Share on
×

Share

TQM Alpha ชู 5 กลยุทธ์หลัก มุ่ง Synergy-ดิจิทัล-รุกประกันชีวิต

ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจโลกและไทยที่ยังคงเผชิญความท้าทายหลังยุคโควิด-19 ซึ่งส่งผลให้ GDP เติบโตต่ำกว่าคาดการณ์ และภาคธุรกิจต่าง ๆ ได้รับผลกระทบ รวมถึงตลาดรถยนต์ที่ซบเซาลงอย่างเห็นได้ชัด กลุ่มบริษัท ทีคิวเอ็ม อัลฟา จำกัด (มหาชน) หรือ TQM Alpha อัปเดตทิศทางการดำเนินธุรกิจและกลยุทธ์ในการนำพาองค์กรฝ่ามรสุมเศรษฐกิจภายใต้แนวคิด “Safe in the Storm” และตอกย้ำความมุ่งมั่นด้วยธีมหลัก “ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อไป”

ภาพรวมเศรษฐกิจ กระทบธุรกิจประกันภัย

ภาพรวมเศรษฐกิจในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมายังคงอยู่ในภาวะชะลอตัว การคาดการณ์ GDP ที่ระดับ 5-6% ไม่เป็นไปตามเป้า โดยเฉพาะประเทศไทยที่เติบโตในลำดับท้าย ๆ ของกลุ่มประเทศเกิดใหม่ ปัจจัยหนึ่งที่สะท้อนภาพชัดเจน คือยอดขายรถกระบะใหม่ที่ลดลงถึง 40% ในปีที่แล้ว ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดกำลังซื้อของผู้บริโภคและภาคธุรกิจ

นอกจากนี้ การเข้ามาของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) แม้จะเป็นเทรนด์ด้านสิ่งแวดล้อมที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง แต่ก็สร้างความท้าทายให้กับธุรกิจประกันภัย เนื่องจากสถิติการเคลมยังไม่นิ่ง ทำให้เบี้ยประกันยังสูง ขณะที่บริษัทประกันหลายแห่งยังคงขาดทุนและเริ่มระมัดระวังในการรับประกันภัยรถ EV มากขึ้น ขณะเดียวกันราคารถยนต์สันดาปมือสองก็ตกลงอย่างรวดเร็วส่งผลกระทบต่อผู้ที่ยังผ่อนชำระอยู่และทำให้สถาบันการเงินเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น

TQMalpha ก้าวใหม่ ที่เป็นมากกว่า ธุรกิจประกัน

กลยุทธ์หลักและการปรับตัวของ TQMalpha

แม้จะเผชิญกับความท้าทายรอบด้าน TQMalpha ยังคงเติบโต โดยปีที่ผ่านมามีรายได้รวมเติบโตประมาณ 6% และเฉพาะธุรกิจโบรกเกอร์ประกันภัยเติบโตถึง 10% (ในแง่รายได้) ดร.อัญชลิน พรรณนิภา ประธานบริษัท และ ดร.นภัสนันท์ พรรณนิภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ได้สรุปกลยุทธ์หลัก 5 ประการ ดังนี้:

  1. ครองความเป็นผู้นำประกันรถยนต์: แม้ยอดขายรถใหม่จะลดลง แต่ตลาดรถยนต์โดยรวม (รวมรถเก่า) ยังคงอยู่ TQM Alpha ปรับตัวโดยหันมาเน้นขายประกันสำหรับรถเก่ามากขึ้น ซึ่งมีแนวโน้มที่คนจะใช้รถนานขึ้น (จาก 5-7 ปี เป็น 7-10 ปี) พร้อมพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ เช่น Accident Guarantee และใช้ประสบการณ์ 28 ปีในการบริหารจัดการ
  2. รุกตลาด Non-Motor และประกันชีวิต: ขยายฐานไปยังประกันประเภทอื่น เช่น ประกันบ้าน (ซึ่ง TQMalpha เป็นเบอร์หนึ่งในกลุ่มโบรกเกอร์ที่ไม่ใช่ธนาคาร) ประกันกลุ่ม โดยอาศัยความร่วมมือกับ TQR ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่แตกต่าง และเตรียมบุกตลาดประกันชีวิต (Life Insurance) อย่างจริงจัง ซึ่งถือเป็น S-Curve ใหม่ที่สำคัญ
  3. พัฒนาช่องทางดิจิทัลและ AI: ลงทุนต่อเนื่องปีละกว่า 100 ล้านบาท พัฒนาดิจิทัลแพลตฟอร์ม และ Omni-Channel นำ AI (เช่น Voice-to-Text) มาใช้เพิ่มประสิทธิภาพการขาย สร้างประสบการณ์ลูกค้า ((Customer Experience – CX) ผ่านกิจกรรม Workshop ต่าง ๆ
  4. ปรับพอร์ตธุรกิจและบริหารความเสี่ยง: ชะลอหรือยุติธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูงหรือไม่เชี่ยวชาญ เช่น สินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ และหันมามุ่งเน้นธุรกิจที่เชี่ยวชาญและมีความเสี่ยงต่ำกว่า เช่น สินเชื่อเบี้ยประกัน ผ่านบริษัท Easy Lending ซึ่งช่วยสนับสนุนการขายประกันได้เป็นอย่างดี เพราะช่วยให้ลูกค้ามีทางเลือกในการผ่อนชำระและกระตุ้นยอดขาย
  5. สร้าง Synergy ในกลุ่มบริษัท: TQMalpha ไม่ได้มีเพียงธุรกิจโบรกเกอร์ แต่มีบริษัทในเครือกว่า 10 บริษัท ที่ดำเนินธุรกิจหลากหลายและเกื้อหนุนกัน แบ่งเป็น 5 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ B2C, B2B, Special Segment, Financial Solutions, และ Utility Platform มีการปรับโครงสร้างการทำงานร่วมกันของบริษัทในเครือเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและขยายโอกาสทางธุรกิจ โดยมีบริษัทลูกหลายแห่ง (เช่น TQR, MyGroup, Builk One, True Life, Easy Lending) ที่เตรียมพร้อมเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ต่อไป

TQM รุกประกันภัยดิจิทัล รับ New Normal

S-Curve ใหม่: TQM Life บุกตลาดประกันชีวิต

TQMalpha ให้ความสำคัญกับการบุกตลาดประกันชีวิตอย่างเต็มรูปแบบผ่านบริษัท TQM Life โดยได้แต่งตั้ง กฤษฎา จิตตภาวงศ์ เข้ามาดำรงตำแหน่ง CEO เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจนี้โดยเฉพาะ โดยกล่าวว่า ตลาดประกันชีวิตมีความน่าสนใจหลายประการ ได้แก่

  • ขนาดตลาด: ตลาดประกันชีวิตในไทยมีขนาดใหญ่กว่าประกันวินาศภัยถึงกว่า 2 เท่า (เกือบ 7 แสนล้านบาท เทียบกับเกือบ 3 แสนล้านบาท) แต่ TQM ซึ่งแข็งแกร่งในฝั่งวินาศภัย ยังไม่ได้เจาะตลาดรายย่อยอย่างจริงจัง
  • โอกาสเติบโต: คนไทยยังมีสัดส่วนการถือครองประกันชีวิตค่อนข้างน้อย (ราว 20-30%) เทียบกับประเทศพัฒนาแล้ว ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก
  • ปัจจัยสนับสนุน: ความต้องการประกันชีวิตเพิ่มขึ้นจากค่ารักษาพยาบาลที่สูงขึ้น อายุขัยที่ยืนยาวขึ้น และความต้องการวางแผนการออมระยะยาว

โดยกลยุทธ์ TQM Life คือ การใช้ฐานลูกค้าเดิมที่เป็นฐานลูกค้าประกันภัยกว่า 1 ล้านราย มาต่อยอดขายประกันชีวิต (Cross-selling) และสร้างความแข็งแกร่งด้านแบรนด์และพันธมิตร ใช้แบรนด์ TQM ที่เป็นที่รู้จักและน่าเชื่อถือ ร่วมมือกับบริษัทประกันชีวิตชั้นนำ พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ และเตรียมพร้อมสำหรับการขายออนไลน์เต็มรูปแบบ (End-to-End) ผ่าน Digital Broker License ซึ่ง TQM Life จะเป็นโบรกเกอร์รายแรก (ที่ไม่ใช่ธนาคาร) ที่ได้รับใบอนุญาตนี้ เพื่อขายประกันแบบง่ายๆ ได้ภายใน 5-10 นาที พร้อมทั้ง พัฒนาศักยภาพทีมขาย ด้วยการเพิ่มทักษะพนักงานขายประกันภัยเดิมกว่า 3,000 คน ให้มีความรู้ มีใบอนุญาต และมีทักษะในการขายประกันชีวิตควบคู่ไปด้วย

TQM Life ตั้งเป้าหมายระยะยาว 5 ปี ที่จะมีเบี้ยประกันรวมประมาณ 5,000 ล้านบาท โดยจะเริ่มเปิดตัวผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตและสุขภาพตัวแรกในอีกประมาณ 2 เดือนข้างหน้า (คาดว่าเริ่มขายได้ช่วงมิถุนายน)

แผนการนำบริษัทลูกเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ

TQMalpha มีแผนที่จะนำบริษัทลูกที่มีศักยภาพเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ (Spin-off) ได้แก่ True Life, My Group, Easy Lending และ Builk One ซึ่งทุกบริษัทได้เตรียมความพร้อมด้านงบการเงินและระบบควบคุมภายในแล้ว อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจเข้าตลาดฯ จะขึ้นอยู่กับสภาวะตลาดที่เอื้ออำนวย เนื่องจากมองว่าภาวะตลาดปัจจุบันยังไม่เหมาะสม และอาจส่งผลเสียต่อมูลค่าหุ้นและนักลงทุน

ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมของกลุ่มเติบโตเฉลี่ย 5-10% ต่อปี ให้มีความสามารถในการรักษาอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) ให้อยู่ในระดับสูงกว่า 20% และรักษา ROE/ROI ให้สูงกว่า 20% ต่อไป

“เราจะเน้นการถือครองเงินสดสำรองไว้จำนวนมาก (หลายพันล้านบาท) เพื่อความแข็งแกร่งและพร้อมรับมือกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ แต่จะคงนโยบายจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้น โดยปัจจุบันให้ผลตอบแทน (Dividend Yield) ประมาณ 6%”

TQMalpha แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความสามารถในการปรับตัวท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่ท้าทาย ด้วยกลยุทธ์ที่ชัดเจน การบริหารความเสี่ยงอย่างรอบคอบ การสร้าง Synergy ภายในกลุ่มบริษัท และการมองหาโอกาสการเติบโตใหม่ ๆ อย่าง TQM Life ทำให้กลุ่มบริษัทยังคงมีความมั่นใจในการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป แม้จะต้องเผชิญกับพายุเศรษฐกิจก็ตาม

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสน

Merkle เผยนโยบายขึ้นกำแพงภาษีของทรัมป์ เขย่าเศรษฐกิจโลก เสี่ยงเกิดสงครามการค้ารอบใหม่

Nestlé กับการสร้างอาณาจักรกาแฟในประเทศไทย

Google Cloud นำร่องนวัตกรรม AI สำหรับองค์กร ในหลากหลายอุตสาหกรรมที่งาน Next ’25

×

Share

ผู้เขียน