่มีศักยภาพอย่างมาก โดยเฉพาะตลาดหุ่นยนต์ร่วมปฏิบัติงานหรือโคบอท (Collaborative Robot: Cobot) ที่มีข้อได้เปรียบด้วยการทำงานร่วมกับมนุษย์ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและมีความปลอดภัย ปัจจัยเหล่านี้ช่วยกระตุ้นให้มีการนำโคบอทมาใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เอสไอเอสจึงได้เป็นตัวแทนจำหน่าย ดูบอท (Dobot) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำโคบอทระดับโลก และถือว่าเป็นก้าวสำคัญอีกก้าวของเอสไอเอส ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ด้านหุ่นยนต์สำหรับอุตสาหกรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนของการดำเนินงาน ซึ่งดูบอท เป็นผู้ผลิตหุ่นยนต์ที่มีการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง และเป็นเทคโนโลยีของตนเองมีการใช้งานแล้วในหลายประเทศทั่วโลก” สมชัยกล่าว

สมชัย กล่าวต่อไปว่า เอสไอเอสลงทุนสร้างเวิร์กช็อปเพื่อการสร้างเสริมการเรียนรู้ และการฝึกอบรมให้กับพาร์ทเนอร์ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ รวมไปถึงผู้เชี่ยวชาญในงานระบบอัตโนมัติ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการช่วยสนับสนุนการขาย และการประยุกต์ใช้งานโคบอทในกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพ และได้ประสิทธิผลจากการผลิตที่สูงที่สุด  สำหรับด้านการศึกษาได้วางแผนจัดการแข่งขันเขียนโปรแกรมเพื่อแก้โจทย์ต่าง ๆ ตั้งแต่ระดับชั้นประถมศึกษาไปจนถึงระดับอุดมศึกษา เพื่อสร้างพื้นฐานการเรียนรู้ และความเข้าใจ ในการใช้งานโคบอท โดยได้ตั้งเป้ายอดขายสำหรับดูบอทในปี 2568 ที่ 80 ล้านบาท และคาดว่ามียอดขาย 300 ล้านบาทในปี 2570

เอเชีย แปซิฟิก ตลาดโคบอทโตเร็วที่สุดในโลก

ด้าน เจอรี่ หลิว ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดูบอท เปิดเผยว่า บริษัท ดูบอท (Dobot) เป็นผู้ผลิตหุ่นยนต์ร่วมปฏิบัติงานชั้นนำ ก่อตั้งขึ้นในปี 2558 ที่เมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน สามารถพัฒนาเทคโนโลยีหลักของตนเองที่เป็นระดับแถวหน้าของโลก ได้แก่ ระบบขับเคลื่อนและการควบคุมแบบบูรณาการ การโต้ตอบอัจฉริยะ การควบคุมการเคลื่อนไหวประสิทธิภาพสูง ความปลอดภัย การตรวจจับอัจฉริยะ และเอไอ เป็นต้น โดยเฉพาะเทคโนโลยีที่เรียกว่าเซฟสกิน (SafeSkin) ซึ่งเป็น “เทคโนโลยีหยุดก่อนชน” สามารถหยุดหุ่นยนต์ก่อน 10-15 เซนติเมตร ก่อนจะถึงวัตถุได้

ดูบอท ได้นำเสนอโซลูชันที่ครอบคลุมสำหรับภาคอุตสาหกรรม การค้าปลีก และการศึกษา ด้วยการขับเคลื่อนการผลิตอัจฉริยะและการอัปเกรดอุตสาหกรรม พร้อมทั้งเชื่อมโยงอุตสาหกรรมและสถาบันการศึกษาเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับบุคลากรสำหรับอนาคต ดูบอทเป็นผู้ส่งออกโคบอทเป็นอันดับหนึ่งในประเทศจีน จำนวน 72,000 ตัวได้ถูกนำไปใช้งานในระบบอัตโนมัติในกว่า 80 ประเทศในหลายภูมิภาค และได้รับความไว้วางใจจากบริษัทในกลุ่มฟอร์จูน 500 ทั่วโลก

จากรายงานของสหพันธ์หุ่นยนต์นานาชาติ หรือไอเอฟอาร์ คาดว่าขนาดตลาดโคบอททั่วโลกสูงถึง 1.4 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2567 และจะเติบโตถึง 4.9 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2571 คิดเป็นอัตราการเติบโตต่อปี (CAGR) ที่ 36.6% โดยภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิกเป็นหนึ่งในตลาดโคบอทที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก สำหรับดูบอทมีอัตราการเติบโตสูงถึง 90% ในภูมิภาคนี้ในปี 2567 โดยตลาดที่มีศักยภาพสำคัญในประเทศต่าง ๆ เช่น ไทย มาเลเซีย เวียดนาม ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และอินเดีย

หลิว ได้กล่าวถึงตลาดในประเทศไทยว่า ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตที่สำคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีศักยภาพในการผลิตที่แข็งแกร่งและข้อได้เปรียบทางเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น ยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ โดยในปี 2566 การผลิตยานยนต์ของประเทศไทยอยู่ที่ประมาณ 1.83 ล้านคัน ทำให้เป็นตลาดยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยความก้าวหน้าของแผนริเริ่ม “ประเทศไทย 4.0” ภาคการผลิตของประเทศกำลังเปลี่ยนผ่านอย่างรวดเร็วไปสู่การดำเนินงานอัจฉริยะและอัตโนมัติ ซึ่งสร้างโอกาสมากมายสำหรับหุ่นยนต์ร่วมปฏิบัติงาน หรือ โคบอท

อุตสาหกรรมยานยนต์ใช้โคบอทมากสุด

ดังนั้น การใช้งานของโคบอทในประเทศไทยนั้นมีแนวโน้มที่ดีมาก โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งโคบอทสามารถจัดการกระบวนการที่ซับซ้อน เช่น การประกอบชิ้นส่วน การพ่นสี การเชื่อม และการตรวจสอบคุณภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ โคบอทช่วยให้ธุรกิจต่าง ๆ ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตและลดต้นทุนแรงงานได้ โดยการเปิดใช้งานการทำงานอัตโนมัติเต็มรูปแบบ ด้วยความยืดหยุ่น ความปลอดภัย และความสะดวกในการใช้งาน โคบอทสามารถตอบสนองความต้องการด้านการผลิตของอุตสาหกรรมต่างๆ ได้โดยไม่คำนึงถึงขนาด และขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงไปสู่การผลิตอัจฉริยะ

หลิว กล่าวต่อไปว่า สำหรับการแต่งตั้งให้เอสไอเอสเป็นตัวแทนจำหน่ายหลักในประเทศไทย จึงเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการขยายตลาด เนื่องจากเอสไอเอสเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้ากลุ่มเทคโนโลยีที่มีชื่อเสียงในประเทศไทย มีประสบการณ์ในตลาดอย่างกว้างขวางและมีเครือข่ายการขายและบริการที่แข็งแกร่ง มีความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับภาคการผลิตและระบบอัตโนมัติ ประกอบกับความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับลูกค้าในอุตสาหกรรม ทำให้เอสไอเอสเป็นพันธมิตรที่เหมาะสม  ช่วยให้ดูบอทสามารถเจาะตลาดในประเทศไทยได้อย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งรับประกันผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงและการสนับสนุนบริการที่ครอบคลุมสำหรับลูกค้าในท้องถิ่น ดูบอทมุ่งหวังที่จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับเอสไอเอสเพื่อส่งเสริมการนำเทคโนโลยีโคบอทมาใช้ในประเทศไทย

“ดูบอทมั่นใจในตลาดของประเทศไทย เพราะตระหนักดีว่าประเทศไทยไม่เพียงแต่เป็นพื้นที่หลักสำหรับการเติบโตของภาคการผลิตเท่านั้น แต่ยังเป็นแนวหน้าของเทคโนโลยีการผลิตอัจฉริยะและระบบอัตโนมัติอีกด้วย  ดูบอทมุ่งมั่นที่จะช่วยให้ธุรกิจของไทยเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุนการดำเนินงาน และนำระบบการผลิตอัจฉริยะมาใช้ โดยการส่งมอบโซลูชันโคบอทขั้นสูง นอกจากนี้การพัฒนาระบบการศึกษาอาชีวศึกษาที่ดูบอทมุ่งมั่นนำเสนอโซลูชันที่ครอบคลุมสำหรับสถาบันการศึกษา ช่วยสนับสนุนกลุ่มบุคลากรที่มีทักษะของประเทศไทยอีกด้วย” หลิว กล่าว

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

‘PIN’ ลงทุน 2,100 ล้าน เปิดนิคมแห่งที่ 8 รับนักลงทุนต่างชาติย้ายฐานผลิตมาไทย

เร้ดแฮทเผย ‘AI – Open Source’ ตัวกำหนดอนาคตองค์กรในปี 2568

×

Share

ผู้เขียน