บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ประกาศความมุ่งมั่นครั้งสำคัญด้านความยั่งยืน ด้วยการจัดตั้งบริษัทใหม่ “เซ็นทรัลพัฒนากรีนโกรท” (Central Pattana Green Growth) เพื่อขับเคลื่อนเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Decarbonization) อย่างเป็นรูปธรรม การพัฒนาต้นแบบศูนย์การค้าที่ยั่งยืนแห่งใหม่ และการจัดกิจกรรมโรดโชว์ “(RE) Lifestyle Roadshow” ทั่วประเทศ เพื่อสร้างการรับรู้และส่งเสริมวิถีชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนในวงกว้าง
การจัดตั้งบริษัท “เซ็นทรัลพัฒนากรีนโกรท” จำกัด ถือเป็นก้าวสำคัญของเซ็นทรัลพัฒนา ในการผลักดันยุทธศาสตร์ด้านการลดก๊าซเรือนกระจกอย่างจริงจัง นภารัตน์ ศรีวรรณวิทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน และกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานการเงินการบัญชี และกลุ่มธุรกิจโรงแรมและสำนักงาน บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การตั้งบริษัทนี้เป็นการเล็งเห็นถึงโอกาสทางธุรกิจในยุคเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ และจะเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างเป็นรูปธรรม การจัดตั้ง “เซ็นทรัลพัฒนากรีนโกรท” เป็นการส่งสัญญาณถึงการปรับยุทธศาสตร์ครั้งสำคัญเพื่อขยายขอบเขตธุรกิจไปสู่การนำเสนอ ‘โซลูชันสีเขียว’ (Green Solutions) ให้กับองค์กรภายนอกด้วย
ในระยะแรก “เซ็นทรัลพัฒนากรีนโกรท” จะมุ่งเน้นไปที่การขยายการลงทุนในพลังงานแสงอาทิตย์ โดยมีแผนงานหลักคือการติดตั้งแผงเซลล์แสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) เพิ่มเติมในโครงการต่าง ๆ ของเซ็นทรัลพัฒนา ตั้งเป้าที่จะมีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมจากพลังงานสะอาดนี้กว่า 68 เมกะวัตต์ (MW) ซึ่งเป็นการลงทุนเพิ่มอีก 35 MW จากที่มีอยู่เดิม กำลังการผลิต 68 MW นี้ คิดเป็นสัดส่วนถึง 1.8% ของกำลังการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ทั้งหมดของประเทศไทย
นอกเหนือจากพลังงานแสงอาทิตย์ “เซ็นทรัลพัฒนากรีนโกรท” ยังมีเป้าหมายในระยะยาวที่จะแสวงหาและนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ ด้านการจัดการพลังงานและสิ่งแวดล้อมมาประยุกต์ใช้กับทุกโครงการของเซ็นทรัลพัฒนาเอง และที่สำคัญคือการต่อยอดจากศักยภาพและความเชี่ยวชาญเหล่านี้ไปสู่การให้บริการโซลูชันสีเขียวแก่บริษัทอื่น ๆ ทั้งที่อยู่ในเครือเซ็นทรัลและบริษัทภายนอกทั่วไป
การที่เซ็นทรัลพัฒนาบริหารจัดการโครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่จำนวนมากถึง 42 แห่งทั่วประเทศ รวมถึงโครงการอื่น ๆ ทำให้บริษัทสั่งสมประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ (know-how)ในการออกแบบที่ยั่งยืน การบริหารจัดการพลังงาน และการจัดซื้อจัดจ้างเทคโนโลยีสีเขียว การจัดตั้ง “เซ็นทรัลพัฒนากรีนโกรท” เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าภายนอกจึงเป็นการใช้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญและขนาดของธุรกิจที่มีอยู่เดิม เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันในตลาด Green Solutions ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว
เซ็นทรัลพัฒนากำลังเดินหน้าพัฒนาโครงการศูนย์การค้าที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม โดยมี “เซ็นทรัล กระบี่” เป็นโครงการเรือธงล่าสุด และต่อยอดความสำเร็จจาก “เซ็นทรัล เวสต์วิลล์” ที่ได้นำร่องแนวคิด Low Carbon Mall ไปก่อนหน้านี้
โครงการ “เซ็นทรัล กระบี่” มีกำหนดเปิดตัวในช่วงปลายปี 2568 (ตุลาคม 2568) และถูกตั้งเป้าให้เป็นต้นแบบศูนย์การค้าที่ยั่งยืนแห่งแรกของประเทศไทย ก่อนหน้า “เซ็นทรัล กระบี่” โครงการ “เซ็นทรัล เวสต์วิลล์” ซึ่งเปิดให้บริการเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2566 เป็นอีกแห่งภายใต้แนวคิด Low Carbon Mall ลักษณะเด่นของการออกแบบที่มุ่งเน้นการลดคาร์บอนของ “เซ็นทรัล เวสต์วิลล์” รวมถึงการเป็นอาคารแบบ Semi-outdoor ที่เอื้อให้ใช้ประโยชน์จากลมและแสงธรรมชาติได้เต็มที่ การเลือกใช้วัสดุท้องถิ่นในการก่อสร้าง เช่น กระเบื้องดินเผาและอิฐแก้ว การติดตั้งเทคโนโลยีประหยัดพลังงานต่าง ๆ การส่งเสริมการใช้บรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน เช่น บรรจุภัณฑ์ที่ทำจากพลาสติกชีวภาพ (Bioplastics) ในกลุ่มร้านอาหาร และการมีสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charging Stations) ถึง 22 จุด
ปลุกกระแสไลฟ์สไตล์รักษ์โลก: “(RE) Lifestyle Roadshow” และ “Better Futures Project ปี 4”
เซ็นทรัลพัฒนาได้สานต่อความสำเร็จของโครงการ “Better Futures Project” เข้าสู่ปีที่ 4 โดยในปีนี้มีการปรับรูปแบบเป็น “(RE) Lifestyle Roadshow รักษ์โลก I รักชุมชน” เป็นครั้งแรก อุทัยวรรณ อนุชิตานุกูล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายบริหารความเป็นเลิศและการพัฒนาที่ยั่งยืน บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แนวคิดหลักของโครงการในปีนี้คือการทำให้เรื่องความยั่งยืนเป็นเรื่องที่เข้าใจง่ายและทำได้จริงสำหรับทุกคน ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา โครงการ Better Futures Projects ได้รับความสนใจและมีผู้เข้าร่วมงานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดมีจำนวนผู้เข้าร่วมกว่า 500,000 คน
จุดประสงค์หลักของ “(RE) Lifestyle Roadshow” ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่จำนวนผู้เข้าร่วมงาน แต่มุ่งหวังที่จะสร้างผลกระทบเชิงบวกในหลายมิติ ทั้งการส่งเสริมวิถีชีวิตที่ยั่งยืนผ่านกิจกรรมต่าง ๆ เช่น (RE)charge ที่นำเสนอรถกระบะไฟฟ้า (RE) แล้วรวย ที่มีทั้งเกมแลกของรางวัลและการรีไซเคิลขวดพลาสติก และ (RE)turn สู่ชุมชน ที่เปิดพื้นที่ให้สินค้าชุมชน กิจกรรมเหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อกระตุ้นให้ผู้เข้าร่วมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวันให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น นอกจากนี้ โครงการยังเน้นการสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนอย่างแข็งขัน ผ่านการจัด “Market ตลาดรักชุมชน” และการสนับสนุนผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่มีหัวใจรักสิ่งแวดล้อม (Green Entrepreneurs) โดยใช้รถกระบะไฟฟ้าเป็นแพลตฟอร์มเคลื่อนที่ในการนำเสนอสินค้าและแนวคิด ซึ่งเป็นการเชื่อมโยงความยั่งยืนเข้ากับการพัฒนาเศรษฐกิจในระดับฐานราก
ในด้านการสร้างความตระหนักรู้ด้านสิ่งแวดล้อม กิจกรรมอย่าง (RE)serve the Sea ที่ให้ความรู้เรื่องการช่วยเหลือสัตว์ทะเลจากปัญหาขยะ และการนำเสนอเรื่องราวจากแบรนด์พันธมิตรในโครงการ Central Pattana Green Partnership จะช่วยให้ผู้คนเข้าใจถึงผลกระทบของปัญหาขยะต่อระบบนิเวศและเห็นแนวทางในการมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหา ประเด็นที่น่าสนใจรคือความพยายามในการลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์จากการจัดอีเว้นท์เอง โดยการนำ “รถพุ่มพวงไฟฟ้าสไตล์รักษ์โลก” ซึ่งเป็นรถกระบะไฟฟ้าจากความร่วมมือระหว่าง RIDDARA และเซ็นทรัลพัฒนา มาใช้เป็นอีเว้นท์เคลื่อนที่ นับเป็นการปรับแนวคิดเพื่อลดการปล่อยคาร์บอนทั้งจากการจัดงานและการเดินทาง การดำเนินกิจกรรม “(RE) Lifestyle Roadshow” ในลักษณะนี้จึงไม่ได้เป็นเพียงกิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) ทั่วไป แต่เป็นเครื่องมือสื่อสารเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญของเซ็นทรัลพัฒนาในการสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมอย่างแท้จริง
“Place Making” เพื่อ “People” และ “Planet”: ระบบนิเวศเพื่อความยั่งยืน
เซ็นทรัลพัฒนาขับเคลื่อนธุรกิจภายใต้โมเดล “The Ecosystem for All” ซึ่งมุ่งสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรทุกภาคส่วน และวางบทบาทของตนเองในฐานะ “Place Maker” หรือผู้สร้างสรรค์พื้นที่ ที่ผนวกรวมการดูแลทั้งด้าน “People” (ผู้คน ชุมชน และสังคม) และ “Planet” (สิ่งแวดล้อมและโลก) เข้าไว้ด้วยกันอย่างสมดุล
ในมิติของ “Planet” หรือการดูแลสิ่งแวดล้อม การเป็น Place Maker ของเซ็นทรัลพัฒนาหมายถึงการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีมาตรฐานระดับโลกด้านสิ่งแวดล้อม ตัวอย่างที่ชัดเจนคือการพัฒนาโครงการ “เซ็นทรัล กระบี่” ให้เป็นต้นแบบห้างฯ ยั่งยืน และ “เซ็นทรัล เวสต์วิลล์” ในฐานะ Low Carbon Mall รวมถึงความมุ่งมั่นที่จะทำให้ศูนย์การค้าทั้ง 42 สาขาทั่วประเทศเป็นศูนย์กลางในการสร้างความตระหนักรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการทำธุรกิจและการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน
ส่วนในมิติของ “People” หรือการดูแลผู้คนและสังคม ตลอดระยะเวลา 45 ปีที่ผ่านมา เซ็นทรัลพัฒนาได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมไทยอย่างต่อเนื่อง ทั้งในรูปแบบของการสนับสนุนทางการเงินและการมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 5,000 ล้านบาทในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา การสนับสนุนเหล่านี้ครอบคลุมหลากหลายด้าน ตั้งแต่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การสร้างพื้นที่สาธารณะที่เป็นประโยชน์ การส่งเสริมการศึกษา และการสร้างโอกาสทางอาชีพและรายได้ให้กับชุมชนทั่วประเทศ เพื่อร่วมกันส่งเสริมความมั่งคั่งในระดับท้องถิ่น (Local Wealth)
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
เมื่อความยั่งยืนขับเคลื่อนธุรกิจ: LISMA X นวัตกรรมเชื่อม SAP สู่ความยั่งยืน
ENTEC สวทช. โชว์ผลงานวิจัย-นวัตกรรมพลังงาน ย้ำภารกิจขับเคลื่อนไทยสู่ความยั่งยืน