จากผลการสำรวจ Thailand Cyber Wellness Index 2024 ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดสุขภาวะดิจิทัลของคนไทย AIS ชี้ยกระดับความมั่นคงทางไซเบอร์ให้เป็นวาระแห่งชาติ
ปัจจุบันคนไทยใช้เวลาในโลกออนไลน์เฉลี่ย 7-8 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งใกล้เคียงกับเวลาที่ใช้ในโลกแห่งความเป็นจริง อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการใช้อินเทอร์เน็ตจะเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวัน แต่คนไทยส่วนใหญ่ยังไม่เคยได้รับการสอนเกี่ยวกับการใช้งานอย่างปลอดภัย ปัญหาต่าง ๆ ที่อาจพบเจอ เช่น การจัดการเวลา การกลั่นแกล้งบนโลกออนไลน์ หรือข่าวปลอม ล้วนส่งผลกระทบต่อ “สุขภาวะดิจิทัล”
ข้อมูลจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติเผยให้เห็นถึงสถานการณ์อาชญากรรมออนไลน์ที่น่าเป็นห่วง โดยประเทศไทยติดอันดับ 6 ของโลกในด้านนี้ มูลค่าความเสียหายสูงถึง 70,000 ล้านบาท หรือเฉลี่ย 100 ล้านบาทต่อวัน มีการแจ้งความออนไลน์ผ่านระบบกว่า 600,000 เรื่อง และสามารถอายัดบัญชีที่เกี่ยวข้องได้ถึง 463,399 บัญชี คิดเป็นมูลค่ากว่า 39,000 ล้านบาท แม้จะสามารถอายัดเงินคืนได้ทันเพียง 7,000 ล้านบาทก็ตาม
พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี1(บก.สอท.1) เปิดเผยว่า ประเทศไทยติดอาชญากรรมออนไลน์อันดับ 6 ของโลกมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้น 70,000 ล้านบาท เฉลี่ยต่อวัน 100 ล้านบาท มีคดีที่แจ้งผ่านระบบออนไลน์ผ่าน https://www.thaipoliceonline.go.th/ จำนวน 612,603 เรื่อง ผลอายัดบัญชี 463,399 บัญชี ยอดเงิน 39,000 ล้านบาท และประเภทคดีที่เกิดขึ้นมากที่สุด 5 อันดับคือ 1.การหลอกลวงให้ซื้อสินค้าหรือบริการ 2.การหลอกให้โอนเงินเพื่อทำงาน 3.หลอกให้กู้เงิน 4.หลอกให้ลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์ 5.ข่มขู่ทางโทรศัพท์
ผลกระทบที่ทำให้เกิดความเสียหายทางทรัพย์สินคือ การถูกหลอกบนโลกออนไลน์ ซึ่งปัจจุบันมีรูปแบบการฉ้อโกงของมิจฉาชีพอยู่ 2 ลักษณะคือ 1.การดูดเงินจากลิงก์ปลอม ในส่วนนี้สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) ได้ทำงานร่วมกับ AIS เพื่อลดจำนวนเคสการถูกหลอกลงจาก 20 ราย เหลือ 1 รายต่อวัน 2. Call Center หลอกให้เหยื่อโอนเงินจากธนาคารของตัวเองจากการข่มขู่ให้กลัว หรือแอบอ้างเป็นหน่วยงานราชการ ซึ่งปัญหาทั้งหมดจึงถูกสรุปออกมาเป็นองค์รวมเรื่อง “สุขภาวะดิจิทัล” ที่จะมีผลต่อการผลักดันประเทศไทยเข้าสู่ Digital Economy
ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์เหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของ “สุขภาวะดิจิทัล” ซึ่งมีผลกระทบโดยตรงต่อการพัฒนาประเทศไทยไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัล
สายชล ทรัพย์มากอุดม หัวหน้าหน่วยธุรกิจประชาสัมพันธ์และงานธุรกิจสัมพันธ์ AIS กล่าวว่า ในยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของคนไทย การป้องกันภัยไซเบอร์กลายเป็นประเด็นที่ไม่สามารถมองข้ามได้ ทำให้การทำงานของ AIS ในฐานะผู้นำด้านบริการดิจิทัลที่มุ่งส่งเสริมการใช้งานออนไลน์ที่ถูกต้องเหมาะสมและปลอดภัย ทั้งในมุมของการสร้าง Wisdom ที่จะนำไปสู่การสร้างพลเมืองดิจิทัลที่มีความรู้เท่าทันภัยไซเบอร์
Thailand Cyber Wellness Index 2024 เป็นเครื่องมือที่ใช้ประเมินระดับสุขภาวะดิจิทัลของคนไทย โดยการสำรวจครั้งนี้มีกลุ่มตัวอย่างกว่า 50,000 คน และแบ่งผลการประเมินออกเป็น 3 ระดับ ได้แก่
- Impersonal: ผู้ที่มีความรู้ไม่เพียงพอ ไม่สามารถสอนผู้อื่นได้ และยังไม่สามารถป้องกันตนเองจากภัยไซเบอร์
- Basic: ผู้ที่มีความรู้เพียงพอในการป้องกันตนเองจากภัยไซเบอร์ แต่ยังไม่สามารถให้ความรู้แก่ผู้อื่นได้
- Advanced: ผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจในระดับสูง สามารถให้ความรู้และคำแนะนำแก่ผู้อื่นในการป้องกันภัยไซเบอร์ได้
ผลการสำรวจพบว่าค่าเฉลี่ยของคนไทยอยู่ที่ระดับ Basic ซึ่งบ่งชี้ว่าคนไทยยังมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ และเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ความเสี่ยงนี้ยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการกลั่นแกล้งบนโลกออนไลน์ (Cyberbullying)
นอกจากนี้ ผลสำรวจยังเผยให้เห็นว่าคนไทยมากกว่าครึ่งยังไม่รู้จักภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่สำคัญ เช่น แรนซัมแวร์ หรือการใช้ Wi-Fi สาธารณะในการทำธุรกรรมทางการเงิน ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการถูกโจรกรรมข้อมูล
จากผลการสำรวจดังกล่าว AIS จึงได้ประกาศยกระดับการสร้างความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ โดยมุ่งเน้นการสร้างทักษะและความรู้ความสามารถในการบริหารความเสี่ยงทางไซเบอร์ให้กับคนไทยทุกกลุ่ม ทั้งต่อตนเอง ครอบครัว และชุมชน
AIS ได้พัฒนาเครื่องมือ “Digital Health Check” เพื่อช่วยให้คนไทยสามารถประเมินทักษะด้านดิจิทัลของตนเอง และเข้าถึงช่องทางการเรียนรู้ที่เหมาะสม นอกจากนี้ ยังมีบริการ AIS Secure Net ที่ให้บริการฟรี เพื่อช่วยป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ และบริการ Secure Net+ Protected by MSIG ที่มาพร้อมประกันภัยความคุ้มครองภัยไซเบอร์
ทั้งหมดนี้เป็นความพยายามของ AIS ในการสร้างความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ให้กับคนไทย และสนับสนุนการก้าวเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ
นอกจากนี้ยังมีสายด่วน 1185 ไว้ให้แจ้งเบาะแสด้านอาชญากรรมไซเบอร์ที่จัดตั้งมาแล้ว 2 ปี ปัจจุบันมีผู้ใช้บริการโทรเข้ามาร้องเรียนแล้วกว่า 2 ล้านราย เพื่อให้ข้อมูลกับ AIS นำไปแจ้งตำรวจเพื่อปิดกั้นเบอร์โทร ลิ้งค์ หรือ SMS ของอาชญากร ซึ่งในปี 2566 ได้ปิดกั้นเบอร์โทร ลิ้งค์ดูดข้อมูล ไปแล้วกว่า 16.75 ล้านครั้ง เว็บไซต์อันตราย 9.4 แสนครั้ง และป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์ 252 ครั้ง
นอกจากนี้ยังมีการจับมือกับ Google จัดทำบริการ Google Family Link เป็นแอปพลิเคชันฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ช่วยให้ผู้ปกครองสามารถดูแลการใช้อินเทร์เน็ตของบุตรหลาน โดยสามารถตรวจสอบได้ว่าบุตรหลานของท่านลงแอปพลิเคชันอันตราย ใช้งานมือถือเป็นระยะเวลานานเท่าไหร่ มีการเข้าสู่เว็บไซต์อันตรายหรือไม่
การประกาศยกระดับสร้างความมั่นคงทางไซเบอร์ให้เป็นวาระแห่งชาติจาก AIS ในครั้งนี้ ต้องอาศัยความร่วมมือจากภาครัฐฯ ภาคเอกชน ธนาคาร และสื่อมวลชน ในการเสริมสร้างทักษะด้านดิจิทัล ให้คนไทยสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้อย่างปลอดภัย ลดเหตุอาชญากรรมไซเบอร์ที่เกิดขึ้น เพื่อปูทางให้ประเทศไทยก้าวสู่ Digital Economy ต่อไปในอนาคต
AIS ยังเดินหน้าสนับสนุนการใช้งานอินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัย ด้วยการมอบบริการ AIS Secure Net ให้ใช้งานฟรี เพียงกด 6896# และยังมีบริการเสริม Secure Net+ Protected by MSIG ที่ให้ความคุ้มครองจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ต่างๆ พร้อมประกันภัยความคุ้มครองส่วนบุคคลจาก MSIG ในวงเงินสูงสุด 50,000 บาท ในราคาเพียงเดือนละ 39 บาท สมัครได้ง่ายๆ เพียงกด 68910#
สายชล กล่าวย้ำถึงความมุ่งมั่นของ AIS ในการเสริมสร้างทักษะดิจิทัลให้กับคนไทย และพัฒนาเครื่องมือต่างๆ เพื่อให้คนไทยสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้อย่างปลอดภัย นอกจากนี้ AIS ยังให้การสนับสนุนภาครัฐในการแก้ไขปัญหาภัยไซเบอร์ ผ่านมาตรการต่าง ๆ เช่น การยืนยันตัวตน การควบคุมสัญญาณบริเวณชายแดน และการสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
“ทั้งหมดนี้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของ AIS ที่ต้องการขจัดภัยไซเบอร์ออกไปจากประเทศไทยอย่างยั่งยืน”