Share on
×

Share

InnoSpace ลงทุนเพิ่ม 50 ล้านบาท หนุนสตาร์ตอัพ Deep Tech

บริษัท อินโนสเปซ (ประเทศไทย) จำกัด แถลงผลการดำเนินงานประจำปี 2567 พร้อมประกาศวิสัยทัศน์ขับเคลื่อนระบบนิเวศสตาร์ตอัพไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยในปีที่ผ่านมาบริษัทฯ มีผู้ถือหุ้นใหม่คือ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) (NT) ที่ได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันเทคโนโลยีของประเทศไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน และ ได้ลงทุนเพิ่มในสตาร์ตอัพ อีก 3 รายที่มีศักยภาพ ด้วยเงินลงทุนรวมทั้งหมด 22 ล้านบาทในปี 2567 ที่ผ่านมา

เทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานกรรมการ บริษัท อินโนสเปซ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2567 บริษัทดำเนินการเพิ่มทุนรอบที่ 4 โดยมี บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) (NT) เข้าร่วมลงทุนเพิ่มเติม ด้วยมูลค่าการลงทุนเพิ่มอีก 100 ล้านบาท ทำให้ปัจจุบัน InnoSpace มีผู้ลงทุนรวมทั้งสิ้น 17 ราย ด้วยจำนวนเงินทุนมากกว่า 800 ล้านบาท โดยผู้ถือหุ้นทั้งหมดของ InnoSpace มีความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนสตาร์ตอัพ นวัตกรรมและเทคโนโลยีของประเทศไทย พร้อมขับเคลื่อนระบบนิเวศให้เติบโตอย่างยั่งยืน

ในปีที่ผ่านมา อินโนสเปซ ยังได้ร่วมลงทุนกับกองทุนอินโนเวชั่น วัน (Innovation One) และสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) ที่เป็นพันธมิตรด้านการลงทุนกับ InnoSpace เพื่อส่งเสริมให้สตาร์ตอัพมีเงินลงทุนเพื่อขยายตลาดและพัฒนาเทคโนโลยีได้อย่างต่อเนื่องเพื่อมุ่งหวังให้ ประเทศไทยสามารถมี New S-Curve ได้ในอนาคต

เตรียมจัด InnoSpace Summit 2025 เสริมแกร่งระบบนิเวศสตาร์ตอัพไทย

สำหรับ งาน InnoSpace Summit 2025 เป็นเวทีสำคัญที่รวมผู้เชี่ยวชาญ นักลงทุน และผู้ประกอบการสตาร์ตอัพ มาร่วมแลกเปลี่ยนแนวคิดและโอกาสทางธุรกิจ โดยในงานจะประกอบไปด้วยกิจกรรมสำคัญ อาทิ แถลงผลการดำเนินงานและการลงทุนในปีที่ผ่านมา, พิธีประกาศความร่วมมือด้านการลงทุนของ NT กับ InnoSpace, บรรยายพิเศษ หัวข้อ “How Thailand can become a leader in Deeptech Ecosystem”, เสวนา หัวข้อ “First Step Forward: Working with InnoSpace” เจาะลึกแนวทางเตรียมข้อมูลเพื่อดึงดูดเงินทุนจาก Venture Capital, พิธีประกาศรายชื่อสตาร์ตอัพที่ได้รับคัดเลือกเข้าโครงการ Venture Spark และกิจกรรม Networking เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมได้เชื่อมโยงเครือข่ายทางธุรกิจ

สำหรับปี 2568 InnoSpace ตั้งเป้าสนับสนุนการลงทุนเพิ่มอีก 50 ล้านบาท ในสตาร์ตอัพที่พัฒนาเทคโนโลยีเชิงลึก (Deep Tech) โดยมุ่งเน้นไปที่ 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1.เทคโนโลยี 4.0 และเทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืน 2.เทคโนโลยีด้านอาหารและเกษตร (Food & AgriTech) 3.เทคโนโลยีด้านการแพทย์ (HealthTech)

การสนับสนุนสตาร์ตอัพในกลุ่มนี้จะช่วยผลักดัน New S-Curve ให้กับเศรษฐกิจไทย และในปี 2568 นี้จะขยายความร่วมมือกับ A2D Ventures ผ่านโครงการ Venture Spark Accelerator ซึ่งเป็นโปรแกรมบ่มเพาะที่ช่วยให้สตาร์ตอัพสามารถปลดล็อกศักยภาพของตนเองและขยายโอกาสให้ธุรกิจสตาร์ตอัพไทยเติบโตในระดับภูมิภาคและระดับโลก

“เรามุ่งมั่นที่จะสร้างระบบนิเวศที่แข็งแกร่งเพื่อให้สตาร์ตอัพไทยสามารถแข่งขันและเติบโตได้อย่างยั่งยืน ทั้งในประเทศและในตลาดสากล” เทวินทร์กล่าว

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

NIA จับมือพันธมิตร เดินหน้าปั้น SPACE-F ปี 5 ดันไทยแจ้งเกิดฟู้ดเทคสตาร์ตอัพ

ปี 2025 คนทำสื่อต้องปรับตัว แนะสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ จัดอีเวนต์เชื่อมโยงผู้คน

×

Share

ผู้เขียน