อย่างที่ทราบ ๆ กันว่าหนึ่งในปัญหาใหญ่มาก ๆ ของประเทศไทยคือ หนี้ครัวเรือนที่พุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ นับแต่คนไทยมี รถคันแรก กระทั่งสูงสุดในรอบ 15 ปีในปีนี้ โดยสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพี หรือผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ จากระดับ 50% ต่อจีดีพี เมื่อ 20 ปีก่อนขึ้นมาอยู่ในระดับ 90% ต่อจีดีพี ในปัจจุบันซึ่งเป็นระดับที่สร้างปัญหาให้กับระบบเศรษฐกิจ และยังลามไปถึงปัญหาสังคม
ที่ผ่านมานับจากรัฐบาลประยุทธ์ รัฐบาลเศรษฐา ถึงรัฐบาลปัจจุบันต่างประกาศให้ ปัญหาหนี้ครัวเรือนเป็นวาระแห่งชาติด้วยกันทั้งสิ้น
เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม ที่ผ่านมารัฐบาลได้ประกาศแผนล้างหนี้ครัวเรือน ภายใต้ยุทธการว่า คุณสู้เราช่วย โดยยุทธการดังกล่าวแยกออกเป็น 2 มาตรการย่อยคือ จ่ายตรงคงทรัพย์ที่เน้นไปที่กลุ่มลูกหนี้ ที่อยู่อาศัย รถสี่ล้อ สองล้อ เอสเอ็มอี จุดเด่นของมาตรการนี้ คือ การลดค่างวดผ่านการปรับโครงสร้างหนี้และพักชำระดอกเบี้ยยาว 3 ปี หากลูกหนี้ทำดี จ่ายตรง ไม่กู้เพิ่มภายใน 12 เดือน รัฐบาลจะให้โบนัส ยกดอกเบี้ยที่พักแช่เข็งเอาไว้ให้ทั้งหมด
ส่วนมาตรการที่สองพุ่งเป้าไปที่กลุ่มธุรกิจขนาดเล็กระดับไมโคร ยอดหนี้ไม่สูง และอีกส่วนคือ จ่ายปิดจบ ที่พุ่งเป้าหนี้บุคคลที่ยอดหนี้ไม่เกิน 5,000 บาท โดยมาตรการนี้รัฐบาลจะล้างหนี้ให้ลูกหนี้แต่มีเงื่อนไขว่าต้องเข้ามาปรับโครงสร้างหนี้และชำระหนี้บางส่วน ตรงนี้ยังไม่มีรายละเอียดว่า “ชำระหนี้บางส่วน” คิดจากยอดหนี้ที่ค้าง หรือ กำหนดอัตราผู้เข้าร่วมมาตรการจ่ายเท่ากันทุกรายแต่เข้าใจว่าไม่มาก
เป้าหมายของยุทธการดังกล่าวคือช่วยให้ลูกหนี้ทั้ง 2 กลุ่มข้างต้น ซึ่งรวมกันแล้วมีอยู่ 21 ล้านบัญชี จากลูกหนี้ 1.9 ล้านราย ซึ่งมียอดหนี้รวมกัน 8.9 แสนล้านบาท ใครมีทรัพย์ก็สามารถรักษาทรัพย์เอาไว้ได้ ใครที่มีหนี้ค้างบัญชีสามารถล้างบัญชีและกลับมาตั้งต้นชีวิตใหม่ได้ ไม่ต้องถูกจองจำด้วยสถานะเอ็นพีแอล (NPL) หรือหนี้เสีย จนไม่สามารถใช้บริการทางการเงินในระบบได้
โดยการนี้รัฐบาลไปล้วงเอาเงินจาก กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) ด้วยการลดเงินที่แบงก์ต้องนำส่ง (กองทุนฟื้นฟูฯ) 0.46% เหลือ 0.23% เป็นการชั่วคราว ตรงนี้ได้เงินมา 39,000 ล้านบาท และกระทรวงการคลังไปล้วงเอาจากแบงก์รัฐที่ต้องนำส่งกองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ (SFIF) หรือกองทุนฟื้นฟูฯ แบงก์รัฐ จาก 0.25% เหลือ 0.125% ได้เงินจากส่วนนี้อีก 38,000 ล้านบาท
เงินจาก 2 ส่วนข้างต้นรัฐบาลเตรียมไว้รองรับ “พักชำระดอกเบี้ย” โดยแบ่งคนละครึ่งกับแบงก์พาณิชย์
เศรษฐพุฒ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าแบงก์ชาติ บอกว่า มาตรการ “คุณสู้เราช่วย” มีความแตกต่างจากมาตรการที่ผ่าน ๆ มาใน 2 จุดสำคัญ คือ
หนึ่ง เป็นการปรับโครงสร้างหนี้ที่เน้นตัดเงินต้น และลดภาระผ่อนช่วง 3 ปีแรก เพื่อเติมสภาพคล่องให้ลูกหนี้ และสองเป็นการร่วมสมทบเงิน Co-payment จากภาครัฐและสถานบันการเงินเพื่อช่วยลดภาระจ่ายของลูกหนี้
ต้องยอมรับว่า มาตรการล้างหนี้ล่าสุดยืดหยุ่นกว่ามาตรการครั้งที่ผ่านมามาก โดยกลุ่มลูกหนี้ ที่อยู่อาศัย (ยอดหนี้ไม่เกิน 5 ล้านบาท) เช่าซื้อรถมอเตอร์ไซด์ (ยอดหนี้ไม่เกิน 50,000 บาท) รถยนต์ (ยอดหนี้ไม่เกิน 800,000 บาท) และเอสเอ็นอี (ยอดหนี้ใม่เกิน 5 ล้านบาท) ที่มีสถานะหนี้ ณ วันที่ 31 ตุลาคม ที่ผ่านมา เป็นหนี้ที่ค้างชำระเกิน 30 วันแต่ไม่เกิน 1 ปี หากเข้าร่วมมาตรการจะได้รับการบรรเทา ผ่อนชำระเงินต้นรายเดือน (ปีแรก 50% ของค่างวดปีที่สอง 70% และ 90% ในปีที่สาม) และได้สิทธิยกดอกเบี้ยหาก ผ่อนชำระตรง และ ไม่ก่อหนี้เพิ่ม
กับมาตรการล้างหนี้ครัวเรือนล่าสุด แม้มีเสียงชื่นชมว่าเงื่อนไขสุดพิเศษที่มอบให้ลูกหนี้ที่กำลังจะกลายเป็นหนี้เอ็นพีแอลที่ทั้งผ่อนปรนและผ่อนคลายชนิดที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนในประวัติศาสตร์การเงินไทย แต่อีกด้านหนึ่งมีสื่อถาม พิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และรมว.คลัง ในวันแถลงเปิดตัวมาตรการล้างหนี้ประมาณว่า ทำเช่นนี้จะไม่เป็นการสนับสนุนให้คนเบี้ยวหนี้หรอกหรือ?
ทางรองนายกฯ ยืนยันหนักแน่นว่า มาตรการดังกล่าวไม่สนับสนุนให้คนเบี้ยวหนี้ แต่เนื่องจากกลุ่มลูกหนี้ดังกล่าวมีปัญหาจริง ๆ พร้อมยืนยันว่ามีกลไกการส่งเสริมวินัยทางการเงินควบคู่ไปกับการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหา เสียวินัยการชำระเงิน หรือ Moral Hazard ในภายหลัง
แม้รองนายกฯยืนยันว่า มาตรการล้างหนี้ที่ออกมาไม่สนับสนุนคนเบี้ยวหนี้ แต่บรรดาลูกหนี้ดีที่จ่ายตรงจ่ายครบคงต้องไตร่ตรองว่าระหว่างเสียงชื่นชมว่าเป็นลูกหนี้ดี กับการเป็นลูกหนี้เสียแต่ได้พักดอกเบี้ยและถ้าจ่ายคบ รัฐบาลยังยกภาระดอกเบี้ยเป็นโบนัสให้อีก อย่างไหนดีกว่ากัน เป็นอะไรที่ท้าทายความรู้สึกมากเหมือนต้องตัดสินใจเลือกระหว่าง จริยธรรม กับผลประโยชน์
ปล.ใครที่สนใจเข้าร่วมโครงการ “คุณสู้เราช่วย” สมัครตรงได้ที่ https://www.bot.or.th/khunsoo ตั้งแต่วันนี้ถึง 28 กุมภาพันธ์ปีหน้าหากมีข้อสงสัยสอบถามคอลเซ็นเตอร์แบงก์ชาติ 1213 หรือคอลเซ็นเตอร์สถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการและกดเบอร์ต่อ 99