Share on
×

Share

SCB WEALTH คว้า 3 รางวัลแห่งปี บนเวทีโลก ด้าน Digital Wealth – CIO และ DPM

SCB WEALTH ตอกย้ำความเป็นเลิศในทุกโซลูชันด้านการบริหารความมั่งคั่งของ SCB WEALTH รับ 3 รางวัลใหญ่บนเวทีระดับโลก ในงาน “2022 ASIAN PRIVATE  BANKER 12 th  Award  for Distinction” ได้แก่ รางวัล Best Domestic Private Bank – Digital Innovation and Services รางวัล  Best Domestic Private Bank – CIO Office และรางวัล Best Domestic Private  Bank- Discretionary  Portfolio Management จัดโดย  Asian Private Banker ซึ่งเป็นนิตยสารการเงินการลงทุนชั้นนำในภูมิภาคเอเชีย

SCB ส่ง WEALTH4U ฟีเจอร์ใหม่บน SCB EASY ช่วยคัดสรรกองทุน แม่นยำขึ้น 25 เท่า

ทั้ง 3 รางวัลได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการ Asian Private Banker เนื่องจาก ความมุ่งมั่น และการทุ่มเทของทีม SCB  WEALTH  ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ได้มีการพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัล สำหรับวางแผนการลงทุน (Wealth  Platform ) หรือ wplan ที่สามารถจัดพอร์ตการลงทุน โดยเน้นกลยุทธ์การจัดสรรสินทรัพย์ลงทุนที่ออกแบบเป็นพิเศษเฉพาะลูกค้าแต่ละราย (Personalized Asset  Allocation)  ควบคู่ไปกับการนำแพลตฟอร์มเทคโนโลยีและดาต้า (Brain Capability) มาใช้วิเคราะห์ข้อมูลการลงทุนของลูกค้า ตลอดจนให้คำปรึกษาแบบ Hybrid Advisory โดยผ่านทีมที่ปรึกษาการลงทุน ควบคู่กับ Wealth Platform เพื่อให้การจัดพอร์ตการลงทุนให้เป็นไปตามเป้าหมายของลูกค้าอย่างแท้จริง  และขยายฐานการลงทุนผ่าน SCB Easy เพื่อให้ลูกค้าได้เลือกสินทรัพย์ลงทุนที่หลากหลายมากขึ้นแบบ Open Architecture ที่สอดคล้องกับกลยุทธ์ของธนาคารในการวางเป้าหมายเป็น  Digital Bank  with Human Touch  และยืนหนึ่งด้านบริหารความมั่งคั่งผ่าน Digital Wealth

SCB แต่งตั้ง ดร.ยรรยง ไทยเจริญ นำทัพกลุ่ม Wealth ตั้งเป้า 3 ปี AUM แตะ 2 ล้านล้านบาท

ทั้งนี้ ทีมที่ปรึกษาการลงทุนของ SCB และพันธมิตรทางธุรกิจได้ทำงานกันอย่างใกล้ชิด เพื่อเฟ้นหาและคัดกรองผลิตภัณฑ์ ให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ากลุ่ม Ultra High Net Worth Individual  (UHNWI) อย่างแท้จริง  โดยคณะกรรมการ  Asian Private Banker ได้เห็นศักยภาพ และความเชี่ยวชาญอย่างมืออาชีพ ของทีม SCB CIO ในการบริหารพอร์ตกองทุน Alpha ที่จัดสรรสินทรัพย์ลงทุนออกแบบเป็นรายบุคคล  โดยการคัดสรรหุ้นเพียง 7-15 หลักทรัพย์ สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวได้อย่างมีเสถียรภาพให้กับลูกค้า   นอกจากนี้  มีการจัดพอร์ตที่ออกแบบเฉพาะรายบุคคล และมีการปรับสัดส่วนสินทรัพย์ลงทุนตามภาวะตลาดในแต่ละช่วงเวลาแบบทันท่วงทีในรูปแบบ DPM ซึ่ง SCB CIO ได้มีการวางกลยุทธ์การจัดพอร์ต แบบ Strategy Asset  Allocation  (SAA) และ Tactical  Asset Allocation (TAA)  ให้เหมาะสมกับสถานการณ์การลงทุนที่เปลี่ยนไป โดยสามารถสร้างผลตอบแทนรวม 5 ปี ( 2016 -2021 )อยู่ที่  41.07% ในขณะที่ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน อยู่ที่ 9.44%

นอกจากนี้ ได้มีการคัดสรรผลิตภัณฑ์ที่สามารถกระจายความเสี่ยงได้ดี มีผลิตภัณฑ์การลงทุนใหม่ๆที่เหมาะกับแต่ละสภาวะการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ ช่วยสร้างความสมดุลให้กับพอร์ตการลงทุนของลูกค้าในช่วงที่ตลาดเกิดความกังวลจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย ในขณะที่เฟดมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องเพื่อสกัดปัญหาเงินเฟ้อ  เช่น การลงทุนใน Private Equity, Private Debt, หุ้นกู้อนุพันธ์แฝงที่อิงกับสินทรัพย์ประเภทต่าง ๆ (Structure Note) เช่น KIKO และ Shark fin และการลงทุนผ่านสินเชื่อประเภท Property backed loan  และ Lombard loan เป็นต้น  พร้อมทั้งส่งเสริมผลิตภัณฑ์ที่ให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม  สังคม และธรรมาภิบาล ผ่านกองทุน ESG  โดยมีเครดิตเรตติ้งในด้าน Sustainability  ระดับ 4-5  ดาว จาก Morning star   มาอย่างต่อเนื่องจนส่งผลให้ธนาคารมีมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ (AUM) กองทุน ESG อันดับ 1  ของอุตสาหกรรม และมีมากกว่า 80 กองทุน ให้ลูกค้าได้เลือกลงทุนตามความเหมาะสม

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

ไบโอเทค สวทช. เปิดโรงงานต้นแบบชีวกระบวนการไบโอเทค มาตรฐานสากล

KBTG จับมือ AIS ZEED 5G ชวนเปิดเบอร์ใหม่กับ ZEED 5G

×

Share

ผู้เขียน