Share on
×

Share

จับตา! Content Creators ไทยในอีก 10 ปีข้างหน้าจะเป็นอย่างไร

ปัจจุบันนี้วงการคอนเทนต์ครีเอเตอร์ (Content Creator) ถือเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่มีความเฟื่องฟูและเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากหลายปัจจัย เช่น การใช้งานโซเชียลมีเดียที่มีมากขึ้น การเกิดแพลตฟอร์ม E-Commerce ต่าง ๆ ฯลฯ ส่งผลให้การทำการตลาดหรือการสร้างแบรนด์หันมาใช้วิธีการปลุกปั้นตัวเองเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์กันมากขึ้น 

แล้วเทรนด์นี้ในอนาคตจะเป็นอย่างไร ในอีก 10 ปีข้างหน้า วงการคอนเทนต์ครีเอเตอร์ (Content Creator) ในประเทศไทยจะเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงในรูปแบบไหนบ้าง ไม่ว่าจะเป็นทั้งในแง่ของเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยี 

มาคาดการณ์อนาคตของวงการคอนเทนต์ครีเอเตอร์ที่จะช่วยให้ทิศทางของสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในหัวข้อการเสวนา “Futures of Content Creators in Thailand 2035” ในงาน Thailand  Influencer Awards 2024 โดยมีผู้เชี่ยวชาญในหลายด้านมาร่วมแบ่งปันมุมมอง เพื่อให้เหล่าคอนเทนต์ครีเอเตอร์ แบรนด์ หรือนักการตลาดสามารถปรับตัวให้สอดคล้องกับสิ่งที่มีแนวโน้มจะเกิดขึ้นได้ในอนาคตอย่างทันท่วงที 

มุมมองของผู้เชี่ยวชาญที่มีต่อวงการคอนเทนต์ครีเอเตอร์

สุวิตา จรัญวงศ์ CEO & Co-Founder, Tellscore และผู้จัดงาน Thailand  Influencer Awards กล่าวถึงแนวโน้มการเติบโตของวงการครีเอเตอร์ในประเทศไทยว่ายังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจมากกว่า 20% แต่ถึงแม้จะเติบโตเร็วและมีบทบาทมากแค่ไหนก็ยังมีความท้าทายในหลายๆ ด้านที่ทำให้ตลาดนี้มีการแข่งขันที่ดุเดือด เช่น เรื่องของความน่าเชื่อถือของเนื้อหา ซึ่งเป็นประเด็นที่ถูกตั้งคำถามจากผู้บริโภค โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับเสียงในโซเชียลมีเดียที่มักทำให้เกิดเป็นกระแสทางสังคมอยู่บ่อยครั้ง ดังนั้น  การรักษาความน่าเชื่อถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับครีเอเตอร์ทุกคนที่จะต้องรับมือให้ได้ในอนาคตหากต้องการที่จะยังทำให้วงการนี้เติบโตอย่างยั่งยืนได้ต่อไป

ดร.นพ. วรตม์ โชติพิทยสุนนท์ รองโฆษกกระทรวงสาธารณสุขและผู้ร่วมก่อตั้งสถาบันวิชาการเพื่อความยั่งยืนทางสุขภาพจิต (TIMS) เห็นว่าวงการคอนเทนต์ครีเอเตอร์มีบทบาทต่อสังคมไม่ใช่เรื่องของความบันเทิงเพียงอย่างเดียว เพราะดร.นพ. วรตม์เองก็เป็น Content Creators ในด้านการทำคอนเทนต์ของกรมสุขภาพจิต และเคยได้รับรางวัลเมื่อ Thailand Influencer Awards 2022 ทำให้เข้าใจว่าคอนเทนต์นั้นทำงานอย่างไรในด้านของการใช้เพื่อสร้างความรู้ให้กับประชาชนเกี่ยวกับด้านสุขภาพ ซึ่งเป็นคอนเทนต์อีกประเภทที่ผู้คนไม่ได้เสพเพื่อความสนุกหรือความบันเทิง แต่เป็นเนื้อหาที่มีผลกระทบโดยตรงต่อสังคมมากยิ่งขึ้น

วิพัตรา โตเต็มโชคชัยการ นักวิจัยด้านการคาดการณ์อนาคตอาวุโส ศูนย์วิจัยอนาคตศึกษา FutureTales Lab by MQDC มองว่าอนาคตของประเทศไทยเองก็ยังมีความเสี่ยงความผันผวนที่ต้องเจออีกมาก ดังนั้น ถ้าหันมามองในแง่ของสื่อและ Content Creators ในประเทศไทยที่มีบทบาทเข้ามาขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ขับเคลื่อนการใช้เทคโนโลยี หรือการส่งเสริมความรู้เข้าสู่สังคมก็ยังมีความกังวลว่า ข้อมูลด้านสุขภาพจิต สุขภาวะที่ดี เศรษฐกิจ เทคโนโลยีในอนาคตนี้ หากไม่ได้ทำการเตรียมพร้อมให้ดี ข้อมูลที่ได้จากครีเอเตอร์ก็อาจจะส่งผลกระทบในด้านลบตามมาได้ด้วยเช่นกัน

รายงานบทสรุปการคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงในอีก 10 ปีข้างหน้า (Future Changes in the Next 10 Years) สำหรับ Content Creators ไทย แล้วเราจะรู้แนวโน้มของการเปลี่ยนแปลงไปในช่วง 10 ปีข้างหน้านี้ของตลาด Content Creators ไทยได้อย่างไร? 

ในเรื่องนี้ทาง Tellscore จับมือ FutureTales LAB by MQDC ศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับอนาคตของคอนเทนต์ครีเอเตอร์ในไทยในอีก 10 ข้างหน้าว่าจะเป็นอย่างไรทั้งในแง่มุมของสังคม เทคโนโลยี เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม การเมือง และคุณค่า ไปจนถึงค่านิยมและการบริโภคคอนเทนต์จะเปลี่ยนไปตามพฤติกรรมผู้บริโภคในอนาคต ซึ่งกระบวนการคาดการณ์อนาคต (Foresight) ได้ช่วยให้เราเห็นว่าการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะมีทิศทางอย่างไร และจะสร้างผลกระทบเชิงบวกหรือลบต่อผู้ผลิตคอนเทนต์มากยิ่งขึ้น ทำให้ได้เป็น foresight study on futures of content creators in 2035,Thailand ซึ่งเป็นรายงานการศึกษาความเป็นไปได้ในอนาคตของ Content Creators ไทย

โดยทางวิพัตรา กล่าวว่า ทางทีมวิจัยได้ใช้กระบวนการ Foresight ซึ่งเป็นการมองอนาคตและวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ ซึ่งช่วยให้เรามองเห็นภาพอนาคตของวงการคอนเทนต์ครีเอเตอร์ได้อย่างชัดเจน ทั้งในแง่ที่ดีที่สุดและแย่ที่สุด โดยอ้างอิงจากการวิเคราะห์เทรนด์และปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญต่างๆ เช่น สถานการณ์ปัจจุบันที่ยังมีปัญหาบางส่วนที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข และโอกาสที่ยังมีอยู่ในตลาด ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะมีอยู่ด้วยกัน 5 เรื่อง ได้แก่

  1. การกำกับดูแลภายในอุตสาหกรรมคอนเทนต์ – การปรับปรุงกฎระเบียบและการกำหนดมาตรฐานใหม่ ๆ เพื่อควบคุมเนื้อหาและเพิ่มความเชื่อถือให้กับผู้บริโภค
  2. ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี – การใช้ AI และเทคโนโลยีอื่น ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตคอนเทนต์ และมีบทบาทในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
  3. การสร้างรายได้และโอกาสทางธุรกิจ – การร่วมมือกันระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้บริโภค เพื่อช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสร้างความเท่าเทียมในการแข่งขัน
  4. ค่านิยมในการบริโภคคอนเทนต์ – พฤติกรรมของผู้บริโภคจะมุ่งเน้นไปที่การเลือกเสพเนื้อหาที่มีประโยชน์ ส่งผลให้เนื้อหาที่สร้างสรรค์และมีคุณค่าได้รับความนิยมมากขึ้น
  5. ขีดความสามารถของผู้ผลิตคอนเทนต์ – ผู้ผลิตคอนเทนต์ต้องพัฒนาทักษะและความรู้ใหม่ ๆ เพื่อรับมือกับการแข่งขันและความท้าทายที่เกิดขึ้นในวงการ

นอกจากนี้ รายงานยังวิเคราะห์ถึงแนวโน้มในอนาคต และสร้างภาพอนาคตหลายรูปแบบ เพื่อให้เห็นถึงภาพที่พึงประสงค์และวางกลยุทธ์ รวมถึงแผนการนโยบายที่ควรพัฒนาต่อไปเพื่อขับเคลื่อนวงการ Content Creators ให้เติบโตอย่างมีศักยภาพในอนาคตด้วย

ปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้วงการ Connect creator  และ Influencer เติบโต

สุวิตา ได้กล่าวถึงปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนวงการ Content Creators คือ เศรษฐกิจ โดยมองว่าการสนับสนุนจากแบรนด์และเอเจนซี่ยังคงเป็นแรงผลักดันหลักที่ช่วยให้อุตสาหกรรมเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง หากยังคงมีการลงทุนในคอนเทนต์ครีเอเตอร์ วงการก็จะสามารถพัฒนาได้ต่อไป อย่างไรก็ตาม ก็มีการชี้ให้เห็นถึงความท้าทายด้าน ความเชื่อถือ (Trust) ซึ่งเป็นเงาที่ยังคงตามมาติด ๆ เพราะผู้คนยังคงตั้งคำถามถึงความน่าเชื่อถือของคอนเทนต์ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่วงการจะต้องรักษาระดับที่ดีไว้

นอกจากนี้ ยังมีการเน้นว่า เทคโนโลยี AI จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในอนาคต อาจถึงขั้นเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวหรือมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับมนุษย์ได้ และยังมีแนวโน้มว่าเทคโนโลยี Blockchain จะถูกนำมาใช้เพื่อเสริมสร้างความน่าเชื่อถือและความโปร่งใสของข้อมูลมากขึ้น สุดท้ายยังมีการคาดการณ์ว่าวงการ การศึกษา จะมีบทบาทสำคัญในการผลิตคนที่มีความรู้ความสามารถในด้านครีเอเตอร์ แม้จะไม่ใช่ครีเอเตอร์โดยตรง แต่จะอยู่ในสายงานที่เกี่ยวข้องและมีส่วนในการขับเคลื่อนวงการคอนเทนต์ครีเอเตอร์ให้เติบโตได้เช่นเดียวกัน

สำหรับนพ.วรตม์ มองว่า รัฐบาลควรให้ความสำคัญกับวงการบันเทิงและคอนเทนต์ครีเอเตอร์มากขึ้น จึงจำเป็นต้องสร้าง Ecosystem ที่แข็งแกร่งให้กับครีเอเตอร์ ทั้งในระดับล่างขึ้นบน (ผู้ผลิตเนื้อหา) และในระดับบนลงล่าง (หน่วยงานกำกับดูแล) เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนอย่างสมดุล ซึ่งการสร้างนโยบายที่ตอบสนองต่อความต้องการของวงการนี้ต้องอาศัยความรอบคอบ และจากการศึกษาของผู้เชี่ยวชาญจำนวน 70 คน ได้ชี้ให้เห็นถึงแนวทางที่นโยบายควรตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงในวงการคอนเทนต์ครีเอเตอร์ โดยการสร้างจุดเชื่อมระหว่างผู้ผลิตเนื้อหา (Individual) และหน่วยงานที่กำกับดูแล เพื่อให้มองเห็นภาพอนาคตร่วมกันและขับเคลื่อนวงการให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน

ส่วนวิพัตรา มองว่า อนาคตนั้นเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ดังนั้น การวางแผนและมองภาพอนาคตหลาย ๆ แบบจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้สามารถเตรียมพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งการกระทำหรือไม่กระทำใด ๆ ก็ตามจะส่งผลต่อวงการในอีก 10 ปีข้างหน้า ดังนั้น จึงควรเลือกทำสิ่งต่าง ๆ อย่างรอบคอบ เพื่อสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้กับวงการ Connect Creators ได้มากกว่าปัจจุบัน

สำหรับวงการคอนเทนต์ครีเอเตอร์ในประเทศไทยในอีก 10 ปีข้างหน้า ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้ผลิตคอนเทนต์จะต้องร่วมมือกันในการสร้างระบบที่สนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืน ความร่วมมือเหล่านี้จะช่วยให้ครีเอเตอร์สามารถสร้างเนื้อหาที่มีคุณค่าและสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้ในระยะยาว

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

RS ประกาศควบรวมกิจการ GIFT กางปีกรับธุรกิจ Consumer Lifestyle ตั้งเป้ารายได้ทะลุ 7 พันล้านบาท ในปี 68

ฟิลิปส์ หนุนแพทย์โรคหัวใจในพื้นที่ห่างไกล เชื่อมต่อการดูแลรักษาผ่านเทคโนโลยีสารสนเทศ

×

Share

ผู้เขียน