Share on
×

Share

­­­­กสิ­­­­­กรไทย เปิดตัว ‘K BIZ’ ตัวช่วยจัดการเงินสำหรับ SME ตอบโจทย์การค้ายุคดิจิทัล

ธนาคารกสิกรไทย พร้อมให้บริการ K BIZ ดิจิทัล แบงกิ้ง แพลตฟอร์ม ตัวช่วยในการบริหารจัดการเงินของธุรกิจขนาดเล็ก-กลาง (SME) ให้มีความคล่องตัวยิ่งขึ้น ชูจุดเด่นช่วยแก้ไขปัญหาที่เจ้าของธุรกิจพบบ่อย ๆ ทั้ง “ลดต้นทุนบริหารจัดการ – เพิ่มความคล่องตัวในการทำงาน – ทำธุรกรรมโอนจ่ายเงินข้ามประเทศ – เพิ่มระบบรักษาความปลอดภัย” ฟรีค่าธรรมเนียมรายปี ตั้งเป้ามีลูกค้าใหม่ใช้บริการ K BIZ รวม 2 แสนราย 

พิพัฒน์พงศ์ โปษยานนท์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า กลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการต้องมีการปรับตัวอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา ทั้งการรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 และยังพบกับความท้าทายของดิจิทัลเทคโนโลยี และพฤติกรรมของผู้บริโภค ทำให้ธุรกิจต่างต้องปรับตัวกับโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว นอกเหนือจากการวางกลยุทธ์การขาย การตลาด ยังต้องคำนึงถึงการบริหารจัดการข้อมูลทางการเงินที่มีประสิทธิภาพ รวดเร็ว รวมถึงการลดต้นทุน มีการใช้ช่องทางดิจิทัลกันอย่างแพร่หลาย เช่น ร้านค้าออนไลน์

โดยในปี 2563 พบว่า ตลาดอีคอมเมริซ์ไทยเติบโตมากถึง 81% มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 35% โดยสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลต่อการเติบโตของการทำธุรกรรมการเงินผ่านช่องทางดิจิทัลของลูกค้ารายย่อยที่ทำธุรกิจ และลูกค้าผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็กถึงกลาง โดยมีมูลค่าธุรกรรมรวมกว่า 294,000 ล้านบาท มากกว่าช่วง 2 ปีก่อนเกิดเหตุการณ์โควิด-19 ถึง 46% 

ธนาคารกสิกรไทย จึงยกระดับบริการธนาคารทางอินเทอร์เน็ตสำหรับลูกค้าผู้ประกอบการ (K-Cyber for SME) และ K-Cyber สู่การเป็นดิจิทัล แบงกิ้ง แพลตฟอร์มเต็มรูปแบบในชื่อใหม่ว่า K BIZ เพื่อให้บริการกับลูกค้ารายย่อยที่ทำธุรกิจและลูกค้าผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็กถึงกลาง รวมกว่า 5 แสนราย 

K BIZ จะช่วยตอบโจทย์การจัดการธุรกิจให้คล่องตัวขึ้น ช่วยแก้ปัญหาที่เจ้าของธุรกิจพบบ่อย ๆ ได้แก่ 

  1. เพิ่มศักยภาพการบริหารจัดการต่าง ๆ ลดต้นทุนการบริหารจัดการเงินสด ลดเวลา ลดข้อจำกัดด้านสถานที่และอุปกรณ์ในการใช้งาน (Multi-Device)
  2. พัฒนาระบบที่สามารถเพิ่มผู้ใช้งานได้หลายคน เพื่อช่วยทำธุรกรรมทางการเงินต่างๆได้ เพิ่มความคล่องตัวในการทำงาน (Multi-User) 
  3. รองรับการทำธุรกรรมการเงินระหว่างประเทศ โดยมีบริการโอนเงินต่างประเทศเพิ่มความสะดวกในกับลูกค้าที่มีการทำธุรกิจกับคู่ค้าต่างประเทศ
  4. เพิ่มระบบรักษาความปลอดภัยในการทำธุรกรรมด้วยระบบยืนยันตัวตนที่ได้มาตรฐานสากล ทั้งนี้ธนาคาร ตั้งเป้าจะมีลูกค้าใหม่ใช้บริการ K BIZ เพิ่มขึ้น 2 แสนราย    

K BIZ ช่วยจัดการเงิน ให้ธุรกิจคล่องตัว สมัครง่าย ฟรีค่าธรรมเนียมรายปี มีการใช้งานหลัก 3 ส่วน ได้แก่

  1. จัดการธุรกรรมการเงินได้ทั้งธุรกิจขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ลดต้นทุนการทำธุรกรรมการเงินได้มากกว่าการทำธุรกรรมด้วยเงินสด ไม่ต้องเดินทางไปสาขาธนาคาร 
    • วงเงินโอนไปยังบัญชีบุคคลอื่นต่อวันสูงสุด 10 ล้านบาท โอนเข้าบัญชีตนเอง 30 ล้านบาทต่อวัน 
    • บริการโอนเงินเป็นกลุ่ม สามารถสร้างรายการได้สูงสุดครั้งละ 10 รายการ ลดความยุ่งยาก และเพิ่มความรวดเร็วในการทำธุรกรรมในคำสั่งเดียว 
    • บริการโอนเงินต่างประเทศ สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย โอนได้ 12 สกุลเงิน 30 ประเทศ  
  2. จัดการธุรกิจได้ทุกที่ด้วยความคล่องตัว ตั้งระบบบริหารจัดการได้หลายคน นำข้อมูลมาใช้วิเคราะห์ วางแผนธุรกิจ การเงินได้ง่ายๆ
    • รองรับการใช้งานบนหลายอุปกรณ์ เช่น คอมพิวเตอร์ แท๊บเล็ต และสมาร์ทโฟน  
    • เพิ่มความคล่องตัวในการบริหารจัดการ และรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต โดยสามารถกำหนดผู้ใช้งาน K BIZ ได้หลายคน (Multi-user) หลายหน้าที่ ได้แก่ ผู้ทำรายการ (Maker), ผู้อนุมัติรายการ (Authorizer), ผู้ทำรายการ (Maker), และผู้ดูแลระบบ (Administrator)  
    • สามารถนำรายการเดินบัญชี ใช้งานง่าย ออกมาใช้วิเคราะห์ต่อได้ทันทีทั้งรูปแบบ PDF และ CSV
  3.  เพิ่มระบบรักษาความปลอดภัยทุกการทำรายการ 
    • การยืนยันหรืออนุมัติรายการบน K BIZ สำหรับการทำธุรกรรมวงเงินไม่เกิน 2 ล้านบาทต่อวัน จะใช้การยืนยันตัวตนผ่าน SMS-OTP และหากเป็นธุรกรรมที่วงเงินมากกว่า 2 ล้านบาทต่อวัน จะใช้ K PLUS เพื่ออนุมัติรายการ 

สำหรับลูกค้าทั่วไป และผู้ประกอบธุรกิจที่เคยใช้บริการรูปแบบเดิมของธนาคารและต้องการเปลี่ยนมาใช้ K BIZ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ผู้ดูแลความสัมพันธ์ และผู้ประกอบการธุรกิจที่สนใจสมัครใช้งาน K BIZ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ K-Contact Center 02-8888888 ต่อ 03 (บุคคลธรรมดา) หรือ 02-8888822 ต่อ 120 (นิติบุคคล) หรือดูรายละเอียดที่เว็บไซต์ธนาคาร 

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

จัสโค เปิดตัว Co-Working space แห่งใหม่ ณ สีลมเอจ ตอบรับการทำงานแบบไฮบริดที่เพิ่มสูงขึ้น

×

Share

ผู้เขียน